เคาะราคา 4.65-9.94 แสนบาท มาพร้อมเครื่อง3 ลิตรเจนเนอเรชั่นใหม่ 177 แรงม้าเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด
อีซูซุเปิดตัวรถปิกอัพดีแมคซ์ใหม่หมด หัวจดท้ายครั้งแรกในโลกที่เมืองไทย ผสานเทคโนโลยีอากาศพลศาสตร์ดุจรถไฟหัวกระสุนและเทคโนโลยีอัจฉริยะดุจ อากาศยานส้ำสมัย พลิกโฉมหน้าโลกยานยนต์ในฐานะผู้กำหนดมาตรฐานใหม่ของรถปิกอัพ
ทีมงานได้พัฒนาและออกแบบรถปิกอัพ สำหรับคนทั้งโลกใหม่หมดทุกมิติ โดยยึดความต้องการของผู้ใช้รถชาวไทยเป็นหลัก เพราะตลาดปิกอัพขนาด 1 ตันของไทยมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และยังมีรูปแบบการใช้รถปิกอัพที่หลากหลายมากที่สุด นำมาสู่ความเป็นสุดยอดยนตรกรรมสำหรับคนทั้งโลกอย่างแท้จริง
ฮิโรชิ นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ เปิ ดเผยว่า อีซูซุ ดีแมคซ์ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการรถยนต์เมืองไทยมากมาย พร้อมทั้งยังได้รับความมั่นใจจากผู้ใช้ทั่วโลกด้วยยอดจำหน่ายรวมกว่า 2 ล้านคัน ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของกลุ่มอีซูซุ
ดีแมคซ์ใหม่ มาพร้อมรูปลักษณ์แนวสปอร์ตทรงพลัง โฉบเฉี่ยวจากเส้นสายที่แข็งแกร่งทั้งคันตั้งแต่หัวจดท้าย ต่อเนื่องเข้าไปถึงคอนโซลภายใน ด้วยแนวคิดสำคัญในการออกแบบ 3 ประการ นั่นคือ ความสมดุลของรูปทรงในทุกมุมมองสมส่วน รูปทรงดุดัน ทรงพลัง ตัวรถมีรูปทรงลิ่ม ลู่ลม และรูปลักษณ์ 3 มิติ มีความชัดลึกในการมองเห็น สะกดทุกสายตาด้วยไฟหน้าขนาดใหญ่ พร้อมไฟท้ายแบบแอลอีดีครั้งแรกในวงการปิกอัพ
ห้องโดยสารขนาดใหญ่ ภายในดีไซน์ลงตัวกับทุกรูปแบบชีวิต ผสานศาสตร์แห่งการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ใช้งานง่ายสะดวกสบายเหมาะกับคนทุกสรีระ คอนโซลหน้าดีไซน์อัจฉริยะ พร้อมแผงหน้าปัดและจอขนาดใหญ่ แสดงข้อมูลการขับขี่หลากหลายรูปแบบ และครั้งแรกแห่งโลกยนตรกรรมกับระบบความบันเทิงสมบูรณ์แบบ ด้วยระบบเสียงแบบเซอร์ราวด์สูงสุดถึง 8 ลำโพง
มาพร้อมเครื่องยนต์เทคโนโลยีคอมมอนเรล ล่าสุดของโลก อีซูซุ ดีดีไอ ซูเปอร์คอมมอนเรล ออกแบบและพัฒนาภายใต้แนวคิดเครื่องยนต์ดีเซลแห่งอนาคต รองรับมาตรฐานยูโร-5 แห่งอนาคต มีให้เลือกได้แก่เครื่องยนต์ 3,000 ดีดีไอ วีจีเอส เทอร์โบ ขนาด 177 แรงม้า เครื่องยนต์ 2,500 ดีดีไอ วีจีเอส เทอร์โบ และเครื่องยนต์ 2,500 ดีดีไอ เทอร์โบ มาพร้อมเกียร์ออโตเมติก 5 สปีดใหม่ และเกียร์ธรรมดา 5 สปีดใหม่
ทั้งนี้ อีซูซุ ดีแมคซ์ใหม่วางราคาจำหน่ายตั้งแต่ 4.65-9.94 แสนบาท และจะเริ่มทำการผลิตเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. นี้เป็นต้นไป
ประธานฟอร์ดมาเอง!เปิดไลน์ผลิตกระบะเรนเจอร์รุ่นใหม่ในไทยส่งขาย 180ประเทศคาดเข้าโชว์รูมก่อนสิ้นปีนี้
