วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555

อวดโฉม6พริตตี้"มาสด้า สวีท"แจ่มทุกนาง!


มาสด้าเผยโฉม 6 พริตตี้ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 29 (มอเตอร์เอ็กซ์โป2012) พร้อมเปิดโอกาสให้ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง
หลัง จากที่ได้มีการคัดสรรกลั่นกรองอย่างเข้มข้มสำหรับกิจกรรมที่เปิด โอกาสให้น้องๆ ที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัย หรือเพิ่งจบการศึกษา แบบหมาดๆ เข้ามาสมัครเป็นตัวแทนของกลุ่มคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่มีแนวคิดและเอกลักษณ์เป็น ตัวของตัวเอง มีความเชื่อมั่น และมากความสามารถ กล้าแสดงออก ก้าวเข้ามาสู่วงการพรีเซ็นเตอร์มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอข้อมูลราย ละเอียดเกี่ยวกับรถยนต์มาสด้า
นาง สาวสุรีทิพย์ ละอองทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในปีนี้มีน้องๆสนใจเข้าร่วมโครงจำนวนกว่า 200 คน จากนั้นได้มีการคัดเลือกน้องๆ ที่มีความน่ารัก สดใส ร่าเริง ตรงตามบุคลิกของรถยนต์มาสด้า จนกระทั่งได้ "มาสด้า สวีท" 6 คน ที่มาช่วยในการสื่อสารและให้ข้อมูลต่างๆ ให้กับลูกค้าและผู้ที่สนใจเข้ามาชมบูธ ในงานแสดงรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 29 หรือ มอเตอร์เอ็กซ์โป 2012 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 29 พ.ย. - 10 ธ.ค. 2555 นี้ ซึ่งนอกจากจะได้ร่วมงานกับมาสด้าในงานดังกล่าวแล้ว ยังได้รับรายได้ที่งดงาม และยังได้มีโอกาสเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ การถ่ายแบบกันนิตยสารชื่อดังต่างๆ การออกรายการโทรทัศน์ รวมถึงโอกาสในการก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง 
"มาส ด้าเปิดโอกาสให้กับน้องๆ ยุคใหม่ที่มากความสามารถ มีบุคลิกเป็นตัวของตัวเอง มีความเชื่อมั่นในตนเอง อายุระหว่าง 18-25 ปี ส่วนสูงไม่น้อยกว่า 165 เซนติเมตร กำลังศึกษาหรือจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีขึ้นไป  ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในฐานะทีมประชาสัมพันธ์พิเศษ ซึ่งน้องๆ ที่มีความสนใจสามารถติดตามข่าวสารได้จากเว็ปไซต์มาสด้า หรือทางเฟสบุ๊คของมาสด้า ในโอกาสต่อไป" นางสาวสุรีทิพย์ กล่าว
ทั้ง นี้ มาสด้า สวีท ทั้ง 6 คน ประกอบด้วย 1.น้องหมิว นางสาวธัญชนก ไกรสุริยวงศ์ กำลังศึกษาอยู่ปี 1 คณะศิลปะศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อายุ 19 ปี 2.น้องปุ้มปุ้ย นางสาวพรรณทิภา อรุณวัฒนชัย สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีคณะนิเทศศาสตร์ จากรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต 3.น้องแพทตี้ นางสาวพัชรินทร์ ศรีวรวิทย์กุล สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง 4. น้องแพท นางสาวลักขณา พิพัฒน์เพชรภูมิ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต  5.น้องหญิง นางสาวมะลิสา วิภาณุรัตน์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาบัตรคณะศิลปะศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ 6.น้องก้อย นางสาวสาธิยา ช่อผกา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหิดล

"น้องหมิว" นางสาวธัญชนก ไกรสุริยวงศ์


"น้องปุ้มปุ้ย" นางสาวพรรณทิภา อรุณวัฒนชัย


"น้องแพทตี้" นางสาวพัชรินทร์ ศรีวรวิทย์กุล


"น้องแพท" นางสาวลักขณา พิพัฒน์เพชรภูมิ


"น้องหญิง" นางสาวมะลิสา วิภาณุรัตน์


"น้องก้อย" นางสาวสาธิยา ช่อผกา
พบ กับความน่ารัก สดใส ของสาวๆ มาสด้า สวีท มีทั้ง 6 คนได้ ที่บูธมาสด้าในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 วันที่ 29 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ที่เมืองทองธานี งานนี้พลาดแล้วจะเสียใจ ... นะจ๊ะ นะจ๊ะ

By Posttoday

http://www.roddb.com/images/banners/RodDB_88x31.gif

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในห้องนอน (แสง เสียง กลิ่น)


http://www.lazicondo.com/images/main/default/gallery/pic07.jpg

แสงในห้องนอน
การ จัดแสงสว่างในห้องนอน ควรคำนึงถึง ความสมบูรณ์ ของการใช้สอยด้วย แม้ว่า บรรยากาศ โดยรวมของห้องนอน น่าจะเป็นแสงที่ นุ่มนวล อบอุ่น ชวนให้พักผ่อน โดยอาจติดตั้ง โคมไฟหลุม แบบฝังในฝ้า แต่ก็ต้องจัด โคมไฟ ที่ให้ แสงสว่างเพิ่ม ในจุดที่ต้องการด้วย เช่น ไฟอ่านหนังสือ ที่ หัวเตียง หรือที่โซฟามุมห้อง หรือที่ โต๊ะเครื่องแป้ง และมุมแต่งตัว เป็นต้น

หลอด ไฟในห้องนอน ควรให้แสงสีนวล จะสบายตากว่า หลอดฟลูออเรสเซนต์ ถ้าต้องการให้ ห้องดูสว่างไสว อย่างนุ่มนวล ก็อาจใช้วิธี ติดโคมไฟเฉพาะจุด ให้สะท้อน จากผนังออกมา ให้แสงสว่างทั้งห้อง ก็ได้

สำหรับ ผู้ที่ชอบ แสงไฟที่มีสีสรร ก็อาจเลือก ประดับโคมไฟ ที่ให้สีสรร และลำแสง ที่แปลกออกไป แต่ก็ควรคำนึงว่า แสงสีแดง จะให้ความรู้สึก ร้อน รุนแรง และรุกรานได้ ในขณะที่ แสงสีเขียว ก็อาจ ก่อให้เกิด ความรู้สึกอึกอัด หดหู่ เหี่ยวเฉา หรือ สร้างบรรยากาศ ที่น่าสะพรึงกลัว ได้เช่นเดียวกับ แสงสีน้ำเงิน แสงที่มีสีสรร อาจจะดูดี เมื่อส่องไปที่ เฟอร์นิเจอร์ หรือผนังห้องก็จริง แต่มักจะก่อปัญหา ในยามที่แสงนั้น ส่องไปโดนคน เพราะจะเปลี่ยน รูปลักษณ์ของ คนคนนั้นไปจากปกติ ในทันทีที่โดนแสง

เสียงในห้องนอน
ห้องนอน ควรเป็นห้องที่ เงียบสงัดที่สุด ในคอนโด หรือ บ้าน แม้เมื่อเปิดหน้าต่าง ก็ไม่โดนรบกวน จากเสียงภายนอก มากนัก เพื่อให้ คุณนอนหลับสบาย ได้ตลอดคืน บางคน ชอบที่จะ ตื่นเช้าขึ้นมา พร้อมๆ กับ เสียง นกร้อง หรือไก่ขัน แต่บางคน ก็แทบจะ ทนเสียง เหล่านั้น ไม่ได้เลย ในกรณีที่ อยู่ใน สิ่งแวดล้อมที่ จอแจ ก็อาจจำเป็นต้อง ปิดกระจก และใช้ เครื่องปรับอากาศ บางคนนิยม ติดตั้ง เครื่องเสียง ไว้ในห้องนอน เพื่อเปิดฟัง ในยามพักผ่อน แต่ก็ควร คำนึงถึง ผู้ที่นอนร่วมห้องด้วย อย่าให้เป็นการ รบกวน อีกฝ่ายหนึ่ง

