วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556

Mini Club man Bond Street เวอร์ชั่นพิเศษจากถนนแห่งการค้า


 ใครที่เป็นสาวกค่ายรถยนต์  Mini  
คงจะพอทราบกันดีกว่าค่ายรถยนต์ mini  เดิมทีนั้นมีต้นตอมาจากระเทศอังกฤษ

และ แม้วันนี้ค่ายรถยนต์เจ้านี้จะเข้ามาอยู่ใต้ปีกของค่าย รถยนต์ตราพัดฟ้า แต่ว่าการขับขี่รถยนต์ที่เชื่อสายผู้ดีก็ยังให้ความรู้สึกที่น่าสนใจ และมันมีเวอร์ชั่นพิเศษที่พร้อมจะมาตอบโจทย์กัน
                การออกมาตอบโจทย์ในเรื่องของการออกแบบบที่แตกต่างในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ที่ให้ความแตกต่างในการออกแบบนั้น ถือว่ามีความลงตัวอย่างมาก โดยครั้งนี้ได้นำชื่อของถนนการค้าที่สำคัญในกรุงลอนดอน "Bond Street" มาปรับการออกแบบให้ดูดีทันสมัยยิ่งขึ้น และแน่นอนมันให้ความแตกต่างที่ไม่เหมือนใคร

 Mini Club man Bond Street

                ตัวรถเริ่มความทันสมัยด้วยการให้สีดำ เพิ่มความคมเข้มในการออกแบบให้ทันสมัย มีความคมเข้มในการนำเสนอ ด้วยสีดำ  Black Metallic ตัดด้วยหลังคาสีทูโทน  รวมถึงกระจกมองข้างและเสาซี ที่ให้การออกแบบ ที่แตกต่างให้ความหรูหราแล้วสวมล้ออัลลอยก้านคู่ขนาด 17  นิ้ว 
                ด้านในห้องโดยสารเติมความหรูหราผสานกับความสปอร์ตด้วยโทนการตบแต่งที่ให้ ความรู้สึก  Carbon sport ส่วนการตบแต่งอื่นให้อารมณ์หรู ลัดเลาะด้วยโครมเมี่ยม ให้ความแตกต่างจากรุ่นทั่วไป มาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานมากมาย ทั้งไฟตัดหมอก ระบบปัดน้ำฝนและไฟหน้าอัตโนมัติ
                MINI Clubman Bond Street มาพร้อมเครื่องยนต์มากมายหลากรุ่นให้สาวกได้เลือก ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล มีให้เลือกทั้ง MINI Cooper (122hp), MINI Cooper S (184hp), MINI Cooper D (112hp) and MINI Cooper SD (143hp) ซึ่งทั้งหมดมาพร้อมระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด  และเกียร์อัตโนมัติ 6  สปีด เช่นกัน

http://www.roddb.com/images/banners/RodDB_88x31.gif

5 วิธีแต่งคอนโดฯ ขนาดเล็กให้ดูกว้าง

http://www.bangkokfeliz.com/sukhumvit69-2/files/gallery/gallery03.jpg

มี 5 วิธี ดังนี้
1.ในคอนโดใช้ พื้นที่แนวตั้งให้เป็น ประโยชน์มากที่สุด เนื่องจากพื้นที่ห้องคับแคบอยู่แล้ว ดังนั้นการออกแบบจึงจะต้องใช้ความสูงของฝ้าให้เป็นประโยชน์มากที่สุด เช่น การทำตู้เก็บของให้สูงชนฝ้าเพดาน โดยเฉพาะตู้เสื้อผ้าซึ่งคุณต้องใช้ตู้เสื้อผ้าบิวท์อินมาแก้ปัญหานี้

2.ต้อง พยายามออกแบบให้เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ชุดโซฟาสามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงนอนได้ โต๊ะกลางสามารถปรับขึ้นมาเป็นโต๊ะเขียนหนังสือหรือโต๊ะทานข้าวได้ เพราะส่วนใหญ่ห้องขนาดเท่านี้คงมีสมาชิกไม่เกิน 2 ท่าน

3. ขนาด ของเฟอร์นิเจอร์จะต้องไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป โดยเฉพาะชุดนั่งเล่นต้องไม่ใหญ่และมากชิ้นเกิน บางท่านต้องการใช้ชุดเข้ามุมต้องระวังให้ดี ทำการบ้านกับพื้นที่ห้องให้ลงตัวก่อนค่อยออกไปเลือกซื้อนะครับ

4.การ ตกแต่งห้องเล็กๆ สิ่งที่สามารถช่วยทำให้ห้องดูโปร่งและกว้างขึ้น ก็คือการใช้กระจกเงามาช่วยตกแต่งผนังบางด้านให้ห้องดูกว้างขึ้น แต่ห้ามกรุกระจกเงาหันหน้าชนกันโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดภาพซ้อนวุ่นวายไปหมด และที่สำคัญควรใช้สีภายในห้องโทนอ่อนๆ สบายๆ และห้ามมีบัวฝ้าเพดานด้วย เพราะห้องที่แคบอยู่แล้วการแบ่งขอบเขตฝ้าเพดานและผนังยิ่งทำให้ห้องดูแคบ ขึ้น

5.สีสันของเฟอร์นิเจอร์ก็ไม่ควรเข้ม เกินไป ควรเน้นสีเข้มเป็นบางชิ้นและของตกแต่งบางชิ้นก็พอแล้ว ผนังสี่ด้านอาจเน้นสักหนึ่งด้านให้สีเข้มหน่อยก็พอ เช่น ผนังด้านหัวเตียงนอนก็ได้

สำหรับประเด็นเรื่องการแบ่งพื้นที่ใช้สอยนั้น พื้นที่ขนาด 35 ตร.ม.คุณ สามารถแบ่งการใช้งานได้เป็นสองส่วน คือให้ส่วนนั่งเล่น รับแขก ทำงานและทานข้าวอยู่ด้วยกัน และให้ส่วนที่นอน แต่งตัวและตู้เก็บเสื้อผ้าอยู่รวมกัน โดยคุณสามารถใช้ตู้โชว์วางทีวีเป็นตัวแบ่งสัดส่วน โดยออกแบบให้จุดวางทีวีสามารถหมุนไปทางเตียงนอนได้ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถใช้ฟังก์ชั่นแต่ละส่วนได้อย่างคุ้มค่าจริงๆ

วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556

สุดแรงล้ำสมัย! เผยโฉมภายนอก-ภายในของรถ “Acura NSX Concept” รุ่นใหม่ล่าสุดแล้ว



          ที่มงานในปีนี้อย่าง 2013 NAIAS นั้นทาง Acura ได้เปิดเผยแนวคิดใหม่ของพวกเขาด้วยรถแบบ NSX Concept
ที่ โชว์ผลงานวิวัฒนาการของการออกแบบรุ่นต่อไปเป็นรถแบบ Supercar มากขึ้นรวมถึงการออกแบบรวมทั้งรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูแตกต่างออกไปและสิ่งแรก ที่เรานั้นเห็นแตกต่างก็คือภายในตัวรถของ NSX นั้นดูแตกต่างจากเดิมไปมาก
“วิวัฒนาการ ต่อไปของการออกแบบ Acura NSX Concept นี้จะทำให้เราเห็นถึงการออกแบบที่แท้จริงที่ทำเราเห็นการแต่งรถที่ฉีกแนวจาก เดิมๆ เรากำลังทำให้ความคืบหน้าในการส่งมอบรถสู่ตลาดนั้นเร็วขึ้นและเรายังสร้างรถ รุ่นใหม่ที่ออกมาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงมากกว่าที่อื่นๆที่จะช่วยยกระดับของ ประสิทธิภาพและประสบการณ์แบบใหม่ของรถที่มีรูปทรงภายนอกที่สวยงามแปลกใหม่ใน ตลาดโลกคันนี้” Mike Accavitti รองประธานด้านการตลาดเผย
สำหรับ Acura NSX Concept รุ่นใหม่นี้นั้นอยู่บนพื้นฐานของการคาดหวังที่จะเห็นยานพาหนะ Acura เป็นผู้นำในการออกสู่ตลาดโลก และในคอนเซปต์ใหม่นี้ทางรถ Acura ยังคงรักษาช่วงล่างให้ต่ำและสัดส่วนอื่นๆในเชิงไดนามิกก็ใช้ตัวบอดี้เช่น เดียวกับรถรุ่น NSX Concept ที่แสดงในงานอย่าง 2012 North American International Auto Show โดยเน้นพื้นผิวที่สะอาดทันสมัยและเรียบง่ายปิดท้ายด้วยรายละเอียดเชิงลึกของ Supercar ที่บ่งบอกถึงทัศนะคติและให้ความรู้สึกถึงเทคโนโลยีชั้นสูง
แนวคิด ใหม่ Acura NSX ยังมีรูปลักษณ์ที่สังเกตได้ง่ายด้วยการออกแบบภายในด้วยความสวยงามและมี ศักยภาพมากกว่าเดิม โดยดีไซน์การออกแบบนั้นคือคอนเซปต์ “Human Support Cockpit” หรือการมีที่นั่งที่ซัพพอร์ตคนขับ โดยในรุ่นนี้นั้นทิศทางสินค้า Acura มุ่งเน้นไปที่ “การทำงานร่วมกันระหว่างคนและเครื่องจักร” และภายในตัวรถนั้นยังมีความโดดเด่นด้วยตำแหน่งการขับรถที่แปลกใหม่และใช้งาน ง่ายที่ช่วยลดความยุ่งเหยิงภายในช่วยให้คนขับรถนั้นได้รับประสบการณ์การใน การขับขี่อย่างเต็มที่บนท้องถนน
“เพื่อ ความสอดคล้องกับการออกแบบรุ่นเดิมๆของ original NSX ความตั้งใจของเราคือการสนับสนุนด้านจิตใจและอารมณ์ของการขับรถซุปเปอร์คาร์ เพราะเรามุ่งมุ่นมาตลอดเกี่ยวกับแนวคิดสำหรับการทำงานร่วมกันระหว่างคนและ เครื่องจักร และนี่จะเป็นสิ่งที่ทำให้ Acura ก้าวไปข้างหน้า” Jon Ikeda หัวหน้าทีมออกแบบของ Acura Design Studio เผย
ด้วย จุดมุ่งหมายในการมอบประสบการณ์แบบใหม่ๆในแนวของ next-generation supercar แบบระบบไดนามิกที่มีประสิทธิภาพสูงด้านสิ่งแวดล้อม ทาง Acura ก็ได้ทำการประกาศผ่านสื่อเมื่อปีที่ผ่านมาว่า Acura NSX จะถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ระบบ direct-injected V-6 engine ที่ทำงานพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่คือระบบ Acura’s Sport Hybrid SH-AWD® (Super Handling All-Wheel Drive) ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนทั้งสี่ล้อ
Acura Sport Hybrid SH-AWD นั้นจะเป็นระบบใหม่ทั้งหมด ด้วยเครื่องยนต์สามมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงระบบ hybrid system ที่ผสมผสานกับเทคโนโลยี vectoring ขับเคลื่อนสี่ล้อที่้ใช้ Hybrid ประสิทธิภาพสูงผ่านการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าถึงสามตัว คือ หนึ่ง-มอเตอร์เครื่องยนต์ V6, สอง-มอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหน้าที่ใช้ระบบ (DCT) พร้อมกับปิดท้ายด้วยมอเตอร์ที่สามที่ช่วยส่งมอบแรงบิดในการเข้าโค้งและช่วย ยกระดับการขับขี่ให้มีประสิทธิภาพที่เหนือชั้น
The new NSX นั้นทำการพัฒนาโดยทาง global R&D team led โดยนักออกแบบและวิศวกรฮอนด้าของทาง Honda R&D Americas ที่ตั้งอยู่ใน Los Angeles, California และ Raymond, Ohio ส่วนรถแบบ new NSX นั้นจะถูกผลิตขึ้นในโรงงานที่ Central Ohio
http://www.roddb.com/images/banners/RodDB_88x31.gif

วิธีตกแต่งบ้านตามหลักฮวงจุ้ย

http://www.therichrama2.com/images/gallery/large/01.jpg
บ้าน1. ไม่ควรมีถนนวิ่งตรงเข้าสู่บ้าน
2. ไม่ควรมีเสาตรงหน้าบ้าน
3. ไม่ควรมีต้นไม้ตรงประตูบ้าน
4. ไม่ควรมีประตูตรงกัน 2 ประตูเป็นทางผีผ่าน
5. ไม่ควรมีประตูหน้าบ้านประจันหน้ากับประตูบ้านอื่น
6. ไม่ควรมีประตูบ้านที่เล็กเกินไป เงินเข้าน้อย
7. ไม่ควรมีประตูบ้านตรงกับรถจอดพอดี เงินรั่วไหล

http://www.therichrama2.com/images/gallery/large/10.jpg
ห้องนอน
1. ห้องนอนเจ้าบ้านควรมีขนาดใหญ่ อยู่ทิศตะวันออกหรือกลางบ้านดี จะทำให้ความอบอุ่นมากขึ้น
2. ห้องนอนไม่ควรมีประตูตรงกัน
3. ห้องนอนไม่ควรอยู่ติดกับห้องครัว จะร้อนและสุขภาพไม่ดี
4. ประตูห้องห้องนอนไม่ควรตรงกับบันได ผีผ่าน
5. ประตูห้องนอนไม่ควรตรงกับประตูห้องส้วม จะทำให้ทุกข์ใจและสุขภาพเสีย
6. ห้องนอนหรือหัวนอนไม่ควรตรงกับ ห้องน้ำ จะมีปากเสียงและสุขภาพไม่ดี
7. ห้องนอนของคู่ชีวิตควรอยู่ทางทิศตะวันตกของบ้าน หันหัวทางทิศตะวันออก ส่งผลให้ร่มเย็นเป็นสุข