อลัน มูลัลลี ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ร่วมการเฉลิมฉลองครั้งสำคัญของบริษัท ด้วยการเปิดไลน์การผลิตรถปิกอัพฟอร์ด เรนเจอร์ ที่โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย อย่างเป็นทางการ ซึ่งรถรุ่นใหม่ยังคงความเป็นกระบะสายพันธุ์แกร่ง ด้วยมาตรฐานสูงสุดทั้งในด้านความปลอดภัย การประหยัดน้ำมัน และความสะดวกสบายในการขับขี่ ทั้งยังสามารถลุยน้ำได้สูงสุดเมื่อเทียบกับรถกระบะรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน ที่ 800 มิลลิเมตร
“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งในการนำเสนอรถฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ให้แก่ลูกค้าฟอร์ดทั่วโลก ลูกค้าของเราต่างต้องการรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถยนต์อเนกประสงค์ และรถกระบะที่มีคุณภาพ ประหยัดน้ำมัน ปลอดภัย และมีเทคโนโลยีอันชาญฉลาด รวมทั้งความคุ้มค่าในการใช้งาน ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เป็นรถกระบะคันแรกที่ได้รับการพัฒนาโดยการนำความเชี่ยวชาญของฟอร์ดทั่วโลกมา ใช้ จากการทำงานภายใต้แผนกลยุทธ์ วัน ฟอร์ด และนี่คือรถที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของฟอร์ดในการผลิตรถที่ลูกค้าต้องการและ มอบความคุ้มค่าอย่างแท้จริง”
ทั้งนี้ ประเทศไทยจะเป็น 1 ใน 3 ฐานการผลิตและส่งออก ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ นอกเหนือจากประเทศแอฟริกาใต้และอาร์เจนตินา โดยฟอร์ด เรนเจอร์ จะวางจำหน่ายใน 180 ประเทศทั่วโลก นับเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของฟอร์ดที่เข้าถึงผู้บริโภคมากที่สุดรุ่นหนึ่งของ โลก โดย ฟอร์ดได้ใช้เงินลงทุน 350 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อยกระดับสายการผลิตรถกระบะอันทันสมัยของเอเอที ซึ่งเป็นฐานการผลิตและส่งออกระดับโลกของฟอร์ด เรนเจอร์ ตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาให้เป็นรถกระบะระดับ แนวหน้าหรือเป็นผู้นำในทุก ๆ ด้านที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ต้องใช้รถกระบะทั้งเพื่อการทำงานและในเวลาพักผ่อน ทั้งยังได้รับการติดตั้งนวัตกรรมเทคโนโลยีอันทันสมัยและอุปกรณ์ด้านความ สะดวกสบาย ซึ่งล้วนเป็นที่ต้องการของลูกค้า
“เรนเจอร์ ใหม่ ถือเป็นผู้นำในกลุ่มรถระดับเดียวกัน ทั้งยังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถกระบะขนาดคอมแพ็กต์ ทั้งในแง่ของสมรรถนะ ความมีคุณภาพ ศักยภาพ ความประหยัดน้ำมัน และความสะดวกสบายในการขับขี่ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จะช่วยต่อยอดชื่อเสียงอันดีเยี่ยมของรถในตระกูลเรนเจอร์ที่ได้รับการยอมรับ อยู่แล้วในประเทศไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และจะเพิ่มความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์ฟอร์ด”