ควร สังเกตด้วยว่า ของใช้บางอย่าง ในห้องนอน ก่อให้เกิด เสียงรบกวน ที่น่ารำคาญ จนคุณ นอนหลับไม่เป็นสุข บ้างหรือเปล่า เช่น นาฬิกาหัวเตียง ที่เดินดังเกินปกติ หริอตีบอกเวลา ทุกชั่วโมง หรือเสี้ยวชั่วโมง เตียงนอน หรือที่นอน ที่ส่งเสียง เอี๊ยดอ๊าดทุกครั้ง ที่คุณขยับตัว เครื่องปรับอากาศ ที่ส่งเสียงกระหึ่ม ผิดปกติ หรือมีการสตาร์ท ดังเป็นระยะๆ สิ่งเหล่านี้ แก้ไขได้ และจะช่วยให้ คุณหลับเป็นสุข ยิ่งขึ้น

กลิ่นในห้องนอน
ห้อง นอน ควรอยู่ห่างจาก ห้องครัว เพื่อกันไม่ให้ กลิ่นอาหาร เข้าไปรบกวน ผู้นอน และไปเกาะติด อยู่ตาม ที่นอน หมอน ผ้าห่ม ขณะเดียวกัน ห้องนอน ที่มี ห้องน้ำในตัว หรืออยู่ติดกับ ห้องน้ำ ก็ควรวางแผน การระบายอากาศ ให้ดี อย่าให้มีกลิ่น ไม่พึงประสงค์ ไปรบกวน ในห้องนอนได้

บาง คน ชอบให่มีกลิ่นดอกไม้หอมๆ ในห้องนอน จึงเลือกปลูกต้นไม้ ที่ให้ดอกไม้หอม ไว้ริมหน้าต่าง หรือบนระเบียง บางคนเลือกใช้ กลิ่นหอม ที่ให้ความรู้สึก ผ่อนคลายในยามพักผ่อน ก็อาจใช้ เครื่องหอม ประเภท ดอกไม้แห้งอบหอม หรือน้ำมันหอม ประดับตกแต่ง ไว้ตามมุมต่างๆ

ข้อ สำคัญก็คือ อย่าให้ห้องนอน มีกลิ่นอับชื้น เป็นอันขาด เพราะจะกดดัน ให้ผู้นอน รู้สึกอึดอัด ถูกบีบคั้น และหลับไม่เป็นสุข ฝันร้ายบ่อยๆ และอาจ ก่อให้เกิด โรคภูมิแพ้ได้ สาเหตุของ กลิ่นอับชื้น อาจจะ มาจาก เครื่องนอนที่ใช้ ผ้าม่าน พรมปูพื้น ไม่สะอาดพอ นอกจากจะต้อง คอยดูแล รักษา ความสะอาดแล้ว ยังต้อง คอยเปิดหน้าต่าง ประตู ระบายอากาศ และเปิด ให้ แสงแดด ส่องเข้ามา อย่างสม่ำเสมอ การเลือกใช้ เครื่องนอน ก็ควรเลือกใช้ ที่มีคุณภาพดี และ ทำความสะอาด ได้บ่อยๆ

By http://www.cmc.co.th/files/picture/activity/thumb/activity-thumb-1-1341473491.jpg

วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555

อีซูซุทุ่ม 6 พันล.ตั้งโรงงาน



อีซูซุ ทุ่ม 6,500 ล้าน ผุดโรงงานเกตเวย์ ขยายกำลังการผลิตรวมเป็น 4.3 แสนคันต่อปี พร้อมขยายเป็น 5 แสนคัน
นาย ฮิโรชิ นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทอีซูซุในประเทศไทยได้ลงทุนมูลค่า 6,500 ล้านบาท ในการลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์อีซูซุแห่งใหม่ในนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ ซิตี้ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 1.2 แสนคันต่อปี แบ่งเป็นรถกระบะ 9 หมื่นคัน และรถบรรทุกขนาดกลาง 3 หมื่นคัน ซึ่งเมื่อรวมกับกำลังการผลิตเดิมที่โรงงานสำโรง จ.สมุทรปราการ ที่มีกำลังการผลิต 3.1 แสนคันต่อปี ส่งผลให้มีกำลังการผลิตรวม 4.3 แสนคันต่อปี ทั้ง นี้ การขยายกำลังการผลิตดังกล่าวจะสามารถช่วยคลี่คลายปัญหายอดค้างส่งมอบรถยนต์ (แบ็กออร์เดอร์) ของรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ ที่ในปี 2555 มียอดค้างส่งรวมกว่า 2 แสนคัน ซึ่งถือได้ว่าในปีนี้มียอดค้างส่งที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์การดำเนินงาน ของบริษัทในประเทศไทย พร้อมผลิตเพื่อส่งออก โดยปัจจุบันมีสัดส่วนการส่งออกอยู่ที่ 40% และในประเทศอยู่ที่ 60% โดยปีนี้คาดว่าอีซูซุจะมีตัวเลขส่งออกอยู่ที่ 1.4-1.5 แสนคัน
“หลัง จากการเริ่มเดินสายการผลิตของโรงงานเกตเวย์แล้ว คาดว่าจะสามารถเคลียร์ปัญหาการส่งมอบรถที่ค้างอยู่ 3-4 เดือนลงได้ครึ่ง|หนึ่ง” นายนาคางาวะ กล่าว
อย่าง ไรก็ตาม บริษัทมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มต่อเนื่อง โดยการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 5 แสนคันต่อปี ซึ่งล่าสุดได้เจรจากับบริษัทแม่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้ถึงจำนวนดังกล่าว โดยตรง เนื่องจากปัจจุบันตลาดในประเทศไทยถือได้ว่าอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยจะต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบริษัทแม่ ซึ่งจะมีการประกาศให้ทราบต่อไป
นอก จากนี้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาบริษัทได้ย้ายฐานวิจัยและพัฒนา หรือ R&D รถกระบะของอีซูซุมายังประเทศไทย และให้ความสำคัญต่อประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งการเปิดโรงงานดังกล่าวถือได้ว่าใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและครบวงจร ที่สุด เพื่อเป็นฐานการผลิตรถกระบะในการส่งออกไปยัง 107 ประเทศทั่วโลก ซึ่งในเดือน พ.ย.นี้จะมีการผลิตรถกระบะในประเทศไทยของอีซูซุครบ 3 ล้านคัน
นาย นาคางาวะ กล่าวว่า สำหรับภาพรวมตลาดรถยนต์ในประเทศในปี 2555 นี้ คาดว่าจะขยายตัวไปแตะระดับ 1.4 ล้านคัน โดยขึ้นอยู่กับกำลังการผลิตของทุกบริษัทว่าจะสามารถผลิตได้จำนวนเท่าใด ซึ่งการขยายตัวดังกล่าวมาจากปัจจัยโครงการคืนภาษีรถยนต์คันแรก 1 แสนบาท และคาดว่าจะดึงกำลังซื้อในปี 2556 มาอยู่ในปีนี้ ส่งผลให้คาดว่าภาพรวมตลาดรถยนต์ในปี 2556 จะลดลง 5-10% หลังสิ้นสุดมาตรการดังกล่าว


http://www.roddb.com/images/banners/RodDB_88x31.gif

ไอเดียแก้ปัญหาพื้นที่จำกัดด้วยการจัดเก็บให้เป็นที่

1. ครัวซ่อนในผนัง
สำหรับห้องพักบนคอนโดฯ มักมีครัวแพนทรี่ติดกับผนังห้องรับแขกซึ่ง เกะกะรกหูรกตามาก เราจึงมีไอเดียทำให้มันหายไปแต่ยังได้ประโยชน์ใช้งานเท่าเดิมด้วยการทำบาน เลื่อนสูงชนเพดานปิดซ่อนมันไว้เวลาใช้ก็ค่อยเปิดออก แต่หากต้องการให้ห้องดูกว้างแนะนำให้กรุบานเลื่อนด้วยกระจกเงา

http://www.roommag.com/images/magazine/92/pview/goodideas-01.jpg
สถานที่ บ้าน คุณณัฐพงศ์ เพียรเชลงเอก