http://www.therichrama2.com/images/gallery/large/09.jpg
ห้องครัว
1. ห้องครัวควรอยู่หลังบ้าน จะส่งผลดีต่อครอบครัว
2. ห้องครัวไม่ควรมองเห็นชัดเจน ส่งผลให้ไม่มีสุข และเป็นโรคอ้วนได้
3. เตาไฟ ไม่ควรวางติดกับหน้าต่าง จะทำให้เกิดอุบัติภัยได้ และเป็นโรคได้
4. ไม่ควรนำเตาไฟติดกับอ่างน้ำ จะทำให้วุ่นวาย
5. เตาไฟควรวางทะแยงประตูเข้า จะทำให้เงินมากขึ้น
6. เตาไฟควรจัดให้เป็นเลขคี่ จะเป็นสิริมงคล ร่ำรวย
7. ห้องครัวควรมีช่องระบายอากาศให้สมดุล ธาตุลมจะทำให้ครอบครัวไม่วุ่นวาย

http://www.therichrama2.com/images/gallery/large/11.jpg
ห้องส้วม (ถูกฮวงจุ้ย) นำโชคดีมาให้
1. ห้องส้วมควรสะอาด จะส่งผลให้ครอบครัวมีสุข
2. ห้องส้วมไม่ควรตรงกับประตูห้องนอน ส่งผลร้ายต่อบ้าน
3. ห้องส้วมไม่ควรใหญ่เกินห้องกับข้าวจะทำให้ลูกหลานขี้เกียจ
4. โถส้วม ควรใช้สีถูกโฉลกกับเจ้าของบ้าน จะทำให้ร่ำรวย
5. ประตูห้องส้วม ควรมีฉากกั้นรูปวิว จะทำให้บ้านอยู่เย็นเป็นสุข
6. โถส้วม ควรเล็กกว่าที่อาบน้ำ
7. ห้องส้วมควรมีแสงสว่าง 2 ดวง ส่งผลให้ครอบครัวเจริญ

http://www.therichrama2.com/images/gallery/large/07.jpg
บันได
1. บันไดบ้านควรมีแสงสว่างเพียงพอ ใช้แสงสีขาว หรือสีเหลือง 1 ดวง จะส่งผลให้บ้านนั้น พ้นเรื่องอุบัติเหตุ
2. บันไดบ้านควรเป็นเลขคี่ จะส่งให้ร่ำรวย
3. บันไดให้ใช้สีสว่าง ส่งผลให้ธาตุน้ำดี บ้านร่มเย็นเป็นสุข

http://www.therichrama2.com/images/gallery/large/03.jpg
ห้องรับแขก (บ้านแสนสุข)
1. ห้องรับแขกอเนกประสงค์ ควรมีอ่างบัว หรืออ่างปลาสวยทางมุมสุดของห้องรับแขก และติดวอลเปเปอร์ ภูเขา เมฆ สีฟ้าอ่อน (สว่าง) จะทำให้ห้องร่มรื่นถูกฮวงจุ้ย
2. ห้องรับแขกควรอยู่ตรงกับประตูใหญ่พอดี ใช้โซฟาสีฟ้าหรือสีชมพูอ่อนส่งเสริมให้อบอุ่น

วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2556

ปรับใหม่หมด! Peugeot เผยแพร่ภาพและรายละเอียดของรถ “2008″ อย่างเป็นทางการ


         ค่ายรถชื่อดังอย่าง Peugeot นั้นยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อนำเสนอรถในรูปแบบใหม่ภายใต้คอนเซปต์แบบ B-segment

ซึ่งหากนำไปเปรียบเทียบกับรุ่น 2008 ถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่าโมเดลรุ่น 2008 เป็นรถแบบ Crossover ขนาดกะทัดรัดและมีตำแหน่งที่นั่งที่สูงขึ้น ผสมผสานดีไซน์ที่ทรงพลังและเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อดึงดูดใจลูกค้า ทั่วโลก

โดยที่ งาน Paris Salon ในฤดูใบไม้ร่วงนั้นเราจะเห็นรถต้นแบบถึงสามแบบที่ใช้แนวความคิดเดียวกันกับ โมเดลรุ่น 2008 แต่มันจะไม่แตกต่างจากแนวความคิดของเมื่อหกเดือนก่อนแต่อย่างใด
          รถยนต์รุ่นนี้จะทำการเปิดตัวแก่ชาวโลกเป็นครั้งแรกที่งาน Geneva Motor Show ในเดือนมีนาคมและจะทำการเปิดจำหน่ายในฤดูร้อนนี้ เช่นเดียวกับโมเดลรุ่น 208 ที่เป็น B segment และได้เปิดตัวไปปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามมันย่อมมีความแตกต่างกันอยู่ เพราะรุ่น 2008 เป็นรถแบบ Crossover ที่ยกพื้นรถสูงและตำแหน่งที่นั่งก็สูงขึ้น ส่วน 3008 เป็นรถยนต์ขนาดเล็กกระทัดรัด
          เพื่อให้โมเดลรุ่น 2008 ประสบความสำเร็จมากที่สุด ทาง Peugeot จึง พยายามสร้างรถ Crossover ให้ดึงดูดใจผู้ซื้อทั่วโลกมากที่สุด ดังนั้นพวกเขาจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ในการออกแบบ แต่แนวคิดของทั้งสองรุ่นกลับไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก กันชนด้านหน้าด้านหลังและกรอบประตูติดพลาสติกสีดำเพื่อป้องกันตัวรถและมีการ พัฒนาแผ่นกันกระแทกด้านหน้าด้านหลัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพที่ว่ารถยนต์คันนี้สามารถขับเคลื่อนไปได้ทุกสภาพแวด ล้อม ไม่ได้จำกัดเฉพาะวิ่งในตัวเมืองเท่านั้น
          สำหรับมาตราส่วนของรถคันนี้นั้นจากด้านหน้าไปถึงด้านหลังวัดได้ 4.16 เมตร ซึ่งยาวกว่ารุ่น 208 ถึง 20 เซนติเมตร และยังยาวแนวคิดรถยนต์ คู่แข่งในหมู่ครอสโอเวอร์แบบ B-segment อยู่ 2 Cm. และเมื่อทำการเปรียบเทียบความยาว เราจะเห็นว่าโมเดลรุ่น 2008 ยาวกว่า Countryman มากกว่าถึง 6 นิ้ว ส่วนขนาดยางล้อรถยนต์ของ 2008 อยู่ที่ 17 นิ้ว
          เป้าหมายของโมเดลรุ่น 2008 ก็คือการได้เป็นผู้นำในตลาดยุโรปและเอาชนะใจลูกค้าในตลาดใหม่อย่างเช่น เอเชียและอเมริกาใต้ โดยทาง Maxime Picat ประธานกรรมการคนใหม่ของเปอโยต์กล่าวว่า รถยนต์รุ่นนี้จะถูกสร้างขึ้นใน 3 ประเทศอได้แก่ ฝรั่งเศส จีน และบราซิล
          การตกแต่งของรถนั้นจะมีกระจกขนาดใหญ่พร้อมกับหลังคากระจกแบบพาโนรามาซึ่งทอด ยาวตลอดทั้งคันรถ ให้ความรู้สึกโล่งโปร่งสบายในขณะที่ทุกท่านใช้รถรุ่น 2008 แต่น่าเสียดายที่รูปภาพภายในของรถยนต์รุ่นนี้นั้นทาง Peugeot ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมากนัก
ใน เรื่องของเครื่องยนต์นั้นมีให้ลูกค้าเลิอกทั้งระบบทั้งเบนซินและ ดีเซล ซึ่งทาง Peugeot เองก็ระบุข้อมูลเพียงแค่ของเครื่องยนต์ดีเซลแบบ e-HDi ที่มีฟังก์ชันการทำงานเปิด/ปิดแบบ Hybrid เทคโนโลยีประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนทางด้านเครื่องยนต์เบนซินนั้นเป็นแบบสามกระบอกสูบที่เป็นเครื่องยนต์ ใหม่
          และตอนนี้พวกเราก็ได้แต่หวังว่าโมเดลรุ่น 2008 จะใช้เทคโนโลยี HYbrid4 เหมือนกับรุ่น 3008 ที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าและใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็น ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง
หลังจากเปิดตัวที่เจนีวามอเตอร์โชว์ในเดือนมีนาคมนี้ รถยนต์รุ่นนี้ก็จะเริ่มเปิดการจำหน่าย