โครงสร้างตัวถังมาพร้อมความยาว 5,359 มิลลิเมตร และความกว้าง 1,850 มิลลิเมตร ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จึงมีขนาดใหญ่กว่ารุ่นปัจจุบัน ขณะเดียวกัน เรนเจอร์ยังคงเป็นรถที่ผู้ใช้งานสามารถขับขี่ไปบนถนนแคบๆ และบังคับทิศทางเพื่อเข้าจอดได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นผลจากการตอบสนองที่ดีเยี่ยมของระบบพวงมาลัยที่มีระยะหมุนไม่เกิน 3.5 รอบ นับเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับรถในกลุ่มเดียวกัน
พร้อมสำหรับการก้าวเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีอันชาญฉลาดมากมาย ที่ช่วยให้การขับขี่สะดวกสบาย ปลอดภัย และเพลิดเพลินยิ่งขึ้น โดยเรนเจอร์ ใหม่ เฉพาะรุ่น ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมต่อการสื่อสารที่รองรับการเชื่อมต่อผ่านบลูทู ธ ยูเอสบีและไอพอด รวมทั้งระบบควบคุมการสั่งการด้วยเสียงสำหรับฟังก์ชั่นวิทยุ ซีดี ไอพอด ยูเอสบี ระบบแอร์อัตโนมัติ และโทรศัพท์เคลื่อนที่
ระบบส่งกำลังได้รับการออกแบบเป็นพิเศษเพื่อให้กำลังและแรงบิดที่เหนือ ชั้น ผสานกับประสิทธิภาพความประหยัดเชื้อเพลิงเป็นเลิศ โดยมีเครื่องยนต์รุ่นใหม่ 3 รุ่น ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในระดับราคาที่แตกต่างกัน สำหรับรุ่นสูงสุดคือเครื่องยนต์ดีเซล ฟอร์ด ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ ขนาด 3.2 ลิตร แบบ 5 สูบ ให้การตอบสนองดีเยี่ยมด้วยแรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร และกำลังสูงสุด 200 แรงม้า มอบอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุดรุ่นหนึ่ง ด้วยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 8.4 ลิตร/100 ก.ม. สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ถึง 9.6 ลิตร/100 ก.ม. สำหรับรถรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ
นับเป็นครั้งแรกที่ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่เฉพาะรุ่น ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลที่มีตัวเลือกทั้งระบบส่งกำลังเกียร์ ธรรมดา 6 สปีด และระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เพื่อลดรอบของเครื่องยนต์ ช่วยให้ขับได้ระยะทางมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการขับแบบทางไกลหรือการขับขี่ใน เมือง ผสานกับเทคโนโลยีทันสมัย อาทิ ระบบควบคุมการขับลงเขาและระบบช่วยออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน ที่ช่วยให้ขับขี่บนทางลาดชันได้อย่างยอดเยี่ยม
ทั้งนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จะเริ่มวางจำหน่ายที่ตัวแทนจำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ ในเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
หลังจาก Toyota Motor Thailand Co,ltd. เปิดตัว Fortuner Minor Change ไปเมื่อกว่า2 เดือนก่อนหน้านี้ ก็ถึงเวลาที่จะต้องทดสอบสมรรถนะโดยรวมกันแล้ว รีวิวตอนแรกกับรูปลักษณ์ภายนอก ภายใน เครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน ระบบส่งกำลัง ระบบรองรับ อุปกรณ์เสริมต่างๆที่เพิ่มเติมเข้ามาในตัว New Fortuner Minor Change...