2. ปิดก็ได้ ปิดก็โปร่ง
ส่วน ที่มีพื้นที่ใช้สอยสองส่วน (หรือหลายส่วน) ต่อเนื่องกัน อาจเลือกใช้ประตูบานเฟี้ยมเป็นตัวกั้น เวลาปิดก็ได้ความเป็นสัดส่วน เวลาเปิดก็ได้ความโปร่งโล่ง เชื่อมทั้งสองส่วน (หลายส่วน) ให้เปิดถึงกันได้
http://www.roommag.com/images/magazine/92/pview/goodideas-02.jpg
สถานที่ บ้านคุณอัลชรัตน์ อัลภาชน์

3.ตู้ซ้อนผนัง

ยอม เสียพื้นที่ข้างผนังทางเดืนหรือผนังภายในห้องกว้าง 50 เซนติเมตร เพื่อทำตู้เก็บสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ โดยทำสีบานเปิดตู้ให้กลืนไปกับผนัง จะทำให้ห้องดูกว้างขึ้น
http://www.roommag.com/images/magazine/92/pview/goodideas-03.jpg
แฟ้มภาพนิตยสาร room

4. ผนังเก็บได้เก็บดี

การ ออกแบบผนังเว้นร่องห่าง นอกจากเพื่อความสวยงามแล้ว เรายังสามารถใช้ประโยชน์ทำเป็นช่องจัดเก็บแผ่นซีดีหรือดัดแปลงขนาดช่องให้ กว้างขึ้น เพื่อใช้จัดเก็บของตกแต่งอื่นก็ได้
http://www.roommag.com/images/magazine/92/pview/goodideas-04.jpg
สถานที่ บ้านคุณรัฐพล ศักดิ์ดามพ์นุสนธิ์

5. ซ่อนบานเลื่อนในผนัง
ประตู บานเลื่อนนัดเป็นประตูที่ช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากว่าบานสวิง แต่หากให้ดูเรียบร้อยยิ่งขึ้น แนะนำให้ทำผนังให้หนาอีกประมารณ10 ซม. เท่านี้บานเลื่อนก็จะหายไปในผนัง ทำให้บ้านดูสวยโปร่งโล่งขึ้นเยอะ
http://www.roommag.com/images/magazine/92/pview/goodideas-05.jpg
ภาพจากนิตยสารรูม

6. เตียงเสริม
บ้าน ที่มักมีแขกมาเยี่ยมบ่อยๆแนะนำให้เตรียมเตียงเสริมไว้ด้วย โดยออกแบบให้ใต้เตียงมีพื้นที่ว่างสำหรับเก็บเบาะไว้ด้วย และทำขนาดเบาะหรือหาเบาะที่ขนาดใกล้เคียงช่องว่างใต้เตียง เท่านี้ก็ใช้ประโยชน์กับพื้นที่ได้มากขึ้น
http://www.roommag.com/images/magazine/92/pview/goodideas-06.jpg
บ้านคุณปารมี ทองเจริญ

7. ครัวจิ๋วแต่แจ๋ว
อ่าง ล้างจานเล็กๆ แบบนี้เหมาะกับบ้านที่มีสมาชิกอยู่กันแค่ 1-2 คน พื้นที่ที่เหลือจะได้ทำเป็นส่วนเตรียมอาหาร เพื่อให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่ายิ่งขึ้น

http://www.roommag.com/images/magazine/92/pview/goodideas-07.jpg
สถานที่ คุณนัศมา ปิยะวงศ์วิศาล



http://www.cmc.co.th/files/picture/activity/thumb/activity-thumb-1-1341473491.jpg

วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2555

10 สุดยอดรถ-JAMES BOND 007


พาหนะ คู่ใจของสายลับ 007 แต่ละคันเพียบพร้อมไปด้วยความร้ายกาจเพื่อต่อกรกับเหล่าองค์กรอาชญากรรมนอก กฎหมายระดับโลก รถยนต์ที่เป็นพาหนะประจำตัวของชายที่ได้ชื่อว่ามีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามมากที่ สุด
อย่างสายลับเจ้าของรหัส 007 ในหน่วยงานสืบราชการลับของอังกฤษที่โลดแล่นอยู่บนแผ่นฟิล์มมานานกว่า 48 ปีใน 21 ตอน...

นอก เหนือไปจากความหล่อเหลา เจ้าสำอาง ความสามารถในการต่อสู้และใช้อาวุธทุกรูปแบบ และสาวๆที่มารุมล้อมสายลับเจ้าของรหัส 007 แล้ว ยังมีพาหนะที่ James Bond ใช้ในทุกๆ ตอนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รถยนต์ทั้ง 10 คันที่ Bond ใช้เป็นพาหนะคู่กายได้สร้างตำนานควบคู่ไปกับภาพยนตร์ตั้งแต่ปี 1962 ถึง 2008 คุณสมบัติของรถแต่ละคันมีความเพียบพร้อมทั้งรูปทรง สมรรถนะ ผ่านข้ามยุคสมัยและกาลเวลา ตราบเท่าที่ยังคงมีสายลับรหัส 007 ออกมาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์ม เราก็จะสามารถพบเห็นพวกมันสร้างสีสันและความตื่นเต้นประทับใจ ให้กับผู้ที่ชื่นชอบยานยนต์ทุกคน

ฉาก การขับรถไล่ล่าของ ภาพยนตร์ James Bond ในตอนล่าสุด Quantum Of Solace ระหว่างรถ Alfa Romeo 159 สีดำที่เป็นรถยนต์ของคนร้าย กับรถ Aston Martin DBS พาหนะสุดแรงสุดหรูของ 007 ที่รับบทโดย Daniel Craig นักแสดงชาวอังกฤษในบทบาทของ Bond สองตอนล่าสุดยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของผู้ที่เสพติดความเร็วทุกคน Daniel Craig กับรถ Aston Martin DBS 2008 ได้ชื่อว่าเป็น Bond ที่มีความสมจริงมากที่สุดแตกต่างจากบุคลิกขี้เล่นและตลกขบขันของ James Bond คนก่อนๆ ที่มักมีฉากที่ขาดความสมจริงทางอารมณ์อยู่บ่อยครั้ง
Aston Martin DB5 1963-1965
Aston Martin DB5 เป็นหนึ่งในรถที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลกภาพยนตร์หลังจากรถคันนี้ถูกสายลับ 007 ใช้เป็นพาหนะประจำตัว สำหรับหนังเจมส์บอนด์ตอนโกลฟิงเกอร์ในปี 1964 แม้ว่าเอียนเฟลมมิ่งผู้ประพันธ์นวนิยายสุดฮิตเรื่องนี้ได้วางรถ Aston Martin DB Mark III เอาไว้ก็ตาม DB5 เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัท Aston Martin เมื่อภาพยนตร์ถูกสร้างขึ้น รถที่ใช้ในภาพยนตร์เรื่องนี้คือต้นแบบเดิมของ DB5 เพื่อโปรโมต สุดหล่อสีเงินคันนี้ ถูกเปิดตัวในงานนิวยอร์กเวิลด์ปี 1964 และมันก็ถูกขนานนามว่าเป็นรถที่มีคนรู้จักมากที่สุดในโลก หลังจากหนังออกฉาย เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 6 กระบอกสูบ ปริมาตรความจุ 3,995 ซีซี 282 แรงม้า แรงบิด 390 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังใช้เกียร์ธรรมดา 5 สปีดของ ZF เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรใน 8.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Toyota 2000GT Roadster 1967
สปอร์ต โรสเตอร์สองที่นั่งคันนี้ คือรถยนต์หนึ่งเดียวที่ปรากฏบนแผ่นฟิล์มของหนังเจมส์บอนด์ในตอน You Only Live Twice ถึงแม้บางฉากของหนังเรื่องนี้ พระเอกสุดคลาสสิกอย่าง Sean Connery จะขับแต่เครื่องร่อนติดเครื่องยนต์และปล่อยให้นางเอกสนุกไปกับ Toyota 2000GT Roadster ที่เธอขับหลบหนีการไล่ล่าของเหล่าร้ายไปทั่วโตเกียว ถึงแม้ 2000 GT รุ่นนี้จะถูกผลิตออกจำหน่ายไปทั่วโลก แต่ความสูงโย่งของดาราดัง Connery ทำให้ทาง Toyota ต้องหั่นหลังคาของมันออกถึงจะสามารถนำมาเข้าฉากการไล่ล่าบนถนนที่สุดแสนจะ ระทึกใจนี้ได้ เครื่องยนต์ 6 สูบ 2.0 ลิตร 150 แรงม้าบนน้ำหนักตัว 1,100 กิโลกรัม พวงมาลัยแรคแอนพีเนียนกับเพลาหลังแบบใหม่ช่วยให้มันมีประสิทธิภาพที่ดีในการ วิ่งกินลมชมวิว
Lotus Esprit S1 1975