ขจัดกลิ่นเพื่อความสุขภายในบ้าน

http://www.bangkokfeliz.com/sukhumvit69-2/files/gallery/gallery05.jpg

กลิ่นคือสัมผัสหนึ่งที่สำคัญในชีวิต จะเป็นอย่างไรถ้าบ้านหรือคอนโดแสน รักต้องตกอยู่ในบรรยากาศของกลิ่นไม่พึงประสงค์ จะกลายเป็นต้องเหม็นหน้าคนในบ้านกันซะเปล่า ๆ หาทางกำจัดกันเถอะเพื่อสร้างสายสัมพันธ์อันสดชื่นให้คืนมาอีกครั้ง วิธีง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ก็คือ รักษาความสะอาดเพื่อขจัดกลิ่นเหม็นและกลิ่นอับให้หมดไปเริ่มกันที่กลิ่นใน ครัวกันก่อน เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง กลิ่นส่วนใหญ่จะเกิดจากเศษอาหารไปจนถึงอาหารดิบต่าง ๆ เพราะฉะนั้นถ้าพบว่ามีเศษอาหารตกหล่น ก็ควรกำจัดให้ทันควัน จะเช็ด หรือกวาดก็ตามแต่สะดวกก่อนที่จะเน่าสลายกลายเป็นกลิ่นตุ ๆ ส่วนในเวลาที่ทำครัวให้เปิดพัดลมระบายอากาศหรือพัดลมดูดอากาศด้วยเพื่อช่วย ในการระบายกลิ่นอาหารพวกอาหารดิบที่กลิ่นมาก่อน ตัวอย่างเช่น กลิ่นปลา กระเทียม หัวหอม เราขอแนะนำ มะนาววิเศษ…ก็มะนาวธรรมดานี่แหละ ผ่าซีกแล้วเอาไปถูอุปกรณ์ทุกชิ้นที่มีกลิ่นเหล่านี้ ทั้งกระทะ เขียงไปจนถึง 2 มือน้อยที่สร้างอาหาร แต่ถ้ากลิ่นติดทนนานใช้แบบเข้มข้นคือน้ำส้มสายชูดีกว่า ใส่ในกระทะแล้วเอาไปเคี่ยวบนไฟ แค่นี้กลิ่นก็จะหายไปแล้วตู้เย็น ในตู้เย็นช่างเป็นแหล่งสะสมกลิ่นอับที่ดี ใช้ผงฟูผสมกับน้ำเปล่า ๆ เช็ดทำความสะอาดภายในตู้ หรือจะเดิ้นกว่านั้นใช้ท่อของเครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดก็ได้ พวกถังขยะ ตู้ใส่อาหารก็ต้องทำความสะอาดกันบ่อย ๆ ถังขยะน่ะทำทุกวันด้วยผงซักฟอก ตู้ทำทุก 6 เดือน และหลังทำความสะอาดให้เปิดทิ้งไว้ก่อนสัก 2-3 ชั่วโมงระบายกลิ่นอับออกไปมาถึงเรื่องถ่ายกันบ้าง กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ที่สุดของบ้านมักจะสะสมอยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ ห้องนี้ วิธีกำจัดกลิ่นนั้นมี 2 แบบ ถ้าแบบ Manual ก็คือ จุดไม้ขีด เทียนไขจุดไฟให้ติดแล้วก็ดับ วางในจานทิ้งไว้ในห้องน้ำสัก 5 นาที หรือทำแบบ Auto ก็คือซื้อน้ำยาปรับอากาศมาฉีด กดสัก 2-3 ทีก็จะได้กลิ่นอันสดชื่นคืนมา

ใน บ้านใหม่ ๆ ที่มักมีคำพูดว่า “ยังเหม็นกลิ่นสีอยู่เลย” ถ้ายังสนุกกับคำพูดนี้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ารู้สึกว่ากลิ่นเริ่มทำให้รู้สึกวิงเวียน ก็ลองเดินเข้าไปในครัว ไม่ใช่ให้หนีเสือไปปะจระเข้ แต่ให้หยิบหัวหอมติดมือออกมาด้วย ผ่าครึ่งตามยาว ทิ้งไว้ในห้องที่มีกลิ่นสี หัวหอมนี่แลที่ดูดกลิ่นชะงัดนัก ใช้เสร็จก็ทิ้งเลยนะ ไม่ต้องประหยัดมาทำอาหารต่อ


