วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ลองความประหยัด HONDA CIVIC HYBRID (Part2)



ทดสอบยนตรกรรมซีดานประหยัดพลังงานยอดนิยม Honda Civic Hybrid เครื่องยนต์พลังงานผสมแบบเบนซินบวกมอเตอร์ไฟฟ้า
ตอนที่ 2 กับการขับทดสอบทั้งในเมืองและทางไกลรวม 540 กิโลเมตร...

การ อาศัย อยู่ใน Honda Civic Hybrid ตลอดระยะเวลา 7 วันทำให้เกิดความสุข เมื่อคุณสามารถค้นพบด้วยตัวเองว่ามันเป็นรถที่ประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีคัน หนึ่งของวงการ นี่คือผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ Hybrid ต่อยอดรถอย่าง Jazz Hybrid และ CRZ Sport Hybrid ที่ทำยอดขายได้ไม่เลวในประเทศไทย มอเตอร์ไฟฟ้าเสริมแรงในเกียร์ CVT และระบบ ECON ที่โน้มน้าวให้ผู้ขับคำนึงถึงการใช้เชื้อเพลิงอย่างประหยัดช่วยทำให้เงินใน กระเป๋าของคุณเหลือพอที่จะเอาไปทำอย่างอื่นแทนที่จะหมดไปกับการเข้า-ออกปั๊ม น้ำมัน ความสุขที่เกิดขึ้นจากตัวรถคันนี้ยังรวมถึงสภาพของการขับขี่ที่ดี สะดวกสบายจากการออกแบบและการจัดวางกลไกต่างๆ ของการใช้งาน แม้จะมีตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเป็นรอง Toyota Prius แต่บางสิ่งบางอย่างใน Civic Hybrid กลับทำได้น่าประทับใจเมื่อได้ลองขับ สัมผัสแบบสปอร์ตซีดานที่ปราดเปรียว แต่แสดงออกถึงความใส่ใจต่อพลังงานในรูปของเชื้อเพลิงที่นับวันจะมีราคาถีบ ตัวสูงขึ้นไปเรื่อยๆแบบไม่มีที่สิ้นสุด รูปแบบที่คล้ายกับรุ่นมาตรฐานทั้งการควบคุมและอุปกรณ์ ระบบขับเคลื่อนแบบผสมของมันทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจ


Hybrid IMA ของ Honda ใช้การทำงานแบบคู่ขนานต่อเนื่อง หรือที่เรียกกันว่าแบบ Parallel Hybrid ซึ่งระบบจะผสานการทำงานของทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าไปพร้อมๆ กัน เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รับหน้าที่หลักในการขับเคลื่อนตัวรถ มอเตอร์เสริมแรงที่วางไว้ภายในเกียร์ CVT คอยเสริมแรงบิดและเข้ามารับหน้าที่สั้นๆ ในย่านความเร็วต่ำ เนื่องจาก Parallel Hybrid เป็นระบบที่ไม่มีความสลับซับซ้อนมากนัก จึงทำให้ทั้งเครื่องยนต์ เกียร์ และแบตเตอรี่มีขนาดที่กะทัดรัดและมีน้ำหนักเบา ความเบาของระบบขับเคลื่อนใน Civic ช่วยเสริมให้มันมีสมรรถนะที่ดีและมีความประหยัดอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้เลยทีเดียว


รูปแบบการทำงานของระบบ Hybrid IMA ใน Honda Civic Hybrid คันทดสอบ



1-ใน ช่วงออกตัว เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 1.5 ลิตร จะเข้ามารับหน้าที่ในการขับเคลื่อนตัวรถ และมีการเสริมแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อประสิทธิภาพในการออกตัวเนื่องจากใช้ เครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับขนาดของตัวถัง ในจุดนี้ เมื่อลองขับขี่ในเมืองที่ต้องจอดๆ วิ่งๆ ไปตลอดทาง ความคล่องแคล่วของพลังจากการประสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟ ฟ้าทำใด้เหมือนรุ่น 1.8 ลิตร เพียงแต่ Civic 1.8 รุ่นที่ไม่มีระบบ Hybrid นั้น มีอัตราสิ้นเปลืองมากกว่าเห็นๆ กดคันเร่งเร็วๆ รถจะพุ่งออกไปโดยไม่มีคำว่าชักช้า แม้คุณจะคาอยู่ที่โหมด ECON แต่ทุกครั้งที่ต้องการกำลัง เพียงแค่กดคันเร่งลงไปให้สุด การออกตัวอย่างรวดเร็วที่เกิดขึ้นนั้นจะช่วยให้คุณขับใช้ในเมืองได้อย่าง สะดวกสบาย