Esprit เปิดตัวในเดือนตุลาคม 1975 โดยใช้เวทีงานแสดงรถยนต์ปารีสมอเตอร์โชว์ และเข้าสู่การผลิตในเดือนมิถุนายนปี 1976 แทนที่ รุ่น Europa สปอร์ตเครื่องวางกลางสุดคลาสสิกของค่ายดอกบัว รถ Esprits S1 กับแซสซีส์เหล็กและห่อหุ้มด้วยตัวถังไฟเบอร์กลาส Esprit S1 ถูกขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ Lotus 907 เครื่องเบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตรให้กำลัง 162 แรงม้า bhp (119 กิโลวัตต์ 162 PS) น้ำหนักเบาเพียงแค่ 1,000 กิโลกรัม (2,205 ปอนด์) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรใน 6.8 วินาทีและความเร็วสูงสุด 222 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ปรากฏตัวในตอน The spy who loved me และเป็นรถเจมส์บอนด์คันแรกที่สามารถดำน้ำได้
Aston Martin V8 Vantage 1977

Aston Martin V8 Vantage เปิดตัวในฐานะ Supercar คันแรกของอังกฤษในปี 1977 สำหรับความเร็ว 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมงซึ่งเป็นความเร็วสูงสุดที่มันสามารถทำได้ เครื่องยนต์ถูกใช้ร่วมกันกับรุ่น Lagonda แต่ใช้ camshafts ประสิทธิภาพสูง อัตราส่วนกำลังอัดที่เพิ่มขึ้น เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรใน 5.3 วินาที เร็วกว่า Ferrari Daytona หนึ่งในสิบของวินาที เครื่องยนต์ในรถรุ่นแรกมี เรี่ยวแรง 375 แรงม้า (280 กิโลวัตต์) รุ่นแนะนำในช่วงปลายปี 1978 มีเครื่องยนต์ V8 ที่ให้กำลังถึง 390 แรงม้า (291 กิโลวัตต์) จนกระทั่งถึงปี 1986 เครื่องยนต์ V8 รุ่นใหม่ที่วางมีแรงม้าถึง 405 ตัว (302 กิโลวัตต์) พาหนะประจำตัวของเจมส์บอนด์ตอน The Living Daylights คันนี้ยังพกพาอาวุธมามากมายทั้งปืนกลอัตโนมัติ จรวดแบบพื้นสู่พื้นและยางที่ใช้วิ่งบนหิมะ



BMW 750iL 1994-2001

BMW Series-7 รุ่นนี้ใช้รหัสตัวถัง E38 เปิดผ้าคลุมในปี 1994 สายพันธุ์เครื่องยนต์ในยุโรปเริ่มจาก 725tds, 728i, 730i, 730d, 735i, 740i 4.0 , 740D และ 750i 5.4 ลิตร V12 346 แรงม้า (258 กิโลวัตต์; 351 PS) รุ่นสูงสุดซึ่งเป็นรถเจมส์บอนด์ตอน Tomorrow Never Dies ที่เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ไฮเทคมากมาย เช่น ระบบควบคุมรถแบบอัตโนมัติผ่านมือถือ ระบบเติมลมยางแบบอัตโนมัติ ซันรูฟติดตั้งแผงจรวดขนาดเล็ก สุดท้าย 007 บังคับมันผ่านโทรศัพท์มือถือโนเกียให้ลอยลงมาจากอาคารจอดรถแบบพังกระจาย อย่างน่าเสียดาย




BMW Z3 Roadster 1997

บริษัท BMW เปิดตัวรถยนต์เปิดประทุนสองที่นั่งรุ่น Z3 เป็นครั้งแรกในหนังเจมส์บอนด์ตอน Golden Eye ปี 1995 และสร้างความตื่นตะลึงในรูปโฉมอันสวยงามของรถรุ่นใหม่คันนี้ เมื่อเจ้า Z3 สีฟ้าถูกนำมาวิ่งบนทางลูกรังเลียบชายทะเลในแถบแคริบเบียน แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ในตอนนั้นมันถูกสร้างขึ้นอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ทัน กับการนำมาเข้าฉาก ตัวรถจึงขาดความสมบูรณ์ของระบบอาวุธรวมถึงระบบป้องกันตัวเอง รถ Z3 ปรากฏตัวเพียงแค่แวบเดียวจากเบื้องหลังการถ่ายทำที่ถูกปิดเป็นความลับของ ค่าย BMW มันถูกขับโดยพระเอกสุดหล่อเจ้าสำอางอย่าง Pierce Brosnan ซึ่งเข้ามารับบทบาทสายลับ 007 เป็นครั้งแรก ถึงแม้จะมีภาพที่ตลกติดตัวมาบ้างแต่บุคลิกของ Pierce Brosnan ทำให้ชื่อเสียงของบอนด์กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
BMW Z8 Roadster 1999

รถ BMW Z8 Roadster ที่ปรากฏให้เห็นในภาพยนตร์เป็นครั้งแรกจากหนังเจมส์บอนด์ตอน The World Is Not Enough เป็นเพียงรถต้นแบบบนโครงตังถังอะลูมิเนียมกลวงๆ และมันไม่มีแม้แต่เครื่องยนต์อะไรทั้งสิ้นที่จะทำให้รถคันนี้สามารถขับ เคลื่อนไปได้ ทีมถ่ายทำ 007 ต้องใช้เทคนิคพิเศษเข้าช่วยเหลือเพื่อให้มันดูเป็นรถที่วิ่งได้จริง รถ BMW Z8 Roadster ของ 007 ถูกติดตั้งระบบ Sonic Laser กับจรวดต่อต้านรถถังสำหรับต่อกรกับบรรดาวายร้าย สุดท้าย มันถูกผ่าออกเป็นสองซีกด้วยเลื่อยวงเดือนที่ติดอยู่ใต้เฮลิคอปเตอร์แบบไม่ ค่อยจะมีบทบาทเท่าที่ควรในหนัง 007 ตอน The World Is Not Enough และทำให้มันกลายเป็นจักรกลสปอร์ตคันสุดท้ายของค่ายใบพัดสีฟ้าที่ร่วมแสดงใน หนังเจมส์บอนด์ หลังจาก BMW สนับสนุนรถยนต์และมอเตอร์ไซค์สำหรับเข้าฉากมาถึงสามตอน รถ Z8 Roadster วางเครื่องยนต์แบบV8 4.4 ลิตร 400 แรงม้าซึ่งเป็นเครื่องยนต์ของรถ M5 E39 เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรใน 4.4 วินาทีและมีความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Aston Martin Vanquish 2002

