วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ฮอนด้าเปิดตัวซีวิค Sport Pearl

ฮอนด้า ฮึด กระตุ้นยอด ซีวิค ก่อนเปลี่ยนโฉมใหม่ ปีหน้า โดยออกรุ่น Sport Pearl แต่งรอบคัน ราคา 9.49 แสนบาท
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) กระตุ้นยอดขายฮอนด้า ซีวิค ในช่วงปลายชีวิต ก่อนจะเปลี่ยนโฉม ฮอนด้า ซีวิค โฉมใหม่ หัวจรดเท้าในปีหน้า ด้วยการอัดชุดแต่งเต็มที่ เป็นรุ่น Sport Pearl  และสีพิเศษใหม่ สีขาวบริลเลียนท์ (มุก) และสัญลักษณ์พิเศษ Sport Pearl 
ฮอนด้า ซีวิค Sport Pearl  ถูกนำมาแต่งเต็มที่ ตั้งแต่กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลัง สปอยเลอร์หลัง หม้อพักท่อไอเสียแบบท่อคู่ ล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว สีขาวใหม่ สไตล์สปอร์ต
ส่วนภายในตกแต่งด้วย คิ้วบันไดสแตนเลสดีไซน์ใหม่ แป้นวางเท้าแบบสปอร์ตสี Gun Metalic  ใหม่ และพรมปูพื้นดีไซน์ สีแดงใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ Sport Pearl  
เครื่องยนต์ ของซีวิค Sport Pearl  ยังเป็นเครื่องยนต์เดิมคือ เครื่องยนต์เบนซิน SOHC i-VTEC ขนาด 1.8 ลิตร 140 แรงม้า
ฮอนด้า บอกมาว่า ฮอนด้ารุ่นนี้ มีจำนวนจำกัด และจำหน่ายรุ่น 1.8 EAT AS ในราคา 9.49 แสนบาท ใครช้า หรือรอ รัฐบาลประกาศนโยบายรถยนต์คันแรก อาจซื้อไม่ทันนะจะบอกให้


ซีวิค Sport Pearl

วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

6รุ่น รถมือสอง ราคาไม่ตก ที่น่าจับจอง

ผ่านๆไปก็หลากสัปดาห์ แล้วสำหรับคอลัมน์ประจำของพวกเราเจอกันทุกวันพุธกลางสัปดาห์กับมือสอง น่าสนที่ หลังจากแนะนำรถยนต์มือสงทั้งเก่าใหม่หลายรุ่นมาพอสมควรแล้วสัปดาห์นี้เราจะ พาไปพบรถมือสองอีกครั้ง ที่ไม่ใช่แค่ 1 แต่มาถึง 6 กับ รถมือสองที่ราคาแทบไม่ตกกันเลยในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมามีรุ่นไหนบ้างไปดูกันเลย

อันดับที่ 1 BMW E36 โฉมนกแก้ว

งานนี้ต้องเรียนกันก่อนว่าไม่ได้เป็นการจัดอันดับ!!! แต่เหมือนการมาพูดมากกว่าถึงรถรุ่นที่ได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลายและหนึ่ง ในหลายๆรุ่นนั้นคือรถยนต์ BMW รุ่นรหัสตัวถัง E36 หรือที่หลายคนเรียกว่ าบีเอ็มนกแก้ว ซึ่งเมื่อ 4-5 ปีทีแล้วราคาป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ 3 แสนบาทกลางๆถึง 4 แสนบาทปลายๆ
เวลาผ่านไปราคาขายย่อมมีการตกลงไปบ้างตามอายุรถที่ย่างเข้าปีที่15 แล้ว โดยเฉพาะรถรุ่นแรกๆนี่ปาไปเฉียดๆ 20 ปี ก็มีให้เห็นแต่เชื่อไหมครับว่ารถรุ่นนี้ปัจจุบันราคากลางในตลาดยังอยู่ที่ 3 แสนกลางๆ และสภาพสวยบางคันที่แต่งแล้วอาจจะสูงถึง เกือบ 4 แสนบาท นับว่าเป็นรถที่ห้ามพลาดถ้าคุณชอบรถยุโรป

อันดับที่ 2 subaru Impreza GC8

หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบรถยนต์ญี่ปุ่นแต่ไม่อยากได้ความเหมือนใครยี่ห้อ Subaru ถือเป็นหนึ่งในรถรุ่นที่คุณน่าจะมาจับจองเป็นเจ้าของ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนี่คือรถที่สามารถพัฒนาเป็นสปอร์ตแรลลี่ได้ไม่ยาก ด้วยการเปลี่ยนเครือง และนั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมราคาของมันถึงไม่ตก
ทรวดทรงที่ดุอาจจะเริ่มเก่าไปบ้างแต่เมื่อมันไม่ค่อชินตานั้นทำให้ทรง นั้นยังดูไม่ล้าสมัยยิ่งรวมกับเอกลักษณ์ของเสียงเครื่องที่อาจจะพาคุณสั่น ระรัวในแบบไม่เหมือนใครยิ่งทำให้คนจำนวนมากอยากที่จับจองเป็นเจ้าของมากยิ่ง ขึ้น ซึ่งในช่วงก่อนหน้านี้มันมีราคาอยู่ที่ราวๆ 3แสนปลายๆ ถึง 4 แสนกลางๆ แต่ปัจจุบันแม้จะตกลงมาเล็กน้อย แต่ราคาของมันก้ยังอยู่ในเรทราคาเดิม แถใบางคันที่เจ้าของเดิมแต่งไว้เต็มยศอาจวางขายในราคาเฉียดที่ 5 แสนบาทด้วยซ้ำ