2-เมื่อ ขับขี่ด้วยความเร็วต่ำแบบคงที่ บางจังหวะเครื่องยนต์จะหยุดการทำงาน โดยมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามารับหน้าที่การขับเคลื่อนต่อจากเครื่องยนต์เป็นเวลา สั้นๆ เนื่องจากแบตเตอรี่ของ Civic Hybrid ไม่ได้มีขนาดใหญ่โตอะไรนัก การเข้ามาเสริมแรงนั้นเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ โดยคอมพิวเตอร์ควบคุมของระบบ Hybrid IMA จะทำการสั่งงานเองแบบต่อเนื่อง ส่วนใหญ่ มอเตอร์จะรับหน้าที่คอยเสริมแรงบิดให้กับ Civic Hybrid และสามารถขับเคลื่อนตัวรถเพียงแค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้น


3-เมื่อ ต้องการเร่งความเร็วเพื่อแซงรถช้า มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำงานควบคู่ไปกับเครื่องยนต์ทันที แม้จะมีกำลังไฟในแบตเตอรี่ไม่มาก ระบบจะสั่งให้มอเตอร์เข้ามาช่วยเสริมแรงอย่างฉับพลันเมื่อได้รับสัญญาณจาก ลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้าหรือคันเร่งแบบ Drive By Wire ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเร่งความเร็ว ผมลองจับรอบสูงสุดของเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร SOHC iVTEC มันลากขึ้นไปได้แค่ 5,500 รอบ และสุดแค่นั้นโดยความเร็วของตัวรถจะค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นการเร่งในลักษณะต่อเนื่องจากระบบส่งกำลังแบบ CVT


4-ทุก ครั้งที่ทำการเบรก ระบบ Hybrid IMA จะนำเอาพลังงานที่สูญสียไปขณะที่เบรกแปรเปลี่ยนมาเป็นพลังงานไฟฟ้า แล้วประจุเข้าไปที่แบตเตอรี่หลังเบาะผู้โดยสารตอนหลังซึ่งมีขนาดที่บางและ กะทัดรัด เพื่อเก็บสำรองพลังงานไฟฟ้าไปหมุนเวียนใช้งานสำหรับมอเตอร์เสริมแรง


5-เมื่อ จอดติดสัญญาณไฟจราจร หรือเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกจนรถหยุด เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าเสริมแรงจะหยุดการทำงานทันทีแบบอัตโนมัติ ระบบ Hybrid IMA จะเข้าสู่โหมด Idling Stop เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิง ขณะที่ระบบนี้ทำงาน มลพิษที่เกิดจากเครื่องยนต์ของ Civic Hybrid จะเท่ากับศูนย์ทันที ระบบปรับอากาศดิจิตอลและระบบให้ความบันเทิงหรือจอภาพ รวมถึงระบบไฟส่องสว่างทั้งหมดของรถยังคงทำงานต่อไป


การ เร่งความเร็วบน Civic Hybrid ซึ่งใช้ชุดส่งกำลังแบบ CVT หรือระบบส่งกำลังแบบแปรผันต่อเนื่องซึ่งใช้สายพานคล้องอยู่ในพูเลย์ มันให้ความรู้สึกที่แบนเรียบราบปราศจากอาการกระตุก มันเนียนจนน่าเบื่อและออกมาในแบบสังเคราะห์มากจนเกินไป ระบบเกียร์แบบนี้มีความจำเป็นเนื่องจากต้องฝังมอเตอร์ไฟฟ้าไว้ภายใน ขนาดที่เล็กและเบาของเกียร์ CVT ยังเหมาะกับรูปแบบของรถขับเคลื่อนล้อหน้าอย่างเจ้า Civic Hybrid คันนี้ เกียร์ที่ทำงานได้ราบเรียบของมันยังเข้ากับการใช้งานภายในเมือง เมื่อบางจังหวะมันจะมีมอเตอร์เข้ามาช่วยในการเรียกแรงบิด สัมผัสและความรู้สึกจึงเหมือนกับการได้ขับ Civic รุ่น 1.8 ลิตร เพียงแต่มันกินน้ำมันน้อยกว่ากันพอสมควร ความเงียบขณะที่จอดเมื่อเครื่องยนต์หยุดทำงานและการไม่ปล่อยมลภาวะในขณะนั้น เป็นเรื่องที่ดี การติดเครื่องยนต์เกิดขึ้นทันทีที่คุณถอนเท้าออกจากแป้นเบรก เครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กทำให้ขณะที่กลับมาทำงานอีกครั้งมีความนิ่มนวล เมื่อติดตัวเองขึ้นอีกครั้งมันจะไม่มีอาการสะบัดเหมือนกับระบบ Auto Stop/Start ของ BMW ซึ่งทำให้สะดุ้งทุกครั้งที่ติดเครื่องยนต์ จากการยกเท้าออกจากแป้นเบรกเพื่อทำให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า