13 ก.ค. 2554 ค่ายรถยนต์ Toyota เปิดตัวรถSUV ยอดนิยม Toyota Fortuner 2012 Model Minor Changr เพื่อเพิ่มยอดขายและกระตุ้นความสดใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์แนว SUV ของบริษัทผลิตรถยนต์ที่ได้ชื่อว่ามียอดขายสูงที่สุดในโลกยนตกรรม รถ Fortuner ใหม่ถูกปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในหลายจุด โดยเน้นหนักไปที่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารและรูปโฉมภายนอกที่ดู คมขึ้นจากการออกแบบใหม่หมดรอบคัน สื่งที่บริษัทแห่งนี้เรียนรู้ตลอดระยะเวลากว่า 70 ปีบนอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์คือการสร้างสิ่งที่ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการ การพัฒนารถยนต์ที่มีประสิทธิภาพ บริการหลังการขายและการดูแลเอาใจใส่ลูกค้าที่ภัคดีต่อแบรนด์สามห่วง รวมถึงการขับขี่ใช้งานที่ไม่เป็นรองใคร
เมื่อ มองดู รูปทรงด้านหน้าของ New Fortuner ก็จะพบว่าความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ทำออกมาได้ดีและสมบูรณ์แบบพอสมควรเลยที เดียวจากการปรับเปลี่ยนทั้งกระจังหน้าแบบใหม่ที่เน้นเหลี่ยมคมกับความเงาของ โครเมี่ยมบนตัวกระจังทรง 5 เหลี่ยม ไฟหน้าแบบ Projector HID ยังถูกดีไซน์ให้เข้ากับรูปแบบของกระจัง ชุดไฟหน้า HID ยังทำงานด้วยการปรับมุมของลำแสงแบบอัตโนมัติเมื่อขับขี่ในตอนกลางคืนพร้อม ช่องฉีดน้ำทำความสะอาดโคมไฟยามลุยหนักมา บริเวณกลางฝากระโปรงหน้ายกสันนูนเพื่อเล่นมิติและแสงเงาให้ดูดีขึ้น สคูปดักอากาศเพื่อระบายความร้อนให้กับเทอร์โบมีขนาดโตขึ้น จัดวางตำแหน่งอยู่ในแนวกึ่งกลางของฝากระโปรงหน้า ส่วนกันชนหน้าหรือสปอยเลอร์ด้านหน้ามีความสอดรับกับกระจังและชุดไฟ ลายเส้นหน้ากระจังแบบแนวนอนผลิตจากพลาสติกสีดำที่ทำออกมาเป็นร่องยาวๆเสริม มุมมองให้ดุดันขึ้นกว่ารุ่นที่ผ่านมา ติดตั้งไฟตัดหมอกทรงกลมฝั่งละดวง โดยภาพรวมแล้ว รูปลักษณ์ด้านหน้าแบบใหม่ของเจ้า New Fortuner ดูคล้ายรถเก๋งมากขึ้นจากความจงใจในการออกแบบ
รูป ทรงด้านข้างยังคงเหมือนเดิม ทั้งแนวของเสาหน้าไปจนจรดเสาท้าย กระจกมองข้างแบบมีหลอดไฟเลี้ยวภายใน แนวของบานประตู ชายกาบบันได ยังคงคล้ายคลึงกับรุ่นที่แล้วเนื่องจากเป็น Model Minor Change ซุ้มโป่งล้อขนาดใหญ่ที่รองรับล้ออลูมินัมอัลลอยลายใหม่แบบ 10 ก้านคู่ขนาด 17 นิ้ว ช่วยเสริมให้มันดูเป็นรถของขาลุยมากยิ่งขึ้นทั้งจากความสูงและขนาดที่ใหญ่โต ของล้อและยาง แร็คหลังคาแบบใหม่วางตัวตั้งแต่แนวของเสาหน้าไปจนถึงเสาด้านท้าย มือจับประตูทั้ง 4 บานใช้โครเมี่ยมเงาๆกับแนวยาวของไฟหน้าที่เป็นกรอบขุดไฟเลี้ยวอยู่ภายในลาก มาจนถึงแก้มข้างทำให้ดูดีขึ้นมาก รถ Toyota New Fortuner ใส่ยางเส้นโตของ Bridgestone Dueler H/T 684 II ไซล์ 265/65/R17 112S ทั้ง 4 ล้อ ซึ่งเป็นยางกึ่งทางเรียบกึ่งลุยสองบุคลิคที่เหมาะสมกับรูปแบบของตัวรถ