อันดับที่ 3 Nissan 200 SX

สปอร์ตคาร์ 2 ประตู สุดเท่ห์ที่ได้รับความนิยมจากวัยรุ่น และยังเป็นเช่นนั้นอยู่จนถึงปัจจุบัน แม้รถสภาพดีแบบว่านางฟ้านั้นจะหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร แต่ว่าก็ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องทำให้ราคารถรุ่นนี้กลับพุ่งสูงขึ้น อย่างต่อเนื่องอย่างฉุดไม่อยู่
ย้อนกลับไปเมื่อสัก 4-5 ปีที่แล้วรถรุ่นนี้อาจจะมีราคาอยู่ที่ 5 แสนต้นๆถึง 6 แสนบาท ตามแต่สภาพ แต่ปัจจุบัน แม้รถจะมีอายุเกือบ 20 ปี แต่ยังมีราคาอยู่ที่ 6 แสนกว่าบาท ส่วนหนึ่งก้มาจากไม่มีรถสปอร์ตรุ่นใหม่เข้ามาจำหน่ายในไทย แต่ก้ใช่ว่าใครชอบแล้วจะเป็นเจ้าของกันง่ายๆเพราะจากที่สอบถามมาไฟแนนซ์นั้น จะบังคับให้ดาวน์เยอะและผ่อนไม่เกิน 4 ปีเท่านั้น

อันดับที่ 4 Nissan Cefiro A31

แม้รถคันนี้จะไม่ใช่รถซิ่งแต่ Nissan cefiro ก็เป็นรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่ราคาไม่ตก ด้วยเหตุผลความนิยมจากวัยรุ่นในการนำมันไปวางเครื่อง แถมระบบช่วงล่างยังสามารถยกมาจากสปอร์ตคารืชั้นนำอย่าง Nissan Skyline ได้ เรียกว่ามีงบไม่มากก้สามารถสร้างรถสปอร์ตในคราบรถบ้านมาขับกันไปไม่ยากเย็น นัก
ด้วยอายุของรถที่ผ่านระดับ 20 ปีแล้วน่าจะมีราคาที่ตกลงไปมากๆ แต่กลับกลายเป็นว่ารถรุ่นนี้ยังมีราคาเริ่มต้นระดับ 1 แสนบาทกลางๆในสภาพเดิมสนิท ถึง เน่าสนิท และขยับตามขึ้นมาเรื่อยๆตามการวางเครื่องหรือแต่งของเจ้าของเดิม ซึ่งราคาสุงสุดที่เคยเจอในตลาดนั้นคือเกือบ 4 แสนบาทที่ได้ครบทุกอย่างตามต้องการ เรียกว่าซื้อแล้วสามารถไปลงสนามแข่งได้เลยทันที

อันดับที่ 5 Toyota MR 2

กลายเป็นสปอร์ตคาร์แห่งยุคไปแล้วสำหรับรถยนต์รุ่นนี้ที่มาพร้อมเอกลักษณ์ หนึ่งเดียวไม่เหมือนใครด้วยเครื่องยนต์วางกลางขนาด 2 ลิตรกับขุมพลัง 3 S แถมเรือนร่างมันนั้นยังไม่ต่างจาก Ferrari ดี ทำให้นิยมมากในต่างประเทศเทศ แต่ไม่ใช่กับบ้านเรา
ต้องบอกว่าน้อยครั้งนักที่เราจะเห็น Toyota MR2 บนถนน แต่ที่แปลกคือแม้มันจะไม่ได้รับความนิยมแถมรถรุ่นใหม่ก้มีมาจำหน่ายกันมาก มายแต่ราคารถรุ่นนี้ที่เคยตั้งไว้ระดับ 6 แสนกว่าบาทกลับคงเส้นคงวาไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยิ่งนับว่ามันไม่ค่อยนิยมแล้ว ยิ่งหาเหตุผลยากขึ้นเป็น 2 เท่าอีก แต่ว่ารถรุ่นนี้นั้นขึ้นชื่อเรื่องของสมรรถนะการขับขี่ ที่เร้าใจ