เดือน กรกฎาคมเป็นเดือนแห่งพายุฝนอย่างแท้จริง ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนในประเทศนี้ก็สามารถเปียกปอนได้ทุกเวลา ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้วพาด ผ่านทั่วทุกพื้นที่ของไทยทำให้การขับทดสอบรถยนต์มีความยากลำบากเพิ่มมากขึ้น การบันทึกภาพรถทดสอบ Civic Hybrid แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยหากวันนั้นมีฝนโปรยปรายลงมาทั้งวัน โดยเฉพาะเส้นทางในแถบจังหวัดระยองที่ขึ้นชื่อลือชาว่ามีฝนตกชุกมากกว่า พื้นที่อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นจันทบุรีหรือตราดต่างก็พบกับสภาวะน้ำท่วมขังจากปริมาณฝนที่ตก กระหน่ำทั้งวันทั้งคืน เมื่อฝนตก การลดความเร็วและเพิ่มความระมัดระวังโดยยืดระยะห่างจากรถคันข้างหน้าให้ เพิ่มมากขึ้นจะช่วยทำให้คุณมีความปลอดภัย ฝนที่ตกหนักยังส่งผลกระทบต่อสภาพทางบางช่วงจากน้ำที่ขังอยู่บนผิวทาง รวมถึงรถบรรทุกดินที่ชอบทำดินหล่นตามถนนซึ่งช่วยให้ลื่นขึ้นไปอีกจนอาจทำให้ คุณตกข้างทางได้หากไม่ระวังให้ดี สำหรับเส้นทางจากอำเภอบ้านบึงในจังหวัดชลบุรีมุ่งหน้าไปยังอำเภอแกลงใน จังหวัดระยองนั้นเป็นทางลาดยางสี่เลนที่ค่อนข้างกว้าง เมื่อเกิดพายุฝนพัดกระหน่ำอย่างหนักจึงทำให้ผิวทางบางช่วงบางตอนไม่อยู่ใน สภาวะที่จะใช้ความเร็วตามปกติ แต่ไม่ใช่ปัญหาของ Honda Civic Hybrid ผมเปิดที่ปัดน้ำฝนในตำแหน่งเร็วสุด แล้วลดความเร็วโดยวิ่งตามรถคันข้างหน้าห่างๆ เพื่อไม่ให้ละอองน้ำจากรถคันข้างหน้ามาบดบังทัศนวิสัยที่แย่อยู่แล้วให้แย่ ลงไปอีก


Honda Automobile นำรถทดสอบทุกคันไปทำการติดฟิล์มกันแดดด้วยความหวังดีกลัวว่าสื่อมวลชนจะร้อน ไม่ว่าจะเป็น Accord / City / Civic / Freed / CRV / CRZ พวกมันทุกๆ คันล้วนแล้วแต่ถูกติดฟิล์มกรองแสงที่มีความเข้มถึง 60% และสร้างปัญหาให้กับมุมมองรอบคันทันทีที่วิ่งผ่านสภาพอากาศที่เลวร้าย ผมมักลดกระจกไฟฟ้าลงจนสุดเมื่อต้องขับทดสอบรถยนต์ของค่ายนี้ในช่วงโพล้เพล้ ก่อนค่ำ สภาพแสงที่น้อยลงในช่วงก่อนมืดบวกกับฟิล์มสีดำที่เข้มมากทำให้ทัศนวิสัยการ มองย่ำแย่เต็มทน และมันจะยิ่งแย่เข้าไปอีกเมื่อต้องวิ่งฝ่าพายุฝนในช่วงก่อนค่ำซึ่ีงผมไม่ สามารถลดกระจกลงได้ ฝนประจำต้นฤดูกาลที่ตกอย่างหนักหน่วง สุดท้ายการจอดพักเพื่อรอให้พายุฝนพัดผ่านไปคือเรื่องที่ดีและคุ้มมากกว่าที่ จะเสี่ยงขับต่อไปจนตกข้างทาง


ระบบ รองรับที่มีความสอดคล้องกับระบบขับเคลื่อนแบบ Hybrid IMA มีการปรับกันสะเทือนให้แข็งขึ้นเล็กน้อย สัมผัสที่เบาสบายมือของพวงมาลัยไฟฟ้าเหมือนกันกับรุ่นมาตรฐาน มันให้ความรู้สึกที่ดีเมื่อขับที่ความเร็วต่ำ สำหรับในย่านความเร็วปานกลางถึงสูงระบบบังคับเลี้ยวใน Civic ก็ยังให้ความมั่นใจ ค่าความหนืดของโช้คอัพทั้งสี่ตัวช่วยให้มันวิ่งได้มั่นคงขึ้น รอบเครื่องยนต์ที่ถูกผมลากจนสุดไปคาอยู่ที่ 5,500 รอบ มันสุดอยู่แค่นั้นโดยความเร็วของตัวรถค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามกลไกของ เกียร์แบบ CVT ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่ภายใน แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนน้ำหนักเบากับระบบ Hybrid IMA ไม่สร้างภารกรรมให้กับชุดขับเคลื่อนมากนัก แบตฯรุ่นล่าสุดที่ให้กำลังไฟได้ดีกว่าแบตเตอรี่แบบเก่าช่วยเสริมสมรรถนะของ ระบบขับเคลื่อนซึ่งบางครั้งมีมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาผสมโรงด้วย ชุดส่งกำลัง CVT ก็ยังมีการปรับชิ้นส่วนภายในเพื่อลดแรงเสียดทานให้เหลือน้อยที่สุด แม้มันจะเร่งได้ไม่เร็วเท่ารุ่น 2.0 ลิตร แต่อัตราสิ้นเปลืองเชื้่อเพลิงที่ทำได้ 14.7 กิโลเมตรต่อลิตร แม้จะเร่งรอบคาไว้ยาวๆ มันก็ยังคงกินเชื้อเพลิงไม่มากนัก เหมาะสมกับสภาวการณ์ในปัจจุบันที่ราคาน้ำมันขยับขึ้นเป็นว่าเล่นเกือบทุก อาทิตย์