สำหรับ บ้านที่คุณผู้ชายชอบสูบบุหรี่เป็นประจำจะเกิดปัญหากลิ่นอับบุหรี่ในห้อง วิธีที่ง่ายที่สุดก็คืองดบุหรี่เถอะเพื่อสุขภาพของท่านเองด้วย แต่ถ้าทำไม่ได้ ขณะสูบให้เปิดหน้าต่างแล้วใช้พัดลมเป่ากลิ่นออกไป ถ้ายังมีกลิ่นอยู่ให้ใช้สเปรย์ดับกลิ่นหรือวางจานใส่แอมโมเนียหรือน้ำส้ม สายชูทิ้งไว้ จุดเทียนไว้ในห้องสักพักก็ช่วยคลายกลิ่นบุหรี่ได้เหมือนกันแต่ถ้าปัญหานี้ กลายเป็นปัญหาเรื้อรัง ลงทุนอีกนิดนึงซื้อเครื่องฟอกอากาศมาใช้สักเครื่อง ขนาดเล็ก ๆ ไม่ต้องแพงนักและกรองอากาศโดยใช้ไส้กรองแบบผงถ่าน วางเครื่องไว้ในตำแหน่งที่ดีที่สุด ส่วนห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศควรเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีระบบฟอกอากาศ ในตัวด้วยจะดีกว่า
นี่ ก็เป็นวิธีกำราบกลิ่นไม่พึงประสงค์หลัก ๆ ที่มักเกิดขึ้นในบ้าน เมื่อหมดกลิ่นรบกวน ความสดชื่นแจ่มใสก็กลับมาเยือนบ้านน้อยหลังงามได้อีกครั้งหนึ่ง

วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556

TOYOTA แถลงแผนงานประจำปี 2556

Toyota คาดการณ์ตลาดรถยนต์โดยรวมในประเทศไทยปี พ.ศ. 2556 จะมียอดจำหน่ายมากกว่า 1.2 ล้านคัน โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตที่ 500,000 คัน ส่วนยอดขายปี 2555 รวมทั้งสิ้น 1,436,335 คัน เพิ่ม 80.9%...

เคียว อิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท Toyota Motor Thailand co,ltd. แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ในปี พ.ศ.2555 คาดการณ์ตลาดรถยนต์ในไทยของปีนี้ เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2556 ณ ห้องบอลรูม โรงแรมโอกุระ กรุงเทพมหานคร

สำหรับ ยอดขายรถยนต์ในปี 2555 ได้สร้างสถิติใหม่ของยอดขายรถยนต์ในประเทศไทย ด้วยตัวเลขที่สูงถึง 1,436,335 คัน สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ยอดขายรถยนต์ของไทย ทั้งนี้ ความต้องการของตลาดรถยนต์ในประเทศที่สูงขึ้นมากในปีที่ผ่านมา (2555) เป็นผลที่เกิดจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการกระตุ้นของรัฐ รวมถึงโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาลที่ช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ให้ทะลุเพดาน ด้วยตัวเลข 1.4 ล้านคัน ตามด้วยความต้องการสะสมอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ภัยพิบัติทาง ธรรมชาติในช่วงปลายปี 2554 จากสาเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศไทย ประกอบกับกำลังของการผลิตในประเทศที่เพิ่มขึ้น ทำให้ค่ายรถยนต์ต่างๆ สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ดีขึ้น

สำหรับตัวเลขสถิติยอดขายรถยนต์ในปี 2555 มีดังนี้

ปริมาณการขายรวม...................................................1,436,335 คัน เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2554 +80.9%

รถยนต์นั่ง...................................................................672,460 คัน เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2554 +86.6%

รถยนต์พาณิชย์...........................................................763,875 คัน เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2554 +72.2%

รถกระบะขนาด 1 ตันรวมรถดัดแปลง..........................666,106 คัน เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2554 +82.2%

รถกระบะขนาด 1 ตัน ไม่รวมรถดัดแปลง.....................592,725 คัน เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2554 +81.0%

โดย Toyota มียอดขายรวม 516,086 คัน เพิ่มขึ้น 77.9% แบ่งออกเป็นรถยนต์นั่ง 224,816 คัน เพิ่มขึ้น 62.8% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 294,270 คัน เพิ่มขึ้น 91.1% และรถยนต์กระบะขนาด 1 ตัน รวมรถยนต์กระบะดัดแปลง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 269,772 คัน เพิ่มขึ้น 99.8%

สถิติการขายรถยนต์ของ Toyota ในปี พศ 2555
ปริมาณการขายรวม...................................................516,086 คัน เพิ่มขึ้น 77.9% ส่วนแบ่งตลาด 35.9%

รถยนต์นั่ง...................................................................224,816 คัน เพิ่มขึ้น 62.8% ส่วนแบ่งตลาด 33.4%

รถเพื่อการพาณิชย์......................................................291,270 คัน เพิ่มขึ้น 91.7% ส่วนแบ่งตลาด 38.1%

รถกระบะขนาด 1 ตันรวมรถดัดแปลง..........................269,772 คัน เพิ่มขึ้น 99.8% ส่วนแบ่งตลาด 40.5%

รถกระบะขนาด 1 ตันไม่รวมรถดัดแปลง.....................233,393 คัน เพิ่มขึ้น 91.5% ส่วนแบ่งตลาด 39.4%


ใน ด้านการส่งออกรถยนต์ไปขายยังต่างประเทศของปี พ.ศ. 2555 บริษัท Toyota ได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวนทั้งสิ้น 405,892 คัน เพิ่มขึ้น 61.8% คิดเป็นมูลค่า 179,572 ล้านบาท รวมถึงการส่งออกชิ้นส่วนมูลค่า 63,023 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าส่งออกที่นำรายได้กลับสู่ประเทศไทยเป็นเงินทั้งสิ้น 242,595 ล้านบาท สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ในประเทศไทยของปี 2556 เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท Toyota Motor Thailand กล่าวว่า แนวโน้มตลาดรถยนต์ในปี พ.ศ. 2556 ของประเทศไทยนั้น คาดว่าจะมียอดรวมทั้งหมดมากกว่า 1,200,000 คัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10% โดย Toyota ตั้งเป้าหมายของยอดขายรวมในปีนี้ (2556) ไวที่ 5 แสนคัน สำหรับยอดขายภายในประเทศ และ 4 แสนคันสำหรับรถยนต์สำเร็จรูปที่จะทำการส่งออกไปขายทั่วโลก