ค่าย Aston Martin จัดหารถรุ่น Vanquish มาเข้าฉากไล่ล่าในหนังเจมส์บอนด์ถึง 7 คัน เพื่อใช้ถ่ายทำตอน Die Another Day หนังบอนด์ตอนใหม่ประจำปี 2002 ซึ่งมีฉากไล่ล่าสุดระทึกบนหิมะระหว่าง Jaguar XKR กับรถ Vanquish บอนด์ที่รับบทบาทโดย Pierce Brosnan ขับขี่ควบคุมรถ Vanquish ได้อย่างสุดยอดทั้งขับถอยหลังด้วยความเร็วสูงหรือหมุนตัวกลางอากาศ เพื่ิอหลบหลีกจรวดที่ยิงมาจาก Jaguar XKR สุดท้าย รถ Vanquish พุ่งเข้าชนโดมน้ำแข็งเพื่อช่วยเหลือนางเอกที่กำลังจมน้ำ บริษัท Aston Martin ใช้รถ Vanquish ที่ติดตั้งช่วงล่างแบบขับเคลื่อนสี่ล้อของ Ford สำหรับเข้าฉากขับไล่ล่าบนผิวน้ำแข็ง และนับเป็นหนังบอนด์ตอนสุดท้ายที่แสดงโดย Pierce Brosnan
Aston Martin DBS 2006

นัก แสดงชาวอังกฤษเจ้าบทบาทชื่อ Danlel Craig เข้ามารับบทบาทของ 007 ต่อจาก Pierce Brosnan และทำให้หนังบอนด์ตอน Casino Royale กลับมาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มด้วยความสมจริงอีกครั้ง ด้วยพาหนะประจำตัวรุ่นใหม่นั่นก็คือ Aston Martin Vanquish ที่มีความใกล้เคียงกับรถจริงโดยไม่มีอุปกรณ์เว่อร์ๆ มาคอยช่วยเหลือแต่อย่างใดทั้งสิ้น ผู้กำกับต้องการให้ตอน Casino Royale ออกมาแบบสมจริงสมจังมากที่สุดใกล้เคียงกับความเป็นไปได้ในโลกแห่งความเป็น จริงที่ประสานกันอย่างกลมกลืนกับโลกมายา พระเอกของเราสามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้แม้จะโดนวางยาพิษที่รุนแรง จากการใช้เครื่องมือกระตุ้นหัวใจที่เก็บอยู่ใต้คอนโซล และอีกครั้งที่โครงสร้างอันแข็งแกร่งของรถ Vanquish ช่วยให้ Danlel Craig รอดจากอุบัติเหตุพลิกคว่ำหลังจากพวกผู้ร้ายเอาตัวนางเอกไปวางไว้กลางถนน เพื่อทำให้บอนด์ขับชน แต่เขาสามารถหักพวงมาลัยหลบได้ ตัวรถ Vanquish นั้นพังยับไม่มีชิ้นดีอย่างน่าเสียดาย
Aston Martin DBS 2008

หนัง เจมส์บอนด์ตอน Quantum Of Solace เปิดฉากด้วยการขับรถไล่ล่ากันอย่างบ้าระห่ำทางตอนใต้ของอิตาลี ระหว่าง Aston Martin DBS ของบอนด์กับ Alfa Romeo 159 ของเหล่าร้าย ซึ่งมีเบื้องหลังการถ่ายทำที่สุดแสนจะอันตรายและมีผู้แสดงแทนในฉากนี้ได้รับ บาดเจ็บสาหัสไปหลายคนกับรถ Alfa Romeo 159 ที่กลายเป็นซากอีก 4 คัน ส่วนรถ Aston Martin DBS ที่พังยับอีก 2 คันก็มีสภาพที่ไม่แตกต่างกันนั่นก็คือทิ้งขยะอย่างเดียวเท่านั้น Aston Martin DBS เป็นรถที่มีความงามทางสายตา บวกกับสมรรถนะอันสุดยอดและความเป็นซุปเปอร์คาร์แบบผู้ดีอังกฤษ ทำให้มันมีความเหมาะสมที่จะกลับมาเป็นพาหนะคู่ใจของ 007 อีกครั้งสำหรับตอน Quantum Of Solace

รถ ยนต์ ของเจมส์บอนด์ทุกคันสื่อให้เห็นถึงความ หมายของรถสปอร์ตที่ต้องสวยงาม มีประสิทธิภาพและให้ภาพลักษณ์แบบเพลย์บอยแบบที่ผู้ชายอยากเป็น จักรกลทุกคันที่ปรากฏบนแผ่นฟิล์มล้วนแล้วแต่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี รถเหล่านี้ควบคุมได้ง่ายโดยมีคนขับเป็นจุดศูนย์กลางพร้อมด้วยงานวิศวกรรม ขั้นสูงของแต่ละยุคสมัยที่แปรเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยี มันคือของเล่นสำหรับชายชาตรีที่จะไม่มีวันเลือนหายไปจากโลกใบนี้อย่างแน่ นอน.


http://www.roddb.com/images/banners/RodDB_88x31.gif

9 ไอเดียเล็กๆ...เรื่องของห้องน้ำ คอนโด และ บ้าน



“เครื่องชั่งน้ำหนัก เอาไว้ไหนดี”
เครื่อง ชั่งน้ำหนักนี่ละ ถ้าวางเกะๆกะๆในห้องน้ำจะดูเหมือนเป็นส่วนเกินของห้องไปเลย ที่ทางที่เหมาะๆควรจะเป็นพื้นที่เรียบและแห้ง เช่น บริเวณใต้เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า หรือถ้าบ้านไหนไม่มีเคาน์เตอร์ ลองหาโต๊ะเตี้ยๆที่มีขนาดกว้างพอเหมาะไว้วางของกระจุกกระจิก ส่วนข้างใต้โต๊ะก็สอดเจ้าเครื่องนี้เก็บเข้าไป เท่านี้ห้องน้ำของคุณก็เคลียร์แล้ว
“ตะกร้าผ้า…เกะกะจริงๆ”
ตะกร้า ผ้าไม่จำเป็นต้องไปนอนนิ่งอยู่ในห้อง น้ำ เลือกทำตู้บิลท์อินสำหรับเก็บผ้าเตรียมซักไว้หน้าห้องน้ำจะคุ้มกว่าต้องก้ม เก็บและเลื่อนตะกร้าไปมาทุกวัน ตู้ที่ว่านี้ออกแบบให้มีลิ้นชักกว้างเป็นพิเศษ สูงประมาณ 40 เซนติเมตร และลึก 50 – 60 เซนติเมตร อาจแยกเป็นชั้นตามจำนวนสมาชิกในบ้าน หรือแยกเป็นชั้นผ้าสีกับผ้าขาวก็ได้ ถ้าด้านบนยังเหลือพื้นที่ ก็ทำเป็นตู้สูงเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดเพิ่มได้อีกนะ ไอเดียนี้ทั้งดูสวยสบายตาและใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าจริงๆ

“แย่แล้ว…จะเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดไว้ไหนดีล่ะ”
ถึง อย่างไรห้องน้ำก็ หนีไม่พ้นต้องพึ่งอุปกรณ์ทำความสะอาด ทั้งแปรงขัดพื้น แปรงขัดชักโครก น้ำยาล้างห้องน้ำ และไม้ถูพื้น ห้องน้ำสวยๆต้องมาหมดท่าก็เพราะอุปกรณ์ทุกอย่างมามะรุมมะตุ้มวางบ้างตาก บ้างอยู่ในนี้ ฉะนั้น ถ้าจะให้เวิร์คสุดๆ ควรออกแบบให้มีตู้หรือห้องเก็บอุปกรณ์พวกนี้ไว้บ้างในห้องน้ำตั้งแต่เริ่ม สร้าง แต่ถ้าห้องน้ำเล็กเสียจนไม่มีที่อีกแล้ว การติดชั้นวางตะแกรงโปร่งในส่วนเปียก หรือหาที่แขวนสวยๆ ประมาณตากไปโชว์ไป แห้งแล้วค่อยเก็บ ก็โอเคอยู่นะคะ
“ลืม...ติดปลั๊กมีฝาครอบในห้องน้ำ”
ถ้า คุณจำเป็นต้องใช้เครื่องเป่า ผมหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้องน้ำ อย่าลืมติดปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบและต้องเดินสายดินด้วยทุกครั้ง โดยติดตั้งให้สูงพ้นจากอ่างล้างหน้าขึ้นมาประมาณ 30 เซนติเมตร หรือติดบนผนังด้านข้างอ่างแทนก็ยิ่งดี อ้อ...เดี๋ยวนี้ปลั๊กไฟก็มีดีไซน์สวยๆเยอะเลย ลองเลือกรูปแบบที่ชอบและเข้ากับห้องดูค่ะ