New Fortuner 2012 ใช้รูปทรงของไฟท้ายแบบใหม่ที่ใหญ่ขึ้นเป็นจุดนำเสนอของบั้นท้าย ไฟท้ายทำจากโพลิเมอร์ใสมีเลนส์ไฟท้ายสีแดงสองดวงกับแนวหยักใต้กรอบไฟท้ายของ ชุดไฟเลี้ยวที่เชื่อมต่อกับเลนส์ไฟถอยสีขาว ออกแบบได้ดีซึ่งคล้ายกับไฟท้ายแบบชุดแต่งมากๆ กันชนท้ายออกแบบมาใหม่หมดใช้สันนูนในแนวยาวกับพลาสติกสะท้อนแสงสีแดงที่ชาย ล่างทั้งซ้ายและขวาแบบสมัยนิยม แนวของมือจับฝาท้ายเป็นชิ้นงานโครเมี่ยมคาดกลาง ประทับสัญลักษณ์ Fortuner เพื่อบ่งบอกตัวตนที่แท้จริง แผงประตูบานหลังแบบใหม่กลมกลืนไปกับกระจกบานหลังที่มีชุดสปอยเลอร์หลังแปะ อยู่เหนือขอบกระจกด้านบนพร้อมด้วยหลอด LED ซึ่งเป็นชุดไฟเบรคดวงที่ 3 ช่วยเพิ่มเติมมิติมุมมองของแสงไฟจากการเบรคในระยะไกลสำหรับรถที่ตามหลังมา ได้ดีขึ้น รุ่นปกติมีเซนเซอร์กะระยะติดมาให้ ส่วนรุ่นสูงสุดมีกล้องมองหลังที่จะทำงานร่วมแกนกับตำแหน่งเกียร์ถอยพร้อม สัญญาณเสียงและเส้นระนาบกะระยะบนจอมัลติฟังก์ชั่นที่แม่นยำ ช่วยให้ถอยหลังได้ชิดกับวัตถุกีดขวางด้านหลังโดยไม่ไปล่อเอาท้ายรถของชาว บ้านหรือกระถางต้นไม้จากขนาดตัวที่ใหญ่โตและความสูงที่อาจบดบังทัศนวิสัยมุม มองยามต้องการถอยให้ชิดมากที่สุด กระัจกบานหลังมีขดลวดละลายฝ้ากับใบปัดน้ำฝนมาให้เพื่อความสะดวกสบายยามใช้ งาน
ห้อง โดยสารของ New Fortuner ใส่อุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานมากกว่ารุ่นที่แล้วพอ สมควร คอนโซลยังคงรูปแบบเดิมแต่ปรับเปลี่ยนจอมัลติฟังก์ชั่นรุ่นใหม่เข้ามาแทนที่ วงพวงมาลัยแบบสี่ก้านคล้ายกับของ Toyota Camry มีสวิชท์มัลติติดมาให้เพื่อปรับชุดเครื่องเสียงและโทรศัพท์ไร้สายแบบ Bluetooth วงพวงมาลัยหุ้มหนังมีลายไม้ที่ด้านบนกับตำแหน่งของก้านควบคุมความเร็ว อัตโนมัติ Cruise Control ที่มุมขวาด้านล่างติดกับคอพวงมาลัยและก้านสวิชท์เปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ผ่านการทำงานของเซนเซอร์ตรวจจับแสงสว่างที่จะสั่งให้เปิดไฟหน้าทันทีที่แสง สว่างไม่พอต่อการมองเห็น ในรุ่นสูงสุดของ Toyota New Fortuner ใช้เบาะหุ้มหนังแท้ ตำแหน่งเบาะคนขับสามารถปรับตั้งความสูง-ต่ำ ใกล้-ไกลด้วยไฟฟ้า แผงประตูฝั่งคนขับมีสวิชท์ควบคุมกระจกมองข้างและสวิชท์เปิดปิดกระจกบานประตู ไฟฟ้า รวมถึงการปรับตั้งมุมของกระจกมองข้างพร้อมกลไกพับเก็บกันมอเตอร์ไซค์เฉี่ยว ชน ห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่งสามารถพับเบาะหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการขนสัมภาระ ที่เก็บแว่นตา ช่องวางแก้วน้ำ ตะขอแขวนสิ่งของท้ายรถ และช่องแแอร์ในบริเวณเบาะนั่งแถวที่ 2-3 พร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบสองตอน
คอนโซล กลางแบบทูโทน ใช้ช่องแอร์ทรงเหลี่ยมเข้ากับชุดเครื่องเสียงระบบสัมผัสแบบ Touchscreen มีช่องเล็กๆด้านบนของจอมัลติเป็นจอแสดงผลแบบ Multi Information Display แสดงอุณหภูมิกายนอก อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในระหว่างขับขี่ ความเร็วเฉลี่ย ระยะเวลาในการขับขี่ ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้จากเชื้อเพลิงที่เหลืออยู่ในถังและเข็มทิศไฟฟ้า ต่ำลงมาเป็นที่อยู่ของชุดควบคุมอุณหภูมิภายในห้องโดยสารแบบดิจิตอล ช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์เล่นเพลงจากภายนอกแบบ USB สวิชท์ควบคุมระบบช่วยการทรงตัว Traction Control ที่จุดบุหรี่ ซุ้มเกียร์พร้อมช่องใส่ของ ก้านเบรคมือและพนักท้าวแขนที่มีกล่องเก็บของอยู่ภายใน จอมัลติฟังก์ชั่นแบบ Touchscreen ในรุ่นสูงสุดมีระบบนำทางและกำหนดพิกัดด้วยดาวเทียม