เครื่อง ยนต์ 1.5 ลิตร แบบแคมแท่งเดี่ยวมีนิสัยสุภาพเรียบร้อยและทำงานด้วยความเงียบเชียบ กำลังของเครื่องยนต์เมื่อไม่รวมกับมอเตอร์ไฟฟ้ามีเรี่ยวแรงแค่พอได้อาศัย แต่ก็ไม่ได้อืดอาดชักช้าจนน่ารำคาญ แรงบิดสูงสุด 132 นิวตันเมตร มาในรอบกลางๆ ที่ 2,800 รอบต่อนาที พอกดไปถึง 5,500 รอบต่อนาที มันไปสุดอยู่แค่นั้นตามนิสัยของเกียร์ CVT ที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเน้นการส่งกำลังในรอบสูงๆ โดยทั่วไปแล้วรถยนต์ Hybrid ทั่วๆไป มีการขับขี่ที่เน้นความประหยัดมากกว่าจะมุ่งไปที่พลังแรงบิด คุณสามารถใช้งานมันได้ทั้งในและนอกเมืองนการขับแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ ซึ่งแถมพก ด้วยอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่มีตัวเลขต่ำกว่าเครื่องยนต์แบบปกติ มอเตอร์ไฟฟ้าเสริมแรงนั้นมีประสิทธิภาพพอสมควรแก่ระดับของราคาค่าตัว กำลัง 23 แรงม้ากับแรงบิด 106 นิวตันเมตร เมื่อรวมกับแรงบิดของเครื่องยนต์ในช่วงที่มันทำงานไปพร้อมๆ กันทำให้เจ้า Civic Hybrid เป็นยนตรกรรมพลังงานผสมที่คล่องแคล่วคันหนึ่งของวงการ แม้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจะเป็นรอง Toyota Prius อยู่บ้าง ทั้งจากขนาดของเครื่องยนต์และเทคโนโลยีของระบบ Hybrid ซึ่งเป็นแบบ Parallel Hybrid เหมือนกันทั้งคู่ แต่ราคาขายก็ยังถูกกว่ารถ Hybrid ของค่ายสามห่วงอยู่หลายแสนบาท ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของคุณเองว่าจะเลือกเอาคันไหน


ยนต รก รรมสีเขียวที่ค่ายตัวเอชพัฒนาขึ้นมาสำหรับคนเมืองนั้น สามารถลดการปล่อย CO2 ลงได้อย่างน่าพอใจ พวกมันทุกคันทำให้อากาศของโลกสะอาดขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความทันสมัยเหมาะสมกับราคาเชื้อเพลิงในปัจจุบัน มันขับขี่ได้ดีสมราคาค่าตัวล้านนิดๆ ในรุ่นสูงสุดซึ่งมีอุปกรณ์มาให้เพียบ โดยเฉพาะการรับประกันระบบ Hybrid ซึ่งมีทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า อุปกรณ์ควบคุมการชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่ สายไฟของระบบ Hybrid เป็นระยะเวลาถึง 5 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง รวมถึงมีการเคลมรับประกันอายุการทำงานของแบตฯแบบลิเธียมไอออนอีก 10 ปี ครอบคลุมไปถึงรถสปอร์ตตัวเล็กอย่าง CRZ และรถแฮตช์แบคครอบครัว Jazz Hybrid การจะเลือกซื้อรถยนต์นั้นขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและการได้ไปทดลองขับด้วย ตัวของคุณเอง รถ Civic นับเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมยานยนต์ประหยัดพลังงานที่กำลังได้รับความนิยม แม้จะยังไม่มากเท่าที่ควรแต่มันก็มีความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในขณะนี้อย่าง ที่สุดแล้ว.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail @thairath.co.th">chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom

ขับสนุก! BMW320i Luxury Line

สัปดาห์ นี้ขอพาผู้อ่านทุกท่านร่วม สัมผัสกับรถยนต์ตราใบพัดสีฟ้า (บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย) ในรุ่นยอดฮิตติดชาร์ตอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ซึ่งวันนี้ได้ทำการลองขับแบบลงรายละเอียดในรุ่น “BMW 320i Luxury Line” ซึ่งเป็น 1 ใน 3 รุ่นที่ได้มีการเปิดตัวพร้อมกันไปไม่นานมานี้แบบรวดเดียว 3 ไลน์ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ BMW 320i Sport BMW 320i Modern และรุ่นที่เรากำลังจะรายงานผลให้ทราบวันนี้
เริ่ม ต้นต้องบอกตรงๆ เลยว่า เมื่อแรกพบสบตากับเจ้า “BMW 320i Luxury Line” คันนี้ แม้จะยังไม่ได้ทันใช้มือสัมผัสกับมือจับประตูเลย ... แต่ทำไมดูมีความรู้สึกบางอย่างในอารมณ์ที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตด้วยรูปลักษณ์ เส้นสายรายละเอียดภายนอก ตลอดจนการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ตั้งแต่หัวจรดท้ายตามสไตล์บีเอ็มดับเบิลยู ทำให้ตั้งแต่แรกเห็นก็ได้คะแนนความรู้สึกแบบ “เฟิสต์ อิมเพรสชั่น” ไปแล้วเต็มๆ
ยิ่ง เมื่อเปิดประตูเข้ามาสัมผัสกับ การดีไซน์ของภายใน ก็จะได้อีกอารมณ์ความรู้สึกหนึ่ง เพราะด้วยชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า “Luxury” แต่เป็นความ “Luxury” ที่ผสมอารมณ์ความเป็น “สปอร์ต” ด้วยการผสมผสานของเบาะหนังโทนสีน้ำตาลส้ม ตัดกับคอนโซล-แผงประตูด้านข้างสีดำ เติมเต็มด้วยลายไม้และโครเมี่ยม พร้อมตำแหน่งการจัดวางอุปกรณ์อำนวยความสะดวก อาทิ จอแสดงผล iDrive แบบ Free Standing ขนาด 8.8 นิ้ว ที่สามารถแสดงข้อมูลรถพร้อมระบบนำทาง
ไม่ เท่านั้น ยังสามารถเชื่อมต่อระบบความบันเทิงผ่านบลูทูธ USB รวมถึงการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ พร้อมกันนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับโลกอินเทอร์เน็ต อาทิ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอีเมล ผ่านระบบ “BMW ConnectedDrive” ได้อีกด้วย ซึ่งอุปกรณ์ต่างๆ สามารถควบคุมได้บนปุ่มเดียว
ยังไม่ หมดสิ่งอำนวยความสะดวก ยังมีอีกมากหลาย ยกตัวอย่างอีกสักนิด เช่น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติปรับแยกฝั่งได้  และเซ็นเซอร์อัจฉริยะรอบคันแสดงผลที่จอ ระบบ Auto Start/Stop
ส่วน ขุมพลังเครื่องยนต์ของ “BMW 320i Luxury Line” คันนี้เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร พร้อม ทวินเพาเวอร์ เทอร์โบ ให้พละกำลังสูงสุดที่ 184 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,750 รอบต่อนาที และความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 230 กม./ชม. ขณะที่อัตราเร่งจาก 0-100 ใช้เวลาเพียง 7.4 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ “BMW” เคลมไว้อยู่ที่ 16.9 กม./ลิตร

ซึ่งทำ งานร่วมกับระบบส่งกำลัง (เกียร์) อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมปรับเพิ่ม-ลดเกียร์ได้ด้วยระบบ M/S ให้สามารถสั่งได้ดั่งใจ ขณะที่รูปแบบการขับขี่มีให้เลือกโหมดในการปรับใช้งานขับขี่ได้ 3 แบบ คือ Sport Comfort และ Eco Pro ซึ่งให้การตอบสนองของเครื่องยนต์และการขับขี่ที่แตกต่างกันในแต่ละโหมด
ที่ สำคัญ ระบบเทคโนโลยีความปลอดภัยก็อัดแน่นไปด้วยมาตรฐานความปลอดภัยตัวย่อภาษา อังกฤษ ได้แก่ ระบบการควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP) ระบบช่วยเบรก (BA) ระบบกระจายแรงเบรกอัตโนมัติ (EBD) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (DTC) และอื่นๆ อีกเพียบ
สำหรับ ทัศนวิสัยและอารมณ์ความรู้สึก หลังพวงมาลัยขณะขับขี่ให้วิสัยทัศน์ ที่ดีในการมองเห็น แต่ความรู้สึกสำหรับเบาะที่นั่งให้ความรู้สึกเมื่อยไปหน่อย นั่งไม่สบายเมื่อขับระยะทางไกล จากความแข็งของเบาะที่มากไปสักนิด ส่วนอื่นๆ ภายในประทับใจ
ขณะที่ สมรรถนะด้านการขับขี่ของ “BMW 320i Luxury Line” ตัวนี้บอกเลยว่าให้อารมณ์ความสนุกสนานในทุกช่วงความเร็ว พร้อมโหมดต่างๆ ปรับเลือกตามใจชอบ โหมดสนุกหมุนไป “Sport” โหมดสบายหมุนไป “Comfort” โหมดประหยัดหมุนไป “Eco Pro” แต่ส่วนตัวชอบโหมด Sport ที่สุด เพราะเมื่อกดคันเร่งเรียกกำลังมาได้อย่างถึงอกถึงใจ พร้อมช่วงล่างและพวงมาลัยที่หนักแน่นและคม เหมือนขับขี่ในวิดีโอเกม
ส่วน โหมดอื่นๆ ให้ความนุ่มนวลนั่งสบาย ชิลๆ แต่ก็ซ่อนเขี้ยวเล็บไว้เวลาเรียกกำลังขณะแซงออกมาได้ไม่แพ้กัน ซึ่งในทุกโหมดจับสังเกตได้อย่างหนึ่งคือรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำมากขณะขับขี่ นั้น หมายถึงอัตราการประหยัดที่ดีตามมา
ทั้ง หมดสามารถเติมเต็มอารมณ์ความสนุก และความสบายได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว กับ “BMW 320i Luxury Line” คันนี้ และใครที่กำลังมองหารถที่ให้อารมณ์ความหรูหราที่แฝงไปด้วยความเป็นสปอร์ต ที่สามารถตอบสนองทุกการใช้งานแล้วล่ะก็ ... ควรจัดอยู่ในลิสต์อันดับต้นๆ ของทางเลือกในการตัดสินใจอย่างยิ่ง ด้วยค่าตัว 2,679,000 บาท










โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์
www.posttoday.com

เสริมโชคด้านการเรียน ด้วยฮวงจุ้ยห้องพัก


ฮวง จุ้ย คือ ศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องของการตกแต่งบ้านให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ในปัจจุบันจึงมีคนนิยมเอาศาสตร์ฮวงจุ้ยมาช่วยเสริมในการตกแต่งบ้านให้ร่ม เย็นเป็นสุข ทั้งการอยู่อาศัยในบ้าน ที่ทำงาน รวมไปถึงนักเรียนกับนักศึกษาที่ต้องอาศัยอยู่ในหอพักด้วย หากการอ่านตำราเรียนยังไม่พอให้สบายใจในผลการเรียน ลองมาจัดแต่งฮวงจุ้ยหอพักใหม่ เพื่อเสริมโชคเรื่องการเรียนกันดูดีกว่า

 1. ขจัดความเครียดด้วยหนังสือ

          การนำหนังสือมาอ่านในห้องนอนเป็นเรื่องที่ดีอยู่ แต่ทั้งนี้ควรจะจัดที่วางให้เหมาะสมด้วย เนื่องจากมุมของหนังสือมีลักษณะแหลมคม ถ้านำมาวางไว้ด้านตรงข้ามกับเตียงนอนจะทำให้นอนหลับไม่สนิท ดังนั้นหากเป็นไปได้ควรจะจัดไว้ด้านข้างของเตียงจะดีกว่า นอกจากนี้แล้วยังรวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมุมแหลม อย่างเช่น โทรทัศน์ โน้ตบุ๊ค หรือคอมพิวเตอร์ ด้วย แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ หลังจากที่อ่านหรือใช้อุปกรณ์เหล่านั้นเสร็จแล้ว ให้นำผ้ามาคลุมปิดไว้ ก็จะช่วยให้นอนหลับได้เต็มอิ่มมากขึ้น

 2. ส่งเสริมความคิดด้วยสี

          การเรียนเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ต้องใช้ความคิดเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นคงจะดีกว่าหากได้พักผ่อนท่ามกลางสีสัน ซึ่งตามหลังฮวงจุ้ยนั้นแบ่งลักษณะของสีออกเป็น  2 แบบคือ โทนสีร้อน อันได้แก่ แดง เหลือง ส้ม สีเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ และทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกตื่นตัวอยู่เสมอ ส่วนโทนสีเย็น อย่าง เขียว น้ำเงิน ม่วง เหมาะสำหรับคนที่ชอบบรรยากาศผ่อนคลายสบาย ๆ ไม่วุ่นวายมากนัก แต่ถ้าหากใครที่ต้องการจะผสมผสานทั้งสองโทนก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยอาจจะเลือกใช้โทนสีอบอุ่นในส่วนของที่พัก และใช้โทนสีร้อนกับโต๊ะหนังสือก็ได้

 3. น้ำพุเทียมเสริมพลังชี่

          น้ำเป็นธาตุสำคัญสำหรับศาสตร์ฮวงจุ้ย เพราะจะช่วยให้พลังชี่หมุนเวียนได้ดีขึ้น เพราะฉะนั้นในห้องพักควรจะนำน้ำพุเทียมมาประดับเอาไว้ด้วย จะเป็นขนาดใหญ่ หรือขนาดเล็กก็ได้หากมีที่ว่างมากพอ แต่ถ้าไม่สามารถหาจุดวางได้ให้ใช้รูปปั้นเล็ก ๆ ที่มีน้ำหมุนเวียนอยู่ มาตั้งไว้แทน หรือจะเป็นตู้ปลาก็ได้ และเสียงของน้ำยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นด้วย