การ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 51 ของการประกอบการในประเทศไทย บริษัท Toyota มีโครงการร่วมส่งความสุขหรือ Mobility Of Happiness ให้กับลูกค้าและสังคมไทย และเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของตลาดรถยนต์ภายในประเทศ ส่วนการขยายกิจการเพื่อรองรับการเติบโตในโครงการ TAW ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาเพื่อดำเนินการผลิตยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ในประเทศ รวมถึงการตั้งฐานการผลิตยนตรกรรม Hybrid ในปีที่ผ่านมา และโรงงานของ Toyota ที่เกตเวย์สอง เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์ของ Toyota ในไตรมาตรที่ 3 ส่วนนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ของปี 2556 ค่าย Toyota จะเปิดตัวรถยนต์ราคาประหยัดแบบ ECO CAR รวมถึง Toyota Smart G Book แบบสามมิติที่ให้ความชัดเจนและมีความสมบูรณ์แบบของการใช้งานมากยิ่งขึ้น และเพื่อรองรับการเติบโตของยอดขายที่เพิ่มขึ้น การให้บริการต่อลูกค้าที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น Toyota จะเพิ่มโชว์รูมจากจำนวน 350 แห่งทั่วประเทศ เป็น 400 แห่งภายในปี 2556 นี้ รวมถึงการขยายโชว์รูมรถยนต์มือสองหรือ Toyota Sure เพิ่มอีก 5 แห่งเป็น 100 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ Toyota ยังมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆ รวมถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับชุมชน เพื่อสร้างมาตรฐานที่ดีในการผลิตรถยนต์ที่เน้นในเรื่องของการลดการปล่อย มลพิษ ทั้งหมดนี้ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขของสังคมไทยต่อไป


เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท Toyota Motor Thailand

เนื่อง จากปีนี้เป็นปีสิ้นสุดโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาลซึ่งอาจทำให้ยอดขายโดย รวมลดลง 10% แต่ไลน์การผลิตภายในโรงงานประกอบรถยนต์ของ Toyota สำหรับการส่งออกยังคงเดิมหรืออาจดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท Toyota Motor Thailand ให้ความคิดเห็นต่อผู้สื่อข่าวว่า สายการผลิตอาจไม่ลดลงมากนักและอาจรักษาตัวเลขไม่ให้ตกลงไปมากกว่าตัวเลขเดิม ของปี 2555 สำหรับงบลงทุนของปี 2556 อยู่ที่ 12,000 ล้านบาท โรงงานแห่งใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ที่จะเสร็จลงในช่วงกลางปี 2556 และโรงงานประกอบรถยนต์แห่งใหม่ในประเทศอินโดนีเซียถือเป็นการขยายฐานการผลิต ของ Toyota ที่จะเข้ามาช่วยเสริมกำลังการผลิตให้กับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มี ความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น การสร้างโรงงานแห่งใหม่ของ Toyota Motor ในทวีปเอเชียจะเกิดขึ้นเพียงแค่ 2 แห่งเท่านั้นในปี 2556 นี้


วีเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท Toyota Motor Thailand

ย้อน กลับไปในปี 2553 ยอดขายรวมของรถยนต์ประมาณ 800,000 คัน ในขณะที่ปี 2554 ถึงแม้จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศไทย แต่ยอดขายรวมของรถยนต์ก็ยังคงอยู่ในระดับ 794,000 คัน และหากไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ยอดขายรถยนต์คงจะพุ่งสูงถึง 1 ล้านคันอย่างแน่นอน วีเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท Toyota Motor Thailand co,ltd.แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า กรณีรถยนต์ New Vios 2013 นั้น มียอดจองทั้งหมด 11,000 คัน เป็นการจองที่ถูกต้องตามขั้นตอนและกฎเกณฑ์ของกรมสรรพสามิตทุกประการ ขณะเดียวกันรถ New Vios ที่เปิดใช้สิทธิ์การจองในโครงการรถยนต์คันแรก (สิ้นสุดลงแล้ว) จะเริ่มต้นเดินสายการผลิตในเดือนมีนาคมนี้ แต่ในความเป็นจริงนั้น รถ New Vios ได้เริ่มต้นผลิตออกมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2555 แล้ว รวมถึงการทดสอบต่างๆ เพื่อให้ทันต่อการจองรถยนต์ในโครงการรถคันแรกของเดือนสุดท้ายก่อนที่จะสิ้น สุดโครงการลง วีเชียร เอมประเสริฐสุข แจ้งว่ารถ New Vios 2013 โมเดลใหม่ล่าสุดนั้น มีการจัดจำหน่ายให้กับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม มีการเสียภาษีถูกต้อง กรมสรรพสามิตจึงได้อนุญาตให้บริษัท Toyota เปิดทำการรับจองจากลูกค้าได้ เพราะบางดีลเลอร์ของ Toyota นั้น รถ Vios โมเดลปัจจุบันไม่มีจำหน่ายให้กับลูกค้าอีกแล้วเนื่องจากรถหมด จึงจำเป็นต้องเปิดจองตัวรถรุ่นใหม่แล้วให้ลูกค้ารออีกสองถึงสามเดือนหลังจาก โมเดลปัจจุบันปิดสายการผลิตลงเรียบร้อย สำหรับแผนการผลิต ECO CAR ในโรงงานเกตเวย์แห่งที่สองของ Toyota ตัวเลขที่ชัดเจนสำหรับสายการผลิต ECO CAR ของ Toyota ยังคงไม่สามารถตอบได้และอยู่ในขั้นตอนของการประเมินกับกลุ่มผู้บริหาร เพื่อให้ปริมาณการผลิตรถยนต์ Toyota มีความสมดุลกันกับรถยนต์นั่งรุ่นอื่นๆ ของบริษัท ทั้งการผลิตขายในประเทศกับการส่งออกไปขายต่อยังต่างประเทศ สำหรับการผลิตรถยนต์ Vios ในโมเดลปัจจุบัน บริษัทฯ สามารถผลิตได้เดือนละ 10,000 คัน สำหรับตลาดในประเทศ ซึ่งในขณะนี้รถ Vios โฉมปัจจุบันมียอดจองค้างอยู่อีกสามเดือน


นินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานบริหาร บริษัท Toyota Motor Thailand

นินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานบริหาร บริษัท Toyota Motor Thailand co,ltd. แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า Toyota Motor เห็นด้วยกับการปรับโครงสร้างของภาษีรถยนต์ใหม่โดยใช้การปล่อย CO2 เป็นมาตรฐานในการกำหนดอัตราภาษี ส่วนระยะเวลาที่รัฐบาลได้ประกาศให้เวลา 3 ปี ในการปรับตัวของค่ายรถยนต์นั้นอาจน้อยเกินไป ผู้บริหารของค่ายรถส่วนใหญ่ให้ความเห็นตรงกันว่า บริษัทผู้ผลิตรถยนต์บางรายมีความพร้อมที่จะปรับตัวเองแต่ขอยืดระยะเวลาออกไป อีกเล็กน้อยเพื่อการปรับปรุงระบบเครื่องยนต์ให้ปล่อยของเสียน้อยลง เพื่อจะช่วยลดมลพิษที่เกิดขึ้นจากการใช้งานของรถยนต์จำนวนมหาศาลที่ออกสู่ ท้องถนน เนื่องจากวงจรของการเปลี่ยนโมเดลในแต่ละรุ่นจะอยู่ที่ 4-5 ปี โดยเฉลี่ย


วุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท Toyota Motor Thailand

วุฒิ กร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท Toyota Motor Thailand co,ltd.แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า สำหรับ Social Innovation ของ Toyota นั้น เป็นการขับเคลื่อนความสุขให้กับสังคมส่วนรวมของประเทศไทย Toyota Motor มองว่าสิ่งที่เป็นความรู้และประสบการณ์ของค่ายสามห่วงจะเป็นประโยชน์ต่อการ ช่วยพัฒนาชุมชนท้องถิ่นต่างๆ เช่นขีดความสามารถในการทำกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมที่ Toyota ปฏิบัติมาเป็นระยะเวลานานหลายปีแล้ว จะช่วยพัฒนาสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของชุมชนนั้นๆ ให้ดำรงอยู่ต่อไป รวมถึงการช่วยสร้างเสริมธุรกิจท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็ง เพื่อที่จะสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งกลับไปสู่ผู้คนในชุมชนนั้นๆ ต่อไป


ค่า เงินบาทที่แข็งขึ้นจากเงินทุนที่ไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกทำให้ทั้งสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกายังคงเปราะบาง และยังคงต้องใช้ระยะเวลาในการพื้นตัวพอสมควร บริษัท Toyota จะต้องสร้างแนวคิิดการทำงานใหม่ๆ ให้กับซัพพลายเออร์และพนักงานของ Toyota เอง เพื่อปรับตัวเองให้ก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่ของหลักการทำงานในการผลิิตยานยนต์ เพื่อดำรงความเป็นผู้นำด้านยนตรกรรม ส่วนผลกระทบของค่าแรงขั้นต่ำจำนวน 300 บาท ที่มีต่อบริษัทซัพพลายเออร์หรือผู้ผลิตชิ้นส่วนรายย่อยที่ส่งชิ้นส่วน อะไหล่ให้กับ Toyota นั้น ทางโรงงานของค่ายสามห่วงใด้มีแผนงานที่จะรองรับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเอาไว้ ตั้งแต่เดือนเมษายนของปีที่ผ่านมา ยกตัวอย่างเช่น ระยะเวลาของการผลิตรถยนต์หนึ่งคันซึ่งแต่ก่อนใช้เวลาตามที่กำหนด ระยะเวลาดัวกล่าวจะถูกปรับให้มีความสอดคล้องกับค่าใช้จ่ายของบริษัทที่เพิ่ม มากขึ้นด้วยการลดเวลาการประกอบให้น้อยลงไปอีก บริษัทซัพพลายเออร์หรือผู้ผลิตชิ้นส่วนรายย่อยที่เริ่มได้รับผลกระทบ จากนโยบายดังกล่าว ทาง Toyota ได้มีการให้แนวทางของการทำงานด้วยการผลิตชิ้นส่วนให้มีคุณภาพสูงมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในการผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ให้มีความก้าวหน้า ซึ่งจะเป็นการเพิ่มมูลค่าไปในตัว การเพิ่มค่าแรงจะต้องมีการปรับตัวด้วยการนำเอาเครื่องจักรที่มีความทันสมัย เข้ามาใช้งาน ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรให้มีฝีมือด้านแรงงานที่สูงขึ้น ในระยะสั้นๆ นั้นอาจส่งผลกระทบบ้าง แต่ในระยะยาวจะมีส่วนช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันและมีพัฒนาการที่ดีขึ้น

สำหรับ ในปี 2556 นั้น Toyota จะตอบแทนลูกค้าด้วยคอนเซปต์ Mobility Of Happiness เพื่อแสดงความขอบคุณต่อลูกค้าที่ให้การสนับสนุนตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา เป็นการส่งมอบความสุขเพื่อก้าวสู่อนาคตที่สดใส toyota จึงจัดแคมเปญขอบคุณลูกค้า Toyota มอบของขวัญแทนคำขอบคุณ กับลูกค้าที่จองซื้อรถยนต์ Toyota โดยมีรายละเอียดดังนี้

Samsung GALAXY Tab ขนาด 7.0 นิ้ว
สิทธิ์ ในการใช้บริการ Toyota Smart G-Book เวอร์ชั่นใหม่ พร้อมแผนที่สามมิติ เป็นระยะเวลานาน 1 ปี แอพ Toyota Smart G-Book ครอบคลุมบริการต่างๆ เช่น
บริการค้นหาจุดหมายปลายทางโดยโอเปอร์เรเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมง
ระบบนำทางอัจฉริยะหลีกเลี่ยงรถติดด้วยข้อมูลสภาพการจราจรล่าสุดแบบ Real Time
บริการติดต่อให้ความช่วยเหลือบนท้องถนนและช่วยเหลือทางการแพทย์ฉุกเฉิน
สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 7 เมษายน 2556

รุ่นรถที่ได้รับสิทธิ์ จำนวน 10 รุ่น

-Toyota Camry
-Toyota Prius
-Toyota Prius C
-Toyota Corolla Altis (Auto)
-Toyota Vios รุ่นปรับปรุงโฉมปี 2553
-Toyota Yaris
-Toyota Avanza
-Toyota Innova
-Toyota Alphard
-Toyota GT86

ราย ละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่าย Toyota ทุกแห่ง หรือศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ที่ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โทร. 02-386-2000 หรือ 1800-238-444 หรือที่ www.toyota.co.th

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail @thairath.co.th">chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom


http://www.roddb.com/images/banners/RodDB_88x31.gif

การดูแลรักษาสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ

http://www.lazicondo.com/images/main/default/gallery/pic11.jpg

การ ดูแลรักษาทำความสะอาดสุขภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็น โถส้วมอ่างล้างมือ และอุปกรณ์สุข ภัณฑ์ต่างๆ ให้สะอาดถือเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อสุขอนามัยของทุกคนในครอบครัว เพราะ สุขภัณฑ์ต่างๆ เหล่านี้ เมื่อใช้ไปเรื่อยๆ จะเกิดปัญหาในการทำความสะอาดในภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาส้วมอุดตัน-เต็มเร็ว, ปัญหาน้ำซึมขอบอ่างอาบน้ำ ทำให้เกิดน้ำท่วม ขัง หรือปัญหารอยขีดข่วนบนพื้นผิวสุขภัณฑ์ซึ่งทำจาก PVC