Navigator GPS เครื่องเล่น CD/DVD/MP3 FM/AM ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth ใช้การเชื่อมต่อโทรศัพท์ของผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารให้เข้ากับชุดสั่งงานแบบ Hands Free กล้องมองหลังที่่ทำงานร่วมกับตำแหน่งเกียร์ R (เกียร์ถอยหลัง)ส่วนมาตรวัดความเร็ว มาตรวัดรอบเครื่องยนต์ ตำแหน่งของเกียร์ออโต้ ระดับเชื้อเพลิงและระดับอุณหภูมิของเครื่องยนต์เป็นหน้าปัดเรืองแสงแบบ Optitron ซึ่งค่าย Toyota นำมาใช้กับรถยนต์รุ่นใหม่แทบทุกรุ่น ใช้โทนนสีฟ้าและน้ำเงินบนตัวเลขสีขาวเรืองแสง อ่านค่าได้ง่ายและสบายตาจากงานดีไซน์สีสันของไฟเรืองแสงในหนัาปัด
เครื่อง ยนต์ ของ New Fortuner มีให้เลือกใช้งาน 3 เครื่อง ทุกแบบเป็นเครื่องแถวเรียง 4 กระบอกสูบ เริ่มด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร ปริมาตรความจุ 2,694 ซีซี ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮตแคมชาร์ป DOHC 16 วาว์ล มีเรี่ยวแรง 160 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 241 นิวตันเมตร ที่ 3,800 รอบต่อนาที ใช้ระบบวาว์ลแปรผันแบบ VVT-i
เครื่อง ยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร VN Turbo + Intercooler ปริมาตรความจุ 2,494 ซีซี D4D Commonrail Direct Injection DOHC 4 วาว์ลต่อ 1 กระับอกสูบ = 16 วาว์ล พร้อมชุดอัดอากาศเทอร์โบแปรผันกับชุดลดอุณหภูมิของอากาศก่อนอัดเข้าท่อร่วม ไอดีอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 106 กิโลวัตต์หรือ 144 แรงม้าที่ 3400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตร มาในรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำเพียงแค่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที
เครื่อง ยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร VN Turbo + Intercooler ปริมาตรความจุ 2,982 ซีซี D4D Commonrail Direct Injection DOHC 4 วาว์ลต่อ 1 กระับอกสูบ = 16 วาว์ล พร้อมชุดอัดอากาศเทอร์โบแปรผันกับชุดลดอุณหภูมิของอากาศก่อนอัดเข้าท่อร่วม ไอดีอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 120 กิโลวัตต์ หรือ 163 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตรที่ 1,400-3,200 รอบต่อนาที
ระบบ Diamond Tech ในเครื่องยนต์ดีเซลที่พัฒนาโดยวิศวกรของบริษัท Toyota เพื่อใช้กับเครื่องยนต์ D4D Commonrail Direct Injection ใช้สมองกลไฟฟ้าในการเรียนรู้และจดจำพฤติกรรมการขับขี่ จ่ายเชื้อเพลิงด้วยความแม่นยำด้วยหัวฉีดแบบ 12รู ควบคุมผ่านกล่้องสมองกลคอมพิวเตอร์ 32 บิต ทำให้ไม่มีการจ่ายเชื้อเพลิงส่วนเกินในทุกรอบเครื่องยนต์ กลไกภายในเน้นความแข็งแกร่งทนทานจากการออกแบบและทดสอบอย่างหนักหน่วง กล่องสมองกลควบคุมการทำงานทั้งระบบของเครื่องยนต์โดยใช้การคำนวนลดปริมาณ น้ำมันส่วนเกินทุกครั้งที่มีการลดความเร็วรอบเครื่อง โดยแยกการคำนวนและการสั่งจ่ายน้ำมันออกจากกันอย่างสิ้นเชิงในแต่ละกระบอกสูบ หัวฉีด Commonrail Direct Injection ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงเป็นละอองฝอยที่มีความละเอียดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการ เผาไหม้ กลไกชุดหัวฉีดภายในเคลือบสาร Diamond Liked Carbon Coating ช่วยให้การฉีดจ่ายเชื้อเลพิงคล่้องขึ้นและป้องกันการเกาะตัวของคราบเขม่าที่ เกิดขึ้นจากการเผาไหม้บริเวณช่องจ่ายน้ำมันของหัวฉีด ช่วยลดปัญหาการอุดตัน ส่วนชุดอัดอากาศแบบ VN Turbo + Intercooler ใช้เทอร์โบแปรผันที่สามารถควบคุมครีบปรับแรงดันด้วยมอเตอร์ ผ่านการสั่งงานจากคอมพิวเตอร์ 32 บิต โดยสั่งการทั้งการปิด-เปิดครีบปรับแรงดันอากาศ รวมถึงองศาการเปิด-ปิดที่เหมาะสมสัมพันธ์ในทุกย่านรอบเครื่องยนต์
ระบบ รองรับหรือชุดกันสะเทือนใน Toyota New Fortuner ยังคงคล้ายกับรุ่นที่แล้ว เพียงแต่มีการปรับแก้ตั้งค่าให้นุ่มนวลมากยิ่งขึ้น ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระ ดับเบิ้ลวิชโบนพร้อมด้วยคอยล์สปริง เหล็กกันโคลง ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นแบบโฟร์ลิ้งค์คอยล์สปริง ใช้แผ่นรองใต้ท้องรถเพื่อทำให้กระแสอากาศที่ไหลผ่านไม่หมุนวนและมีความเป็น ระเบียบที่ส่งผลดียามใช้ความเร็วสูง ระบขับเคลื่อน 4 ล้อในรุ่นสูงสุดเป็นแบบ Full-Time 4 WD ออกแบบมาเพื่อรองรับการขับขี่ที่สามารถลุยทางทุรกันดารได้ดี ใช้เฟืองท้ายแบบ Torsen กับกลไก LSD Limited Slip Differential ช่วยในการกระจายแรงบิดระหว่างล้อหน้าและล้อหลังให้มีความสัมพันธ์กันภายใต้ สภาวะของการขับขี่ในทุกรูปแบบ ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ในรุ่นสูงสุดยังมีเกียร์ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Lo-Hi 4 WD มาให้ใช้งานโดยวางตำแหน่งอยู่ชิดกับคันเกียร์ออโต้แบบร่องหยัก ชุดบังคับเลี้ยวใช้พวงมาลัยเพาเวอร์สายพานที่เน้นความแข็งแกร่งทนทานเพื่อ การใช้งานในลักษณะสมบุกสมบัน ออกแบบให้สามารถยุบตัวได้ทันทีเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
ระบบ เบรคของ New Fortuner ด้านหน้าเป้นแบบดิสเบรคคาร์ลิปเปอร์เดี่ยว ส่วนด้านหลังเป็นแบบดรัมเบรค พร้อมกลไกป้องกันล้อล็อกในระหว่างเบรค ABS -Anti-Lock Braking System ระบบเสริมแรงเบครอัตโนมัติ BA- Brake Assist ระบบกระจายแรงเบรค EBD-Electronic Brake-Force Distribution ช่วยในการปรับแรงดันน้ำมันเบรคแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ แปรผันไปตามน้ำหนักบรรทุกที่กดลงไปยังล้อแต่ละข้าง ระบบควบคุมการทรงตัว VSC-Vehicle Stability Control ทำหน้าที่ตรวจวัดระดับการทรงตัวและเข้ามาควบคุมหากตัวรถเริ่มเสียอาการ โดยจะสั่งให้เครื่องยนต์ลดความเร็วแบบอัตโนมัติ เพิ่มแรงดันน้ำมันเบรคไปยังล้อแต่ละข้างเพื่อช่วยประคองตัวรถในขณะที่กำลัง สูญเสียการยึดเกาะ รวมถึงระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC-Traction Control System พร้อมด้วยโครงสร้างนิรภัยแบบ GOA พัฒนาโดย Toyota เข็มขัดนิรภัยแบบ ELR 3 จุด 6 ตำแหน่งนั่ง และ NR 2 จุด 1 ที่นั่งในแถวที่ 2 ถุงลมนิรภัย SRS ในตำแหน่งเบาะคู่หน้า กุญแจ Immobilizer และ ระบบสัญญาณเตือนการโจรกรรม TDS-Thief Deterrent System
Toyota Fortuner 3.0V Navi 4WD A/T ราคาเริ่มต้นรวม Vat และเครื่องปรับอากาศ 1,489,000 บาท
Toyota Fortuner 3.0V 4WD A/T ราคาเริ่มต้นรวม Vat และเครื่องปรับอากาศ 1,389,000 บาท บาท