อันดับที่ 6 Honda civic 3 Doors

ถ้าไม่พูดถึงคันนี้คงจะดูแปลก เพราะรถรุ่นนี้เป็นหนึ่งในรถที่ฮิตติดลมบนอย่างมากกับ honda civic 3ประตู ที่ผ่านมานานมากรถรุ่นนี้ก็มีราคาไม่ตก เรียกว่าหลายคนซื้อมาขับขายไป อาจจะเหมือนเช่ามาขับเท่านั้น ด้วยความนิยมที่ไม่เสื่อมคลายแถมยังซื้อง่ายกว่ารถหลายๆรุ่นที่เราบอกไปก่อน หน้า และด้วยอดผ่อนไม่แพงก้ไม่น่าแปลกใจที่จะพบว่ารถรุ่นนี้ยังเป็นที่นิยม
ทั้ง 6 คันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของรถอีกหลายรุ่นในตลาดที่ราคานั้นไม่ขยับไปไหนเลยหรือมีการปรับตัวลดลงน้อยมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งคุณผู้อ่านคงพอสังเกตได้ว่า รถเหล่านี้นั้นไม่ใช่รถตลาด แต่เป้นรถที่วัยรุ่นนิยม

วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

EW CAR OF THE MONTH

Pic_197691
รถใหม่ประจำเดือนสิงหาคมของทวีปยุโรป มีทั้ง Concept Car ที่รอการผลิตจริง และโมเดลล่าสุดที่เริ่มออกขายแล้ว...

หลัง จากปัญหาด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศญี่ปุ่นเริ่มได้รับการแก้ไขจากภาครัฐ ทำให้โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียรที่เกาะฮอกไกโดต้องหยุดเดิน เครื่องไปนานกว่า 4 เดือนนั้น กลับมาดำเนินงานได้อีกครั้งเมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคม ยอดจองรถยนต์จากแดนปลาดิบที่เคยหยุดนิ่งจากปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนอะไหล่ใน ไลน์การประกอบก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้ง รวมถึงบรรดาโรงงานผลิตรถยนต์ที่ได้รับการพื้นฟูหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว ก็เริ่มดำเนินงานอย่างเต็มที่ เฉพาะบริษัท Toyota แห่งเดียวก็ต้องพบกับตัวเลขขาดทุนไปกว่า 2.4 หมื่นล้านบาท ยังไม่นับรวมถึง Nissan และ Honda ที่เสียหายมากพอกันทั้งตัวโรงงาน รถยนต์ใหม่ในท่าเรือที่รอส่งออกหรือแม้แต่ศูนย์ค้นคว้า วิจัยและพัฒนารถยนต์ ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังกลับเข้าสู่สภาวะปกติภายในต้นเดือนตุลาคมนี้หลังจาก ต้องซบเซามานานถึงกว่า 5 เดือน
Honda CR-Z Mugen

Honda ปรับแต่งรถ CR-Z ตัวโชว์โดยนำเอาระบบอัดอากาศแบบซุปเปอร์ชาร์จมาติดตั้งในรถ Hybrid รุ่นเล็กที่กำลังได้รับความนิยมในยุโรป สำนักตกแต่งและแผนกมอเตอร์สปอร์ตนาม Mugen ของค่าย Honda ยกระดับความแรงของสปอร์ต 3 ประตูเครื่องยนต์ลูกผสม มอเตอร์ไฟฟ้า+เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร รีดแรงม้าได้ถึง 200 ตัว ลดน้ำหนักตัวลงอีก 50 กิโลกรัม จากการใช้วัสดุน้ำหนักเบาในบางตำแหน่ง ความรุนแรงของพลังเครื่องยนต์ที่ปรับแต่งมาอย่างสมบูรณ์ส่งผลให้มันมีอัตรา เร่งและแรงม้าใกล้เคียงตัวรถรุ่น Type-R น้ำหนักตัวที่ถูกหั่นให้เหลือแค่ 1,080 กิโลกรัม ยังช่วยให้มันตัวเบากว่ารุ่นปกติ จากการใช้ฝาประโปรงหน้ากับบานประตูทั้งสองข้างที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ แรงบิดรอบต่ำจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 1,000-1,500 รอบต่อนาที แข็งแรงพอที่จะรับมือกับอาการทอร์คสเตียร์ กำลังจากชุดอัดอากาศซุปเปอร์ชาร์จที่ส่งถ่ายไปยังเครื่องยนต์ VTEC สามารถเรียกรอบได้ตั้งแต่ย่านรอบเครื่องต่ำๆ ไปจนสุดที่เรดไลน์ กำลังที่เพิ่มขึ้น 50% จำเป็นต้องลงช่วงล่างที่หนึบแน่นมากขึ้นกว่าเดิม Honda CR-Z Mugen มีระบบกันสะเทือนที่ปรับตั้งได้ 5 ระดับ ฐานล้อกว้างขึ้นอีกเล็กน้อย เปลี่ยนจานดิสหน้าแบบเซาะร่องพร้อมด้วยรูระบายความร้อนขนาด 320 มิลลิเมตร รถ CR-Z Mugen ถูกสร้างขึ้นเพื่อออกโชว์ตามงานแสดงรถยนต์ทั่วโลกเพียงแค่คันเดียวเท่านั้น โดยยังไม่มีการผลิตออกขายแต่อย่างใดทั้งสิ้น แต่ยังดีที่มีชุดแต่งแบบเดียวกันให้แฟนๆ CR-Z ได้ควักกระเป๋าจ่ายเพื่อเพิ่มเติมความดุดัน