“อากาศไม่ระบาย ติดพัดลมดูดเพิ่มดีไหม”
ห้อง น้ำที่ดีควรมีช่องแสงและ หน้าต่างระบายอากาศอย่างเพียงพอ เพื่อให้ส่วนเปียกแห้งเร็วขึ้น ไม่ก่อปัญหาเรื่องกลิ่นอับและเชื้อรา แต่หากห้องน้ำที่บ้านอยู่ในมุมอับทึบ มีช่องแสงน้อย และไม่มีที่ระบายอากาศ ควรติดพัดลมดูดอากาศ 1 – 2 ตำแหน่ง คือเหนือส่วนชักโครก และเหนือส่วนอาบน้ำ ช่วยให้อากาศถ่ายเทดีขึ้น ส่วนจะเลือกแบบติดผนังหรือฝ้าเพดานก็แล้วแต่พื้นที่ ถ้าติดบนฝ้า ควรเผื่อพื้นที่เหนือเพดานไว้อย่างน้อยประมาณ 20 เซนติเมตร
“แย่แล้ว...ยาสีฟันหมดพอดี”
ของ ใช้ประจำวัน เช่น ยาสีฟัน ทิชชู่ สบู่ และแชมพู ควรมีเก็บตุนไว้บ้าง เผื่อกรณีหมดกะทันหัน โดยหาที่เก็บแห้งๆหยิบได้สะดวก เช่น พื้นที่ภายในตู้เคาน์เตอร์ หรือออกแบบชั้นวางเพิ่มเติม ด้วยการยึดแผ่นไม้หรือตะแกรงเหล็กเข้ากับผนัง แค่นี้ก็หมดปัญหา
“พลาด...แต่งหน้าในห้องน้ำภายใต้แสงสลัว”
ถ้า เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า คือส่วนแต่งตัวของสาวๆ ต้องระวังเรื่องแสงไฟให้ดี เพราะแสงที่สลัวๆจะดูหลอกตา แต่งหน้าทีไรเข้มเป็นงิ้วทุกที หลีกเลี่ยงการใช้หลอดไฟออกสีส้มๆประเภทวอร์มไวท์โดยเด็ดขาด แนะให้ใช้หลอดไฟแสงสีขาว เช่น คูลไวท์หรือเดย์ไลต์ ติดรอบๆกระจกเงา หรือจะซ่อนไฟให้แสงเรืองไม่แยงตา ก็ช่วยให้มองเห็นสีของเครื่องสำอางชัดเจน หรือถ้าเป็นไฟดาวน์ไลต์บนฝ้าเพดาน เลือกติดให้ตำแหน่งโคมไฟเบี่ยงไปทางด้านหลัง เพื่อลดแสงตรงๆที่ทำให้เกิดเงาบนใบหน้า

“ตากผ้าขนหนู...ยังไงก็ไม่แห้ง”
ผ้า ขนหนูเปียกหมาดๆ ตากในห้องน้ำที่ชื้นและอับ ยังไงก็ไม่แห้งแน่นอน การแก้ปัญหาต้องเริ่มตั้งแต่การทำห้องน้ำ โดยควรแบ่งโซนเปียก-แห้งให้ชัดเจน ส่วนที่ต่อเนื่องกับภายนอกก็ออกแบบเป็นระเบียงเอ๊าต์ดอร์สำหรับตากผ้า กั้นด้วยบานเลื่อนกระจกฝ้าหรือบานเกล็ดไม้ ก่อนเข้าสู่ส่วนอาบน้ำ ถ้าห้องน้ำมีพื้นที่น้อย หาราวแขวนสเตนเลสกว้างๆสัก 90 เซนติเมตร ยึดเข้ากับผนังส่วนแห้งแทน รับรองผ้าแห้งหายห่วง
“ใช้น้ำอุ่นหลายจุด เปลี่ยนเป็นเครื่องทำน้ำร้อนดีกว่า”
หน้า ตาของ เครื่องทำน้ำร้อนก็คล้ายๆเครื่องทำน้ำอุ่นนั่นแหละ แต่ราคาจะแพงกว่าหน่อยและมีกำลังวัตต์มากกว่า เหมาะสำหรับบ้านที่ใช้งานน้ำอุ่นในหลายจุด โดยควรติดตั้งตัวเครื่องและเบรกเกอร์ในที่แห้ง เช่น ผนังด้านหลังชาวเวอร์ หรือซ่อนในตู้เคาน์เตอร์อ่างล้างมือ แล้วต่อเฉพาะท่อน้ำร้อนให้ใกล้กับก๊อกน้ำให้มากที่สุด (ควรเป็นก๊อกน้ำผสมที่ทนแรงดัน) ที่สำคัญอย่าลืมเดินสายดินต่อเข้ากับแท่งเหล็กทองแดงยาว 1.50 เมตร แล้วตอกลงดิน เพื่อป้องกันไฟรั่วระหว่างใช้งาน

http://www.cmc.co.th/files/picture/activity/thumb/activity-thumb-1-1341473491.jpg

วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555

มาสด้า ส่งมาสด้า2 รุ่นพิเศษ กระตุ้นตลาด

ไม่ ยอมหยุดนิ่งจริงๆ สำหรับมาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) ที่แม้ว่ายอดขาย รถใหม่ รถ มาสด้า จะขยับอย่างต่อเนื่อง แต่ล่าสุด ก็ยังจับ มาสด้า 2  ทั้งแฮตช์แบค 5 ประตู  และ  เอลิแกนซ์ ซีดาน 4 ประตู มาเติมเต็มความเป็นสปอร์ตของแท้จากโรงงาน พร้อมตกแต่งสีสันภายใต้แนวคิด ซูม-ซูม ภายใต้ชื่อ “MAZDA2 RACING SERIES 2012” โดยผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,000 คันเท่านั้น
นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย)  กล่าวว่า มาสด้าประสบความสำเร็จอย่างงดงามจากการเปิดตัว รถใหม่ มาสด้า2 รุ่นพิเศษ "Racing Series" ในรุ่นแรก มาในครั้งนี้มาสด้าเอาใจคนที่หลงใหลความเป็นสปอร์ตในสไตล์ ซูม-ซูม ของมาสด้า2 ด้วยการแนะนำรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2 ใหม่ รุ่นพิเศษ Limited Edition เวอร์ชั่น 2 หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดที่ปล่อย Racing Series ชุดแรกจำนวน 600 คัน ก็ได้รับผลตอบรับดีเกินคาด โดยรถถูกจองหมดภายในวันเดียว
ส่งผลให้มาสด้าตัดสินใจ สร้างรุ่นพิเศษรุ่นที่ 2 ออกมา ภายใต้ชื่อ "RACING SERIES 2012" “พันธะสัญญาสำหรับคนจิตวิญญาณเดียวกัน”  ที่เน้นความเป็นสปอร์ตดุดันมากยิ่งขึ้น 
สำหรับ MAZDA2 RACING SERIES 2012 ได้รับการตกแต่งพิเศษเฉพาะรุ่น มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งของแท้จากโรงงาน ทั้ง สเกิร์ตหน้าและกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ตามแบบฉบับสปอร์ตเรซซิ่ง สเกิร์ตหลังดีไซน์ใหม่ตกแต่งพร้อม  ดิฟิวเซอร์ หลังคา Sport Black ด้วยสติ๊กเกอร์แบบเงาพร้อมเสาอากาศแบบสั้นดีไซน์เฉพาะรุ่น  มาพร้อมสปอร์ตเลอร์หลังคา ล้ออัลลอยด์ขอบ 16 นิ้ว สีพิเศษ Gun Metallic
ให้ ความสปอร์ตดุดันอีกขั้นด้วยยางซีรี่ส์ต่ำ ปลายท่อไอเสียสเตนเลสสุดเท่ เติมดีกรีด้วยสติ๊กเกอร์ RACING SERIES พร้อมกราฟฟิกออกแบบพิเศษลายสปอร์ต สัญลักษณ์ Signature เฉพาะรุ่นพิเศษ
พร้อม ความบันเทิงเต็มรูปแบบด้วยวิทยุ FM/AM พร้อมเครื่องเล่น CD/MP3 แบบ 2DIN พร้อมรีโมทคอนโทรล และมัลติฟังก์ชั่นการควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
สำหรับ รถใหม่ รุ่นพิเศษมาสด้า2 สปอร์ต แฮตช์แบค 5 ประตู มาพร้อมกับเฉดสีใหม่พิเศษเฉพาะรุ่นนี้ คือ สีเงิน อลูมินั่ม เมทัลลิก มีจำนวนจำกัดเพียง 123 คันเท่านั้น และยังมีสปอร์ตอย่างสีแดง ทรูเรด และสีขาว อาคติคไวท์ อีกจำนวนจำกัดเพียง 377 คันเท่านั้น โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 684,000 บาท
ส่วนในรุ่นเอลิแกนซ์ ซีดาน 4 ประตู มีให้เลือก 2 สี ประกอบด้วย สีเงิน อลูมินั่ม เมทัลลิก ซึ่งเป็นเฉดสีใหม่พิเศษเฉพาะรุ่น และสีขาว อาคทิคไวท์ สนนราคาจำหน่าย 671,000 บาท  และมีปริมาณจำกัดเพียง 500 คันเท่านั้น
ทั้ง นี้สำหรับลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์คันแรกนอกจากจะได้รับสิทธิ์ในการ คืนภาษีเต็มจำนวน 100,000 บาท สำหรับรถยนต์นั่งมาสด้า2 แล้วมาสด้ายังมอบสิทธิพิเศษเฉพาะเดือนตุลาคมนี้เท่านั้น ด้วยเงินดาวน์เพียง 25% ดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.35% ผ่อนนานสูงสุด 48 เดือน สำหรับรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ รับเงินคืนสูงสุด 96,000 บาท ดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.45% ผ่อนนานสูงสุด 48 เดือน
รถ ยนต์มาสด้าทุกรุ่นยังมอบประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี 1 ปี และรับประกันคุณภาพนาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และบริการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงนาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร 

