วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ลองปาเจโร่สปอร์ต4WDหนึบถึงใจ!!

ลองขับ ปาเจโร่สปอร์ต 4WD ที่มาพร้อมค่าตัวระดับ 1.3ล้านบาท แต่ก็แลกมาด้วยช่วงล่างที่หนึบแน่นทุกเส้นทาง
โดย...พิสันต์ อิทธิวัฒนกุล
ช่วงนี้เป็นเทศกาลของการขับรถเที่ยวเล่นของผมครับ เพราะเวลาช่วงฝนฟ้าไม่ค่อยเป็นใจ ดูเหมือนว่าผู้คนทั้งหลายจะขับรถไปท่องเที่ยวกันลดลง เหลือก็แต่มนุษย์สายพันธุ์ที่ไม่กลัวการขับรถกลางสายฝนที่ยังออกเร่ร่อนกัน อยู่ อย่างในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องบอกว่าไปไหนมาไหนสะดวกสบายมากเลยครับ รถไม่เยอะ คนก็ไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าไรนัก
แต่ถ้าเลือกรถที่จะมาเป็นพาหนะในการพาผมและครอบครัวเดินทางไปไหนกันได้ ก็คงต้องขอเลือกรถที่คิดว่าจะเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการใช้ ชีวิตได้ไม่มากก็น้อย ว่าแล้วก็เลยต่อสายหาพีอาร์สาวของมิตซูบิชิ เพื่อขอหยิบยืมปาเจโร่ สปอร์ต รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อมาประจำการในช่วงสุดสัปดาห์ล่าสุด
ก่อนหน้านี้เคยเอารุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อมาลองใช้งานดูแล้วรอบหนึ่ง ก็พบว่าเป็นรถที่น่าสนใจ ขับขี่ได้อย่างสนุกสนานถ้ารู้จักตัวรถและรอบเครื่องของรถ ช่วงล่างที่ไว้ใจได้ แต่ก็ได้รับคำท้าว่าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของปาเจโร่ สปอร์ตนั้น ให้ความรู้สึกมั่นคง หนึบหนับ มั่นใจมากขึ้นกว่าตัวขับเคลื่อน 2 ล้อมากนัก
วันไปรับรถทดสอบก็พบปาเจโร่ สปอร์ต สีน้ำตาลทอง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นสีใหม่จอดรออยู่ ตัวบอดี้ของรถดูสูงใหญ่กว่ารุ่นขับสองเล็กน้อย โดยอุปกรณ์และชุดแต่งที่ให้มาถือว่าจัดเต็มมาให้สมกับเป็นรุ่นท็อป และค่าตัวระดับกว่า 1.3 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นราคาระดับท็อปๆ ของรถยนต์พีพีวี หรือกระบะดัดแปลงในระดับเดียวกัน
แม้จะใช้เครื่องยนต์ 2.5 วีจีเทอร์โบเหมือนกันทุกรุ่น แต่ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เลือกคบกับเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด แทนที่จะเป็นแบบ 4 สปีด เหมือนในรุ่นขับสองล้อ แถมในรุ่นท็อปยังติดตั้งแป้นเปลี่ยนเกียร์ (แพดเดิลชิฟต์) มาไว้ที่ด้านหลังพวงมาลัย แต่แปลกๆ ตรงที่ติดตั้งอยู่กับที่ ไม่สามารถหมุนไปตามจังหวะการหมุนของพวงมาลัย
ขณะที่ไฟหน้าเปลี่ยนไปเป็นไฟหน้าแบบเอชไอดี พร้อมระบบปรับระดับลำแสงอัตโนมัติ ติดตั้งระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ รวมถึงเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยมากขึ้นด้วยระบบฉีดน้ำล้างไฟหน้า ที่ซ่อนเอาไว้ใต้โคมไฟอย่างสวยงาม
ตัวเครื่องยนต์เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร ดีไอ-ดี ไฮเปอร์คอมมอนเรล 4 สูบ 16 วาล์ว มาพร้อมวีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ พร้อมท่อร่วมไอดี ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800–3,500 รอบต่อนาที
เรื่องกำลังเครื่องยนต์ถือว่าไม่ได้แตกต่างจากที่ผ่านมาครับ น้ำหนักรถที่เพิ่มขึ้นไม่ได้มีผลต่อการขับขี่มากนัก ถ้ารู้จักคุมรอบเครื่องในแบบที่ควรจะเป็น ก็จะใช้งานได้แบบไม่มีปัญหา ทั้งเรื่องการทำความเร็วและการเร่งแซง แต่รถใหญ่ขนาดนี้จะเร่งปรู๊ดปร๊าดทันใจก็คงไม่ได้ดั่งใจนัก
สิ่งที่ทำให้รถคันนี้โดดเด่นและแตกต่างจากรุ่นขับสองล้อ คือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์ ซีเลกต์ที่นำมาติดตั้งนี่แหละครับ ถ้าขับกันแบบปกติก็เลือกส่งกำลังผ่านล้อหลัง 100% กันไป ถ้าอยากได้ความหนึบแน่น มั่นใจมากขึ้น ก็แค่เปลี่ยนตำแหน่งเกียร์จาก 2H มาไว้ที่ 4H เพื่อกระจายน้ำหนักด้านหน้าและหลังของตัวรถที่ 50:50 ก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของรถทันที
และก็เป็นไปตามที่มีการท้าทายเอาไว้ครับ ช่วงล่างของรถกลายเป็นรถที่หนึบแน่น และวางใจได้กว่าตอนที่ส่งกำลังไปที่ล้อหลังเพียงอย่างเดียว พวงมาลัยซับแรงกระแทกจากพื้นถนนได้อย่างดี เวลาเข้าโค้งที่ความเร็วสูง อาการยวบยาบก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน
ปาเจโร่ สปอร์ต รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ วางราคา 1.312 ล้านบาท โดยหากต้องการสีขาวต้องเพิ่มเงินอีก 1.5 หมื่นบาท แต่ถ้าไม่เน้นอุปกรณ์มากก็มีรุ่นล่าง สนนราคา 1.157 ล้านบาท ไว้เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ
ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการรถพีพีวีไว้ใช้งานสักคันหนึ่ง ด้วยหน้าตาที่สดใส อายุในตลาดที่น้อยกว่าคู่แข่งรายอื่น แถมด้วยอุปกรณ์ตกแต่งที่จัดมาค่อนข้างเต็มที่ ไม่ต้องไปตกแต่งอะไรเพิ่มเติม
จ่ายแพงขึ้นก็ต้องใช้นะครับ ถ้าคิดว่าชาตินี้จะไม่ไปบุกป่าฝ่าดง หรือใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเลย กลับไปมองรุ่นขับสองก็พอแล้วครับ มีเงินเหลือเติมน้ำมันได้หลายเดือนเลย!!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น