Audi A6 Avant

รูป โฉมแบบสเตชั่นแวนก้อนของ New Audi A6 Avant ช่วยทำให้การใช้งานมีความอเนกประสงค์เพิ่มมากขึ้น จากพื้นที่การบรรทุกสัมภาระที่มีให้เจ้าของอย่างจุใจบนความจุมากถึง 565 ลูกบาศก์ลิตร งานประกอบภายในห้องโดยสารอยู่ในระดับสูงสุดของยนตกรรมจากเยอรมัน ทั้งการเลือกใช้วัสดุและความปราณีตใส่ใจในทุกรายละเอียด จอแสดงผล MMI กับปุ่มสวิตช์ปรับตั้งค่าให้ทั้งความสะดวกและความหรูหรา ส่งถ่ายงานศิลปชั้นเยี่ยมที่ยากจะเลียนแบบของรถยนต์ Audi ยุคใหม่ที่มาแรงจน Mercedes Benz และ BMW ถึงกับอึ้ง เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งดีเซล 4-6 กระบอกสูบ กับเบนซิน 6 สูบที่พกพาม้ามาเพียบ หลังจากนั้นจะตามออกมาอีกรุ่นในรูปแบบของการขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro รหัส Allroad หากชอบของแรงคงต้องรอกันอีกนิดสำหรับรุ่นสูงสุด Audi RS6 Avant Quattro ที่มีม้าให้รีดเค้นถึงกว่า 550 ตัวในการท้าชนกับรถ BMW M5 Touring 2012
Renault Sport Megane Trophy

ตัวแรงจากแดนน้ำหอมกำลังได้รับความ นิยมอย่างสูงในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ที่ชื่นชอบรถเล็กสมรรถนะสูง รถ Renault Sport Megane Trophy 2012 ถูกปรับจูนให้ใมีความใกล้เคียงกับโมเดล Megane RS บนการขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้า มันวางเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว 261 แรงม้า อัดอากาศเข้าสู่ท่อร่วมไอดีด้วยชุดเทอร์โบพลังสูง สามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรใน 5.7 วินาที รถ Sport Megane Trophy ใช้ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 19 นิ้ว ห่อรัดเอาไว้ด้วยยาง Sport-Runflat ของ Bridgestone รุ่น RE060 และถูกสร้างขึ้นเพียงแค่ 500 คันในรูปแบบลิมิเต็ดอิดิชั่น การปรับแต่งทั้งเครื่องยนต์และระบบรองรับทำให้มันขึ้นถึงจุดสูงสุดของรถ แฮทช์แบค 3 ประตูที่มีผู้คนต้องการขับมากทีี่่สุดในทวีปยุโรป พวกนิยมรถบ้าพลังหายสงสัยในความแรงทันทีเมื่อเห็นรถคันนี้กลายเป็นรถ Safety Car ในรายการ Japan Super GT ที่สนาม Sepang International Circuit
BMW i3 Concept 2013

เจ้าตัวเล็กที่จะใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลั งซึ่งนับได้ว่าเป็นครั้งแรกของค่ายใบพัดสีฟ้า-ขาวที่จะลงมือลงแรงผลิตรถยนต์ แบบ City-Car สมรรถนะสมราคาในชื่อรุ่นว่า BMW i3 โครงการดังกล่าวเป็นความพยายามในการนำเอาตัวถังที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่ เบากว่าโลหะถึงครึ่งหนึ่ง มาปรับใช้ในรถยนต์ราคาประหยัด เจ้า i3 มีเครื่องยนต์ 2 แบบให้เลือก ทั้งแบบไฟฟ้าล้วนๆ กับรุ่น Hybrid ที่มีเครื่องยนต์ดีเซล หรือเบนซิน 3 กระบอกสูบ 25 แรงม้า เพื่อเปิดช่องทางการตลาดให้กว้างไกลและครอบคลุมมากขึ้น รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าผสมเครื่องยนต์สามารถขับเคลื่อนตัวรถให้ไปได้ไกลประมาณ 10 ไมล์ด้วยพลังงานจากแบตเตอรีเพียวๆ หรือ 330 ไมล์ในการใช้งานแบบผสมเครื่องยนต์ + มอเตอร์ไฟฟ้า รูปลักษณ์แบบแฮทช์แบค 3 ประตู ไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยมที่ยังคงส่งถ่ายรายละเอียดของยนตกรรมจาก BMW ชนิดมองครั้งเดียวก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าเป็นรถยี่ห้ออะไร แชสซีส์อัลลอยน้ำหนักเบาแค่ 250 กิโลกรัม ใช้พื้นที่ในการวางชุดโมดูลของแบตเตอรีแบบลิเธียมไอออนไว้ที่ท้ายรถ ห้องโดยสารเน้นบรรยากาศของความหรูหราสไตล์ 4 ที่นั่ง และนับเป็นรถยนต์จากบริษัท BMW คันแรกที่ปล่อยไอเสียต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีการผลิต


Ferrari Superamerica 45

นี่ คือรถสปอร์ตที่ค่ายม้าลำพองสร้างขึ้นมาเพียงแค่คันเดียวโดดๆ จากใบสั่งของอภิมหาเศรษฐีระดับโลกชาวอเมริกัน (Peter Kalikow) ชายผู้นิยมรถแรงเป็นชีวิตจิตใจ เจ้า Ferrari Superamerica 45 ใช้โครงสร้างทั้งหมดจากรุ่น 599 GTO นำมาปรับแต่งจนมีความสุดขั้วเกินหน้าเกินตา Ferrari 599 รุ่นปกติแบบเทียบกันไม่ติด หลังคาแบบพับได้ด้วยกลไกมอเตอร์ไฟฟ้าคล้ายกับรุ่น 575 M Superamerica ล้อแม็กขนาด 20 นิ้วของ Ferrari FF ช่องรับอากาศด้านข้างตัวถัง ตะแกรงโครเมียมรอบเสาหน้า ครีบรีดอากาศบริเวณชายล่างของสปอยเลอร์หน้า-หลัง กับแผงคาร์บอนที่จะสอดรับหลังคายามพับเก็บ บนราคาค่าตัวที่มากกว่า 1 ล้านปอนด์ และมีเพียงแค่คันเดียวในโลก
Audi R8 GT Spyder

R8 GT โมเดลปกติก็สุดๆ อยู่แล้ว แต่นี่คือรถ R8 GT Spyder แบบเปิดหลังคาได้ยิ่งเพิ่มเติมความดิบและความหล่อให้โมเดลสปอร์ตซุป เปอร์คาร์ของค่าย 4 ห่วงให้สูงยิ่งขึ้นไปอีกระดับ จนแทบจะทะลุเพดาน มันถูกรีดน้ำหนักส่วนเกินให้ลดลงไปอีกถึง 85 กิโลกรัม จากการใช้หลังคาผ้าพับเก็บด้วยกลไกมอเตอร์ไฟฟ้า แม้ว่าน้ำหนักตัว 1640 กิโลกรัม ของสปอร์ตเปิดประทุนคันนี้จะหนักกว่า Lamborghini Gallardo LP570/4 Spyder ถึงกว่า 155 กิโลกรัม แต่อัตราเร่งก็แทบจะไม่มีความแตกต่างกันเลยแม้แต่น้อย เช่นเดียวกันกับรุ่น R8 GT รถคันนี้วางเครื่อง V10 5.2 ลิตร ไว้ในตำแหน่งหลังคนขับ อัพแรงม้าจาก 518 เป็น 552 แรงม้า กระทืบจาก 0-100 กิโลเมตร ได้ในเวลาเพียง 3.8 วินาที เร็วพอๆ กันกับ Ferrari 458 italia โดยมีความเร็วปลายคันเร่งที่ 315 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่สามารถทำให้ผมของเจ้าของรถถึงกับตั้งตรงได้หากขับเปิดหลังคาแล้วอัดมัน อย่างสุดๆ ระบบส่งกำลังแบบ 6 สปีด R-Tronic กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro Version 6 อันลือลั่นของค่าย Audi รถ Audi R8 GT Spyder จะออกวางขายในยุโรปในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่จะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า นี้
Porsche Panamera S Hybrid 2012

AAS-Porsche เปิดตัวยนตกรรมระดับพรีเมียมประหยัดพลังงานคันล่าสุดในประเทศไทย Porsche Panamera S Hybrid รถสปอร์ต 5 ประตูแนว Grand Torismo ที่ใช้ขุมกำลัง V6 ซุปเปอร์ชาร์จทำงานร่วมแกนควบคู่ไปกับมอเตอร์ไฟฟ้าพลังสูง ซึ่งเป็นเครื่องยนต์รุ่นเดียวกันกับที่ใช้วางในรถ Cayenne Hybrid รถ Porsche Panamera S Hybrid มีแรงม้ารวม 380 ตัว อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 6.8 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร เครื่องยนต์ให้แรงบิดในโหมดสปอร์ตมากถึง 580 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรใน 6.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ราคาค่าตัวประมาณ 9.6 ล้านบาท.

วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ฮอนด้าเปิดตัวฟรีดรุ่นลิมิเต็ด

ฮอนด้าเปิดตัว"ฟรีด"รุ่นลิมิเต็ดอัดอุปกรณ์ความบันเทิงเต็มพิกัด เคาะราคา 9.395 แสนบาท
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) แนะนำ ฮอนด้า ฟรีด รุ่นลิมิเต็ด มอบความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ด้วยอุปกรณ์พิเศษที่ตอบสนองการใช้งาน ทั้งความเพลิดเพลินในการขับขี่และความมั่นใจในการเดินทาง อาทิ ชุดเครื่องเล่นดีวีดี ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ กล้องส่องหลัง
ภายนอกของฟรีดออกแบบให้โดดเด่น สะดุดตา ด้วยเส้นสายที่ต่อเนื่องเป็นหนึ่งเดียว จากหน้าจรดท้าย พร้อมไฟหน้าที่กลมกลืนเข้ากับกระจังหน้าแบบโครเมียม องศาความลาดเอียงของเสาคู่หน้าและกระจกมองข้างยังได้รับการออกแบบเพื่อช่วย ให้ทัศนวิสัยการขับขี่ชัดเจน
ภายในห้องโดยสารของฮอนด้า ฟรีด ให้ความรู้สึกที่หรูหรา กว้างขวาง โปร่งสบายแบบรถอเนกประสงค์ เพิ่มความโดดเด่นด้วยชุดเครื่องเล่นดีวีดี/ซีดี/เอ็มพี3 พร้อมช่องสำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง เพื่อความเพลิดเพลินทุกการเดินทาง มั่นใจทุกการขับขี่กับระบบนำทางเนวิเกเตอร์ และกล้องส่องหลัง
เบาะนั่งมี 3 แถว สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 7 ที่นั่ง เบาะนั่งแถวที่สามสามารถพับเก็บได้ เพื่อการบรรทุกสัมภาระและการใช้งานที่หลากหลาย ห้องโดยสารเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารให้สามารถเดินถึงกันได้ นอกจากนี้ประตูของฮอนด้า ฟรีด ยังเป็นแบบสไลด์อัตโนมัติซ้าย-ขวา และประตูสัมภาระที่เปิดกว้างทำให้สามารถยกสัมภาระเข้า-ออกได้สะดวก
มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 118 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด ควบคุมด้วยระบบอีเลกทรอนิกส์ ช่วยรักษาระดับความเร็วขณะเข้าโค้ง เครื่องยนต์ตอบสนองทันใจและใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหน้าอิสระแบบแม็กเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงและระบบกันสะเทือนด้านหลัง ทอร์ชั่นบีม 
ด้านระบบความปลอดภัย มาพร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัย ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก พร้อมระบบกระจายแรงเบรกและถุงลมคู่หน้า เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ พร้อมระบบผ่อนแรง วางจำหน่ายในราคา 9.395 แสนบาท มีให้เลือก 3 สี คือ สีเงิน อลาบาสเตอร์ สีดำคริสตัล และสีขาวบริลเลียนท์

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554

TOYOTA VIOS-YARIS ONE MAKE RACE ROUND 4

Pic_196476
Toyota Motorsport 2011 สนามที่ 4 จ.เชียงใหม่ ระเบิดความมันส์ กระหึ่มสนามกีฬาสมโภชน์เชียงใหม่ 700 ปี...