Toyota Fortuner 3.0V 2WD A/T ราคาเริ่มต้นรวม Vat และเครื่องปรับอากาศ 1,319,000 บาท
Toyota Fortuner 2.7V2WD A/T ราคาเริ่มต้นรวม Vat และเครื่องปรับอากาศ 1,219,000 บาท
Toyota Fortuner 2.5G M/T ราคาเริ่มต้นรวม Vat และเครื่องปรับอากาศ 1,059,000 บาท
New Fortuner มีสีให้เลือก 7 สีคือ Wihte Peapl CS 070 / Silver Metallic 1C0 / Dark Gray Mica Metallic 1E9 / Dark Steel Mica 1H2 / Black Mica 209 / Silky Gold Mica Metallic 5A7 / Super White II 040
ติดตามอ่าน ทดลองขับ Toyota New Fortuner ได้ในตอนต่อไปครับ.
Toyota New Fortuner 3.0 V Navi 4 WD Specification
แบบ..........................................SUV-Sport Utility Vehicle 5 ประตู 7 ที่นั่ง
ผู้ผลิต........................................Toyota Motor Japan
เครื่องยนต์..................................1KD-FTV ดีเซล 3.0 ลิตร DOHC
ปริมาตรความจุ............................2,982 ซีซี
วาว์ล.........................................4 วาว์ล ต่อสูบ = 16วาล์ว
ระบบขับเคลื่อน...........................ขับเคลื่อน 4 ล้อ ตลอดเวลา 4WD
ระบบอัดอากาศ........................... VN Turbo + Intercooler
กระบอกสูบxช่วงชัก.....................96.0 มิลลิเมตรx103.0 มิลลิเมตร
อัตราส่วนกำลังอัด.......................17.9:1
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง.......................Commonrail Direct Injection
แรงม้าสูงสุด...............................163 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด...............................343 นิวตันเมตรที่ 1,400-3,200 รอบต่อนาที
เฟืองท้าย...................................LSD Limited Slip Differential
ระบบบังคับเลี้ยว..........................แรคแอนพีเนี่ยน ปั้มเพาเวอร์สายพาน
ระบบกันสะเทือน
ด้านหน้า....................................อิสระ ดับเบิ้ลวิชโบน คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง
ด้านหลัง....................................โฟร์ลิ้งค์คอยล์สปริง
ระบบเบรค
ด้านหน้า....................................จานดิสเบรคมีครีบระบายความร้อน คาร์ลิปเปอร์เบรคอัลลอย
ด้านหลัง....................................ดรัมเบรค
ระบบ ช่วยเบรค............................ABS -Anti-Lock Braking System / BA- Brake Assist / EBD-Electronic Brake-Force Distribution
ระบบควบคุมการทรงตัว................VSC-Vehicle Stability Control / TRC-Traction Control System
ล้อ และยาง.................................อลูมินัมอัลลอยขนาด 17 นิ้ว ยางBridgestone Dueler H/T 684 II ไซล์ 265/65/R17 112S ทั้ง 4 ล้อ
มิติตัวถัง
ความกว้าง.................................1,840 มิลลิเมตร
ความยาว...................................4,705 มิลลิเมตร
ความสูง.....................................1,795 มิลลิเมตร
ความจุถังเชื้อเพลิง.......................65 ลิตร
นำหนักตัวรถ...............................1,960 กิโลกรัม (โดยประมาณ)
ราคา..........................................1,489,000 บาท