http://www.roddb.com/images/banners/RodDB_88x31.gif

5 วิธีแต่งคอนโดฯ ขนาดเล็กให้ดูกว้าง

5 วิธีแต่ง คอนโดฯ ขนาดเล็กให้ดูกว้าง

http://www.lazicondo.com/images/main/default/gallery/pic08.jpg

มี 5 วิธี แต่ง คอนโด ดังนี้
1.ใช้ พื้นที่แนวตั้งให้เป็น ประโยชน์มากที่สุด เนื่องจากพื้นที่ห้องคับแคบอยู่แล้ว ดังนั้นการออกแบบจึงจะต้องใช้ความสูงของฝ้าให้เป็นประโยชน์มากที่สุด เช่น การทำตู้เก็บของให้สูงชนฝ้าเพดาน โดยเฉพาะตู้เสื้อผ้าซึ่งคุณต้องใช้ตู้เสื้อผ้าบิวท์อินมาแก้ปัญหานี้

2.ต้อง พยายามออกแบบให้เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ชุดโซฟาสามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงนอนได้ โต๊ะกลางสามารถปรับขึ้นมาเป็นโต๊ะเขียนหนังสือหรือโต๊ะทานข้าวได้ เพราะส่วนใหญ่ห้องขนาดเท่านี้คงมีสมาชิกไม่เกิน 2 ท่าน

3. ขนาด ของเฟอร์นิเจอร์จะต้องไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป โดยเฉพาะชุดนั่งเล่นต้องไม่ใหญ่และมากชิ้นเกิน บางท่านต้องการใช้ชุดเข้ามุมต้องระวังให้ดี ทำการบ้านกับพื้นที่ห้องให้ลงตัวก่อนค่อยออกไปเลือกซื้อนะครับ

4.การ ตกแต่งห้องเล็กๆ สิ่งที่สามารถช่วยทำให้ห้องดูโปร่งและกว้างขึ้น ก็คือการใช้กระจกเงามาช่วยตกแต่งผนังบางด้านให้ห้องดูกว้างขึ้น แต่ห้ามกรุกระจกเงาหันหน้าชนกันโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดภาพซ้อนวุ่นวายไปหมด และที่สำคัญควรใช้สีภายในห้องโทนอ่อนๆ สบายๆ และห้ามมีบัวฝ้าเพดานด้วย เพราะห้องที่แคบอยู่แล้วการแบ่งขอบเขตฝ้าเพดานและผนังยิ่งทำให้ห้องดูแคบ ขึ้น

5.สีสันของเฟอร์นิเจอร์ก็ไม่ควรเข้ม เกินไป ควรเน้นสีเข้มเป็นบางชิ้นและของตกแต่งบางชิ้นก็พอแล้ว ผนังสี่ด้านอาจเน้นสักหนึ่งด้านให้สีเข้มหน่อยก็พอ เช่น ผนังด้านหัวเตียงนอนก็ได้

สำหรับประเด็นเรื่องการแบ่งพื้นที่ใช้สอยนั้น พื้นที่ขนาด 35 ตร.ม.คุณ สามารถแบ่งการใช้งานได้เป็นสองส่วน คือให้ส่วนนั่งเล่น รับแขก ทำงานและทานข้าวอยู่ด้วยกัน และให้ส่วนที่นอน แต่งตัวและตู้เก็บเสื้อผ้าอยู่รวมกัน โดยคุณสามารถใช้ตู้โชว์วางทีวีเป็นตัวแบ่งสัดส่วน โดยออกแบบให้จุดวางทีวีสามารถหมุนไปทางเตียงนอนได้ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถใช้ฟังก์ชั่นแต่ละส่วนได้อย่างคุ้มค่าจริงๆ


By http://www.cmc.co.th/files/picture/activity/thumb/activity-thumb-1-1341473491.jpg

วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เชพโรเลตโซนิคสองสไตล์อารมณ์เดียวกัน

หลัง จากครั้งก่อนที่ได้ทดลองขับแบบหอมปากหอมคอแต่ยังไม่อิ่มในอารมณ์ กับ “เชฟโรเลต โซนิค รุ่นเกียร์อัตโนมัติ(เอที) 4 ประตู” ไปแล้วนั้นวันนี้ขอพาผู้อ่านทุกท่านไปสัมผัสอีกครั้งแบบเต็มๆ กับ รถใหม่ “เชฟโรเลต โซนิค เกียร์ธรรมดารุ่น 4 ประตู” หรือที่เรียกว่า 1.4 MT LT ซึ่งเป็น รถใหม่รุ่นท็อปสุดในรุ่นเกียร์ธรรมดา และน้องใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวมากับ “เชฟโรเลต โซนิค รุ่น แฮทช์แบ็ก 5 ประตู” กันไปเลยในครั้งเดียว



งาน นี้หน้าตารูปลักษณ์ของเจ้า “โซนิค” นี้ ยอมรับว่าแปลกแหวกแนวทีเดียว เพราะกล้าที่จะฉีกกรอบความคิดแบบเดิมๆ ในรถยนต์ประเภทซับคอมแพกต์ ที่ถ้าได้มีโอกาสดูโฆษณาที่ดึงพรีเซ็นเตอร์ อย่าง จอห์น-วิญญู วงศ์สุรวัฒน์ นักแสดงและนักจัดรายการโทรทัศน์ออนไลน์ชื่อดัง พร้อมด้วย ยิปโซ-รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์ นักแสดงและนางแบบรุ่นใหม่ แค่นั้นก็บอกได้แล้วว่าไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

ทั้ง ภายในภายนอกที่สุดแปลกแหวกแนว อย่างเช่น ไฟหน้าแบบเปลือยที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถมอเตอร์ไบค์สมรรถนะสูง ซึ่งทำให้ด้านหน้ารถดูมีมิติมากขึ้น ทั้งยังเพิ่มความหรูหราด้วยตัวเรือนไฟสีดำขลับ ซึ่งอยู่คู่กับกระจังหน้าแบบสองช่องพร้อม์โบว์ไทสีทองเคลือบอะครีลิก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเชฟโรเลต ยิ่งดูเหมือนหุ่นยนต์ทรานซ์ฟอร์เมอร์ ไม่น้อย