การ แข่งขันรถยนต์ทางเรียบ Toyota Motorsport 2011 สนามที่ 4 ณ สนามกีฬาสมโภชน์ เชียงใหม่ 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 20 - 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา ผลการแข่ง เฉิน หงส์ฉู่ นักแข่งไต้หวัน คว้าแชมป์ในรุ่น Yaris One Make Race ขณะที่ Vios One Make Race Class C นั้น แชมป์ตกเป็นของ ชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ส่วน Vios One Make Race Lady Cup ซึ่งเป็นการชิงชัยกันเองของนักขับหญิงล้วน แชมป์ตกเป็นของ ธัญชนก เจริญสุขะวัฒนะ ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ลูกสาวของ ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ มือมอเตอร์สปอร์ตระดับแชมป์เอเซีย รวมถึงการแข่งขันรายการใหม่ล่าสุด Prius Circuit Challenge โดยแชมป์ตกเป็นของ รัตนวิศิษ ศรีวิชัย ในรูปแบบของการขับขี่แบบประหยัดเชื้อเพลิง
ภายใต้การจัดการแข่งขันของ Toyota Motor Thailand Co,ltd และบริษัท TRD Thailand ร่วมด้วยหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ การกีฬาแห่งประเทศไทย เทศบาลนครเชียงใหม่และองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ทำการจัดการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ Toyota Motorsport 2011 สนามที่ 4 ระหว่างวันเสาร์ที่ 20 ถึงวันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2554 ณ สนามกีฬาสมโภช 700 ปี เชียงใหม่ โดยถูกปรับให้ใช้เป็นสนามแข่งรถยนต์ภายใต้การรับรองของ ร.ย.ส.ท หรือราชยานยนต์แห่งประเทศไทย และมุ่งเน้นไปที่มาตรฐานของความปลอดภัยเป็นสำคัญ
ภายในงานผู้เข้าชมได้สัมผัสกับความสนุกสนาน ตื่นเต้นเร้าใจ ทั้งการขับโชว์ดริฟบนตัวรถปิกอัพรุ่นล่าสุด Toyota New Vigo Champ ของ ศักดิ์ นานา รวมถึงทีมโชว์ของ Toyota Yaris - Toyota Vios ในระดับสุดยอดฝีมือแล้ว ยังมีการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบในสนามที่ 4 ซึ่งเป็นการแข่งขันรถยนต์สะสมคะแนนต่อจากการแข่งขันในสนามที่ 3 ที่โคราช ในตัวรถรุ่น Yaris One Make Race / Vios One Make Race Class C และ Vios One Make Race Lady Cup รวมถึงรายการแข่งรถประหยัดเชื้อเพลิง Prius Circuit Challenge ซึ่งนำทีมโดยเหล่าดาราศิลปินนักร้อง นักแสดงชั้นนำของเมืองไทย มาร่วมสร้างสีสันและบรรยากาศของการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบที่มีผู้ชมมากที่ สุดติดอันดับต้นๆของประเทศ
การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ Toyota Motorsport 2011 สนามที่ 4 ระเบิดความมันส์อย่างยิ่งใหญ่เมื่อ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา ณ สนามกีฬาสมโภชน์ เชียงใหม่ 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายวรการ ยกยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท Toyota Motor Thailand Co,ltd และ นายรุจิรา เปรมานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทยภาค 5 เชียงใหม่ ร่วมเปิดการแข่งขันท่ามกลางพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่ ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมชมการแข่งขันอย่างคับคั่ง พร้อมด้วยทีมนักแข่ง Toyota Star Team ร่วมสร้างสีสันตลอดการแข่งขัน อาทิ ใหม่ สุคนธวา เกิดนิมิตร /นาตาลี เดวิส / ไผ่ พาทิศ พิศิฐกุล และ ต๊ะ วริษฐ์ ทิพโกมุท พร้อมนักแข่งหน้าใหม่จาก Toyota Racing School ได้แก่ ช้อป อวิรุธทธิ์ ข้าวบ่อ / เบลล์ จิรวรรณ พงษ์เภตรา / เอ๊กซ์ สุพงศ์ ขำต้นวงษ์ และ โบนัส สมหทัย เหรียญทอง
ผลการแข่งขันรุ่น Vios One MakeRace Lady Cup