 4. ต้นไม้เพิ่มความสดชื่น

          ในวันที่เจอเรื่องแย่ ๆ มาไม่ว่าอะไรก็ดูไม่เป็นใจไปเสียหมดอย่าเพิ่งท้อแท้ หรือหมดกำลังใจไปก่อน ลองหาต้นไม้หรือดอกไม้มาประดับห้องดูบ้าง แล้วความรู้สึกไม่ดีเหล่านั้นก็จะค่อย ๆ จางหายไป อย่างเช่น ดอกไม้สีเหลือง เหมาะกับคนที่กำลังเจอปัญหาหนักอกหนักใจ ส่วนคนที่อยากจะไปให้ถึงฝันควรจะเสริมดวงด้วยดอกไม้สีขาว ส่วนสีเขียวของไม้ประดับต่าง ๆ ก็จะช่วยให้โชคดีในการเรียนมากขึ้น เป็นต้น

 5. กระจกช่วยกระตุ้นการเรียน

          การตกแต่งห้องด้วยกระจกนั้นไม่ได้ทำให้ดูกว้างขวางมากขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังทำให้ภายในห้องมีความสว่างมากขึ้นด้วย และนอกจากนี้หากนำกระจกไปประดับไว้ในหอพักของนักเรียนนักศึกษายังเป็นการ เสริมพลังชี่ให้หมุนเวียนมากขึ้นด้วย โดยสามารถนำกระจกไปประดับได้ทุกที่ ยกเว้นบริเวณด้านตรงข้ามปลายเตียงนอน เพราะจะทำให้ผิดหลักฮวงจุ้ยไปในด้านลบเสียมากกว่า

 6. โต๊ะเสริมการเรียน

          การจัดวางตำแหน่งของโต๊ะนั้นก็มีผลต่อการเรียนเช่นกัน ฉะนั้นจึงไม่ควรวางโต๊ะตามใจชอบเพียงอย่างเดียว แต่ควรจะพิจารณาถึงทิศทางของโต๊ะด้วย โดยตำแหน่งที่ถูกต้องนั้นควรจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก และให้ด้านหลังของพนักเก้าอี้หันเข้าหากำแพงจึงจะถือว่าเหมาะสม เพราะการจัดวางโต๊ะในลักษณะนี้จะช่วยให้อุปสรรคและปัญหาต่าง ๆ ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี มีความมั่นคงมากขึ้น ส่วนสิ่งของต่าง ๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะโดยเฉพาะหนังสือ ควรจัดไว้ด้านซ้าย จะช่วยพัฒนาความรู้ได้มากขึ้น

 7. เตียงนอนเพิ่มความสุข

          การจัดวางเตียงนอนควรอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง โดยไม่ควรวางเตียงนอนตรงกับประตู เนื่องจากทำให้พลังงานด้านลบจากภายนอกเข้ามาในห้องได้ และควรจัดหัวเตียงให้ชิดกับผนัง ส่วนเครื่องนอนต่าง ๆ ทั้งปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าคลุมเตียงควรจะเลือกชุดที่มีเนื้อผ้านุ่ม ไม่หนา หรือแข็งจนเกินไป จะส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยมีความสุขกับการเรียนมากขึ้น

 8. เป็นระเบียบเลี่ยงความวุ่นวาย

          หากสงสัยว่าทำไมการเรียนของตัวเองไม่ราบรื่นและมีความสุขเหมือนคนอื่น ๆ บ้าง คงถึงเวลาที่ต้องกลับมาจัดของในห้องให้เป็นระเบียบบ้างแล้ว เพราะหลักฮวงจุ้ยนั้นบอกว่า สิ่งของรก ๆ ภายในห้องก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจหากคนที่เก็บของเป็นที่เป็นทางจะเจอเรื่องแย่ ๆ น้อยกว่าคนที่วางของไม่เป็นระเบียบ และหากมีของที่ไม่ใช้แล้ว อย่างเช่น หนังสือ หรือเสื้อผ้า ก็ควรจะนำไปบริจาคบ้างจะช่วยให้รู้สึกมีความสุขมากขึ้น

 9. เพิ่มพลังด้วยแสงสว่าง

          แสงสว่างเป็นอีกเรื่องหนึ่งสำคัญที่ควรใส่ใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในวัยที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์และพลังในการเรียน ดังนั้นควรเปิดหน้าต่างให้แสงจากภายนอกส่องผ่านเข้ามาอยู่เสมอ แต่ในกรณีที่เป็นห้องอับไม่มีหน้าต่าง หรือมีแสงสว่างจำกัด ก็ควรเปิดไฟภายในห้องให้ส่องสว่าง พร้อมกับเสริมด้วยพรมลายดอกไม้ เพื่อเรียกความสดใสและเพิ่มพลังสำหรับการเรียนรู้ให้กับตัวเอง


 By http://www.cmc.co.th/files/picture/activity/thumb/activity-thumb-1-1341473491.jpg