ยิ่ง เปิดประตูเข้ามาภายในยิ่งสุดแปลกตาไปกับดีไซน์ทั้ง 2 รุ่น กับห้องโดยสารสไตล์ ดูอัล ค็อกพิท ซึ่งแยกส่วนกันชัดเจนระหว่างคนขับและคนนั่งข้างอันเป็นเอกลักษณ์ของเชฟโรเลต พร้อมกับจุดเด่นภายในที่เรียกได้ว่า “ล้ำ” สุดๆ สำหรับหน้าปัดแสดงสถานะรถทั้งแบบดิจิตอลและอนาล็อกสไตล์มอเตอร์สปอร์ต แปลกตาดี

และ แน่นอนล่ะความแตกต่างของเจ้าโซนิค รุ่นแฮทช์แบ็ก กับรุ่นซีดาน ต่างกันที่ประตู แล้วถามว่าต่างกันที่ประตูอย่างไร...? ก็ต่างกันที่รุ่นแฮทช์แบ็ก มี 5 ประตู ส่วนรุ่นซีดาน มี 4 ประตู ไงล่ะครับ (ฮา) แต่ความที่เป็น แฮทช์แบ็ก 5 ประตูแล้วนั้น ย่อมมีความอเนกประสงค์หลากหลายอยู่แล้ว




ซึ่ง งานนี้เชฟโรเลตเน้นย้ำเลยว่า ออกแบบมาเอาใจสาวๆ กันมากกว่าหนุ่มๆ ที่สัดส่วน 60 : 40 และอีกความโดดเด่นของภายนอกของเจ้าตัว 5 ประตู ที่สุดแปลกแหวกแนวกว่าทุกรุ่นในตลาดคือ ที่เปิดประตูหลัง 2 บานครับ เพราะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งปกติที่ใต้กระจก แต่กลับไปอยู่ระดับเดียวกับกระจกประตูหลังดูเท่ไปอีกแบบครับ

ความ กว้างขวางภายในห้องโดยสารถือได้ว่ากว้างใหญ่ใช้ได้ ทัศนวิสัยในการขับชัดเจนสดใจมาก แต่ี่กระจกมองข้างที่ออกแบบตามหลักพลศาสตร์พร้อมกับดีไซน์ เลยอาจจะทำให้มุมมองกระจกข้างลดประสิทธิภาพในการมองเห็นลงไปบางส่วน สำหรับตำแหน่งการวางอุปกรณ์หรือปุ่มกดต่างๆ ถือได้ว่าสะดวกทุกการใช้งาน

อ้อ เกือบลืม ที่ชอบเป็นพิเศษส่วนตัวอีกอย่างภายในของเจ้า “เชฟโรเลต โซนิค” ทั้ง 2 รุ่นคือ ช่องเก็บของเก็บอุปกรณ์จุกจิก เช่น กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์ กุญแจ หรืออะไรก็ตามที่ติดมือมาเล็กๆ น้อยๆ ก่อนขึ้นรถ เจ้าโซนิคคันนี้มีช่องเก็บของเหล่านี้ที่คอนโซลหน้าไว้รองรับ เพียบ!

ส่วน พื้นที่เก็บของในฝากระโปรงหลังใหญ่อลังการเกินตัว ถ้าประมาณสิ่งของที่ใส่ก็น่าจะประมาณว่าถุงกอล์ฟ 2 ใบสบายๆ พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้อีก 2 ใบ และอาจจะเหลือพื้นที่ไว้ใส่ของฝากตอนขากลับได้อีก (รุ่น 4 ประตู)

ส่วน ด้านหลังของเจ้าตัว 5 ประตูกันบ้าง เพราะเวลาเปิด แฮทช์ หรือ ประตูที่5 ออกมาก็พบกับพื้นที่เก็บของค่อนข้างเยอะ รวมถึงเมื่อปรับเบาะหลังพับได้แบบ 60 : 40 แล้วนั้น ยิ่งเพิ่มพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ได้อีกเพียบ แถมยังเอาใจสาวๆ ด้วยการทำช่องวางรองเท้าใต้ช่องเก็บของด้านหลังเพียงยกขึ้นแล้วก็ใส่ลงไป เท่านี้รถก็จะไม่รกอีกต่อไป





มา ถึงเครื่องยนต์และสมรรถนะของเจ้า “เชฟโรเลต โซนิค” กันบ้าง ซึ่งมาพร้อมด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.4 ลิตร DOHC (Double Overhead Camshaft) 100 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 130 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที เติมน้ำมันอี 20 ได้ พร้อมระบบ Double CVC (Continuously-Variable Cam-phasing) ซึ่งทำงานควบคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด (ในรุ่น 4 ประตู) ส่วนในรุ่น 5 ประตูจะเป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

ซึ่ง จากการลองขับโซนิค 5 ประตู อัตราเร่งขณะออกตัวในช่วงเกียร์ 1–2 ของเจ้า “เชฟโรเลต โซนิค” คันนี้ ช่วงลากรอบขณะออกตัวยังให้ความรู้สึกที่ไม่ค่อยปรู๊ดปร๊าดทันใจเท่าไรนัก อาจจะหน่วงๆ เสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อช่วงความเร็วไหลขึ้นไปโดยใช้เกียร์ 3–5 นั้น ถือได้ว่าตอบสนองดีกว่าช่วงออกตัว ซึ่งอาจจะพอเข้าใจได้ว่า รถสไตล์ยุโรปจะตั้งคันเร่งลึกกว่ารถญี่ปุ่นทั่วไป (ต้องกดหนักๆ) ถึงจะตอบสนอง

แต่ พอลองในช่วงย่านความเร็วที่ต้องเร่งแซง กลับต้องแปลกใจว่า เมื่อลดจากเกียร์ 5 ลงมา 4 หรือ จาก 4 ลงมา 3 ก็ยังไม่ตอบสนองแบบฉับพลันเมื่อต้องการเร่งแซง ดังนั้นต้องทำความคุ้นเคยกันกับรถในจุดนี้สักนิด

เช่น เดียวกันกับตัว 5 ประตู ที่เป็นเกียร์อัตโนมัติ อัตราเร่งแซงจะต้องรู้ใจกับรถสักหน่อย เพราะจะมีจังหวะหยุดคิดของเกียร์ก่อนออกตัวเร่งแซงไป ซึ่งหากมีการปรับแต่งเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยน่าจะลงตัวยิ่งขึ้น แต่ก็ถือว่าสนุกพอสมควรกับการขับแบบเรื่อยๆ

แต่ ที่ต้องชื่นชมในสมรรถนะของ “เชฟโรเลต โซนิค” คือ ระบบช่วงล่างที่วิศวกร จีเอ็ม ออกแบบให้โซนิค มีคุณลักษณะการขับขี่สไตล์ยุโรป ซึ่งผสมผสานความนุ่มนวลเข้ากับความคล่องตัวและเสถียรภาพของตัวรถในทุก สถานการณ์การขับขี่ ที่ต้องขอปรบมือให้ว่าทำได้ดีจริงๆ ที่ให้ความรู้สึกมั่นใจในทุกย่านความเร็ว “นิ่ง–นุ่ม–หนึบ” เจ๋งดีๆ

สนนราคา ค่าตัวของ “เชฟโรเลต โซนิค รุ่นเกียร์ ธรรมดา (เอ็มที) 4 ประตู” คันนี้อยู่ที่ 5.88 แสนบาท และสำหรับ 5 ประตูราคาอยู่ที่ 6.01 - 6.87 แสนบาท
ที่สำคัญและขอเน้นย้ำตัวโตๆ เลยว่าได้รับสิทธิคืนภาษีในโครงการรถยนต์คันแรก 1 แสนบาทของรัฐบาล เต็มจำนวน 1 แสนบาท!!

















http://www.roddb.com/images/banners/RodDB_88x31.gif