สร้างสีสันด้วยนักแข่ง หญิงดาวรุ่ง 16 คน กับการแข่งขัน 22 รอบสนาม พร้อมทีมนักแข่ง Toyota Star Team  นำโดย ใหม่-สุคนธวา เกิดนิมิตร และ นาตาลี เดวิส และ 2 นักแข่งสาวจาก Toyota Racing School เบลล์ จิรวรรณ พงษ์เภตรา และ โบนัส” สมหทัย เหรียญทอง - บรรยากาศการแข่งขันจากจุดสตาร์ท ธัญชนก เจริญสุขะวัฒนะ สตาร์ทออกนำตามด้วย น้อมพิม พิมพรรณ หงษ์ปาน ส่วน ใหม่ สุคนธวา ตามอยู่ในอันดับที่ 4 และพยายามเร่งเครื่องจะแซงขึ้นมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่ผ่าน จนกลายเป็นชนท้ายคู่แข่งขันหลายครั้ง และโดนกรรมการทำโทษ และจากการชนหลายครั้งทำให้ช่วงล่างเสียหาย สุดท้ายต้องออกจากการแข่งขันไป สรุปแชมป์ประจำสนามตกเป็นของสาวน้อย ธัญชนก เจริญสุขะวัฒนะ จากทีม Autogas AC ลูกสาวมือมอเตอร์สปอร์ตระดับพระกาฬของ ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ หรือพี่วัวของน้องๆสื่อมวลชนสายมอเตอร์สปอร์ต ส่วนอับดับ 2 ได้แก่ พิมพรรณ หงษ์ปาน จากทีมแข่ง ELF BARA WINDSOR SITTIPOL TEAM และ อันดับ 3 ได้แก่ ธัญยมัย คงการค้า ทีม พันท้ายนรสิงห์ พี กอล์ฟ ต้อน อันดับ 4 ได้แก่ น้องเบล จิรวรรณ พงษ์เภตรา จากทีม Toyota Racing School และ อันดับ 5 ทิพวรรณ ภู่ระยับ จากทีมแข่ง โรงโม่หินสีเขียวสิลาศานนท์ - Nitto acing Performance
ผลการแข่งแข่ง Vios One Make Race Class C
รายการแข่งขันที่ใกล้ชิด กับผู้ชมมากที่สุด ด้วยฝูงรถแข่งที่พัฒนาขึ้นจากรถ Production Car เรียงรายบนจุดสตาร์ทยาวเหยียดถึง 25 คัน เริ่มต้นการแข่งขัน ชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา กระชากตัวจากตำแหน่งสตาร์ทออกนำจากตำแหน่งโพล โดยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมซิ่งรถแข่ง Vios นำแบบม้วนเดียวจบจนถึงรอบสุดท้าย จบการแข่งขันแชมป์ตกเป็นของ ชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา นักขับจากทีม พันท้ายนรสิงห์ พี กอล์ฟ ต้อน ตามมาด้วย ศุภกิจ บุญมีมา ในอันดับ 2 ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ เดชพล ทองพูน จากทีม CAT-AIT RACING TEAM อันดับ 4 เป็นของ กัณต์ธรณ์ เมี้ยนทอง จาก Big Cola Super Club Thailand และอันดับ 5 ช้อป อวิรุทธ์ ข้าวบ่อ จาก ทีม  Toyota Racing School
ผลการแข่งขัน Yaris One Make Race Class B
มาถึงรุ่นที่เป็นไฮไลท์ ของการแข่งขันด้วยรถแข่งขันทั้งสิ้น 10 คัน สตาร์ทออกนำโดย อาเฉิน เฉิน เจี้ยน หงส์ นักแข่งไต้หวัน โดยมี สุนิจ ศรีแสนสุชาติ ตามมาในอันดับ 2 ส่วน ไผ่” พาทิศ ตามมาในอันดับที่ 3 และ อ่ำ อัมรินทร์ นิติพน ตามมาในอันดับที่ 10 โดยตลอดการแข่งขันรถในกลุ่มนำมีการผลัดเปลี่ยนตำแหน่งกันเกือบทุกรอบ จนกระทั่งรอบท้ายๆที่ เฉิน เจี้ยน หงส์ นักแข่งสายเลือดมังกรของทีม ภูเก็ตศรีแสนสุชาติขนส่ง เริ่มรักษาตำแหน่งผู้นำได้แบบถาวร และเร่งเข้าเส้นชัยไปได้เป็นอันดับที่ 1 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ ตามมาด้วย สุนิจ ศรีแสนสุชาติ ในอันดับที่ 2 และ อาทิตย์ เรืองสมบูรณ์ ในอันดับ 3 ซึ่งทั้ง 3 อันดับเป้นนักขับรถแข่งที่มาจากทีม ภูเก็ตศรีแสนสุชาติขนส่ง ทั้งหมด ส่วน ไผ่ พาทิศ จาก Toyota Star Team ในสนามนี้แผ่วปลายเร่งไม่ขึ้นจากหลายๆปัญหาของตัวรถ สามารถทำผลงานเข้าเส้นชัยได้ในอันดับที่ 6
ผลการแข่งขันรายการแข่งรถประหยัดเชื้อเพลิง Prius Circuit Challenge
การ แข่งขันในรุ่น Prius Circuit Challenge สนามนี้ก็รายการแข่งขันใหม่ล่าสุดที่จัดขึ้นในรูปแบบ Eco-Contest เพื่อพิสูจน์สมรรถนะของรถยนต์ Hybrid รุ่น Prius โดยทำการคิดคะแนนเฉลี่ยทั้งด้านความเร็วและความประหยัด มีรถแข่งเข้าร่วมทำการแข่งขันทั้งสิ้น 15 คัน มีทั้งดาราและเซเลบริตี้มาร่วมการแข่งขันกันเป็นจำนวนมาก โดยแบ่งออกเป็น 3 รางวัล คือ รางวัลจ้าวความเร็วได้แก่ รัตนวิศิษ ศรีวิชัย พร้อมกับรางวัลขับประหยัดน้ำมันได้ดีที่สุด และรางวัลความเร็วเฉลี่ยคงที่ได้ดีที่สุด ได้แก่ดาราสาว หยาดทิพย์ ราชปาล
นอกจากนี้ยังมีการโชว์สมรรถนะจากรถยนต์Toyota ที่เป็นรถสแตนดาร์ด อาทิ โคโลร่าอัลติสเอ็กซ์ไซด์โชว์ /วีออสและยาริสแบทเทิลโชว์ / ไฮลักซ์วีโก้ดริฟโชว์ซุปเปอร์คาร์ ซุปเปอร์ 1500 /2000 โชว์ ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายให้ร่วมสนุกลุ้นรับรางวัลกันทั้งครอบ ครัว พร้อมทั้ง กิจกรรมจากโครงการถนนสีขาว กิจกรรมรณรงค์การขับขี่อย่างปลอดภัยบนท้องถนน / การอบรมในโครงการเรซซิ่งสคูลเพื่อการขับขี่อย่างถูกต้องในการแข่งขัน และปิดท้ายความสนุกกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินวงซิงกูล่า และชิน ชินวุฒิ สนามต่อไป พบกับการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ Toyota Motorsport 2011 สนามที่ 5 ณ สวนสาธารณะสะพานหิน จังหวดภูเก็ต ในวันที่ 8-9 ตุลาคมนี้.