แต่งบ้านมหาเสน่ห์ แบบชายทะเล

http://thelennoxx.files.wordpress.com/2009/08/img15l.jpg

การ ตกแต่งบ้านสไตล์ ชายทะเล มักจะเน้นความเรียบง่ายของวัสดุ และการจัดแต่งแบบไม่ต้องประณีตมากนัก เพราะแรงบันดาลใจส่วนใหญ่มาจากธรรมชาติของวิถีชีวิตริมทะเลที่ไม่ได้เนี้ยบ ทันสมัย หรือหรูหรา แต่เสน่ห์อยู่ที่สัมผัส แบบดิบหยาบ เพื่อช่วยคลายความเคร่งเครียดจากการทำงานในเมืองออกไป

แนว ทางที่โดดเด่นของบ้านสไตล์ริมทะเลต้องเน้นการเปิดวิว และมุมมองที่เชื่อมต่อระหว่างภายนอกและภายในให้มากที่สุด ดังนั้นวิวภายนอกของบ้านคุณก็ควรจะมีต้นไม้เขียวๆ ท้องฟ้ากว้างๆ หรือถ้าสามารถกำหนดมุมที่มองออกไปถึงสระว่ายน้ำได้ด้วยจะยิ่งดี เพื่อจินตนาการไปถึงผืนทะเลสีฟ้าใสได้ไม่ยากนัก แต่ถ้าภายนอกไม่อำนวยจริงๆ ก็ไม่เป็นไร เพราะการเปิดช่องหน้าต่างกว้างๆ ยังช่วยให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาถึงมุมใช้งานภายใน ทำให้พื้นที่ในบ้านโปร่งโล่ง และสบายตา น่าอยู่กว่าการกั้นห้องปิดทึบอย่างเดียว

เฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่ง ที่เหมาะสำหรับบ้านอารมณ์ทะเล ควรจะมาจากวัสดุ ที่เลียนแบบธรรมชาติให้มากที่สุด เป็นต้นว่า ตู้ไม้สีธรรมชาติ หรือไม่ก็ทาสีขาวเรียบ แจกันกระป๋องสังกะสีแบบง่ายๆ ตะกร้าหวาย หรืองานลวดดัด โดยเฉพาะงานไม้เก่าที่นำมาทาสีใหม่สไตล์ซับปี้ หรือประดิษฐ์เป็นของใช้ชิ้นใหม่ ก็สามารถเข้ากับสไตล์ทะเลได้เป็นอย่างดี

ถ้า ไม่อยากลงทุนซื้อเยอะ แค่ชุดโต๊ะเก้าอี้ หรือตู้เก็บของ ซึ่งเป็นเฟอร์นิเจอร์หลักๆ ของห้อง ก็ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศของบ้านได้เหมือนกัน

ของ ตกแต่ง ที่ขาด ไม่ได้ เป็นพวกของที่ระลึกจากทะเล ทั้งเศษหิน เปลือกหอย ที่วางประดับ หรือจะผูกขึ้นเป็นโมไบล์เพื่อทำเป็นม่านโปร่งๆ ขวดใส่ทราย กิ่งไม้ที่อาจนำมาทาสีขาวและใช้ประดับผนังเป็นงานศิลปะ หรือตะเกียงเล็กๆ ก็ช่วยเติมเสน่ห์ของบ้านริมทะเลได้ แล้วแต่คุณจะจัดวางไว้ตามมุมต่างๆ แบบไม่มากไม่น้อยเกินไป

http://thaider.com/homepro/get/images/R9929545/R9929545-9.jpg

แต่ สำหรับบ้านที่อยู่ริมทะเล จริงๆ แค่เปิดช่องหน้าต่างกว้างๆ ก็จะได้วิวสวยธรรมชาติที่ช่วยบิลต์อารมณ์โดยไม่ยาก หรือต่อเติมเพิ่มระเบียงนั่งเล่นกว้างๆ เพื่อรับลมทะเลในตอนกลางวัน มีหลังคาหรือกันสาดขนาดเล็กๆ แต่วัสดุที่เลือกใช้ก่อสร้างหรือตกแต่งพื้นหรือผนัง ต้องหลีกเลี่ยงวัสดุที่มีส่วนประกอบของเหล็ก เพราะไอเค็มจากทะเลอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ ถ้าจำเป็นต้องใช้จริงๆ ประเภทราวเหล็ก หลังคาเหล็ก หรือสังกะสี ก็ควรเคลือบสารที่ป้องกันไอเค็มจากทะเลเสียก่อน

โทน สีที่ เหมาะกับอารมณ์ทะเล หนีไม่พ้นสีฟ้าสลับขาว เพราะส่วนใหญ่เราได้สีฟ้าจากท้องฟ้าและผืนทะเล ส่วนสีขาวคือความขาวสะอาดจากหาดทรายเม็ดละเอียด เวลาจับคู่สองสีนี้เข้ามาในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ อย่างโต๊ะ เก้าอี้ หรือของใช้ประเภทผ้าม่าน ผ้าปูที่นอน เบาะนั่งเล่น หมอนอิง ไปจนถึงของตกแต่งอย่างโคมไฟ แจกัน กล่องใส่ของ กรอบรูป ฯลฯ ผสมผสานกันก็เป็นตัวแทนที่สื่อถึงอารมณ์สบายๆ และสีสันของทะเลได้เป็นอย่างดี