อุปกรณ์ ต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นอุปกรณ์ที่ทำความสะอาดยาก ดังนั้นทางที่ดีที่สุดในการ ทำความสะอาด คือ การใช้อุปกรณ์อย่างถูกสุขลักษณะ เช่น ไม่เทน้ำสบู่หรือผงซักฟอก ลงไปในสุขภัณฑ์ เพราะจะไปฆ่าแบคทีเรียซึ่งเป็นตัวทำลายสิ่งปฏิกูล ทำให้สิ่งปฏิกูลไม่ สลายตัว และค้างจับแน่นอยู่ในโถสุขภัณฑ์ เกิดการอุดตัน ดังนั้น จึงควรหลีกเหลี่ยงการ นำวัสดุดังกล่าวทิ้งลงไปในสุขภัณฑ์

อีก สาเหตุหนึ่งที่ทำให้สุขภัณฑ์เกิดการอุดตัน และทำความสะอาดยากนั้นคือ สารเคมีที่ มีไขมันสูง น้ำมันพืช หรือเส้นผม ที่ทำให้สุขภัณฑ์โดยเฉพาะอ่างล้างหน้า อ่างล้างมือ เกิดการอุตตันสกปรกและทำความสะอาดยากเพราะไขมันเป็นตัวจับยึดสิ่งสกปรก ถ้า สุขภัณฑ์มีไขมันจับเกาะ การทำความสะอาดที่ดีที่สุด คือ หมุนคอห่านน้ำทิ้ง นำออกมา ล้างทุกๆ 1-3 เดือน

หาก พบปัญหาน้ำซึมขอบอ่างอาบน้ำ วิธีที่จะแก้ปัญหาได้คือ ใช้ปูนซีเมนต์ขาวยารอบ แนวขอบอ่าง หรือใช้ยางซิลิโคนอุดรอบแนวขอบที่รั่วซึม เช่นเดียวกับปัญหารอยขีดข่วน ที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวสุขภัณฑ์ที่ทำจากไฟเบอร์กลาสหรือที่เราเรียกว่า PVC ควรหลีกเลี่ยง การทำความสะอาดสุขภัณฑ์ประเภทนั้นๆ ด้วยแปรงลวดหรือใยลวด แล้วหันมาใช้ฟอง น้ำทำความสะอาดแทน เพียงแค่นี้การทำความสะอาดสุขภัณฑ์ภายในบ้านหรือ คอนโด คุณก็จะกลาย เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ในเวลาอันรวดเร็ว

วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556

MAZDA แถลงแผนงานปี 2556

Mazda เติบโตอย่างยั่งยืน เผยปีที่ผ่านมาฟันยอดขายพุ่งเกิน 70,000 คัน เติบโตพุ่ง 76%...
Mazda Sales Thailand Co,Ltd. เปิดแถลงข่าวกลยุทธ์ทิศทางการตลาดก้าวย่างครั้งสำคัญ รวมถึงแผนงานและยุทธศาสตร์สู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนของค่าย Zoom Zoom ในอนาคตพร้อมประกาศตัวเลขยอดขายรถยนต์ประจำปี 2555 ที่ผ่านมาสามารถทำลายทุกสถิติลงอย่างราบคาบ ทำยอดขายสูงสุดนับตั้งแต่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยมียอดขายทะลุเกือบ 74,000 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 76% ปีนี้คาดยอดขายเติบโตทะลุ 80,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10% โดยเฉพาะกลยุทธ์สร้างความแตกต่างด้านการตลาด เตรียมเปิดรถยนต์รุ่นใหม่และรุ่นพิเศษในทุกๆไตรมาส และความเป็นผู้นำด้านการออกแบบและเทคโนโลยี

นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Mazda Sales Thailand Co,Ltd. (มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด) กล่าว ว่าใน ปี 2555 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด มียอดขายรถยนต์ทุกรุ่นถึง 73,764 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 76% ในขณะที่ตลาดรถยนต์ในปีที่ผ่านมานั้นมีการเติบโตอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมา ก่อนเช่นเดียวกันมียอดขายรวมทั้งสิ้นสูงเกือบ 1,420,000 คัน หรือมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 79 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่สูงมาก สำหรับปี 2556 นี้ Mazda คาดการณ์ว่าสถานการณ์ตลาดรถยนต์ของประเทศไทยจะยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง แม้ว่าปัจจัยบวกจากโครงการรถยนต์คันแรกจะสิ้นสุดโครงการไปแล้วก็ตาม แต่ด้วยปริมาณยอดจองที่มีอยู่ในปริมาณมากจะส่งผลให้ตลาดรถยนต์ในไตรมาสแรก และไตรมาสที่สองจะยังคงมียอดการจำหน่ายที่สูงอยู่และในช่วงครึ่งปีหลังนั้น การแข่งขันจะเริ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าตลาดในปีนี้จะทะลุเกิน 1.2 ถึง 1.3 ล้านคัน “ที่สำคัญมาสด้าตั้งเป้าสำหรับการขายในปีนี้ไว้สูงถึง 80,000 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 10% โดยแบ่งสัดส่วนออกเป็นรถยนต์นั่ง 60% และรถเพื่อการพาณิชย์ 40% ซึ่งนับว่าเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับ Mazda ในประเทศไทยที่จะเข้าใกล้ตัวเลข 100,000 คัน

Mazda MX-5 Sport Roadster
Mazda MX-5 Sport Roadster
Mazda BT-50 PRO
Mazda BT-50 PRO
Mazda 3 2.0-1.6
Mazda 3 2.0-1.6
Mazda 2
Mazda 2
Mazda CX-9 Sport Crossover
Mazda CX-9 Sport Crossover

สำหรับ แนวโน้มและทิศทางการทำตลาดในปีนี้นอกจากการเปิดรถยนต์รุ่นใหม่ รถโฉมใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดแล้ว Mazda มุ่งเน้นไปที่ตัวผลิตภัณฑ์หรือโปรดักต์ ต้องสร้างความสดใหม่อยู่ตลอดเวลาด้วย รุ่นพิเศษหรือลิมิเต็ด อิดิชั่น ที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย และช่วยสร้างความชัดเจนในความเป็นแบรนด์ของ Mazda ได้อย่างแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ และที่สำคัญในปีนี้ลูกค้าจะได้สัมผัสนวัตกรรมการออกแบบและเทคโนโลยี แห่งอนาคต

สรุปยอดจำหน่ายรถยนต์ MAZDA เดือนมกราคม-ธันวาคม ปี พ.ศ. 2555 เปรียบเทียบกับ พ.ศ. 2554

Model


Mazda 2
3,930 4,160 - 6% 39,577 27,714 + 43%

Mazda 3
515 593 - 13% 5,727 5,476 + 5%

Mazda BT-50
3,254 96 + 3,290% 28,433 8,744 + 225%


Premium Car 3 6 - 50% 27 46 - 41%

ยอดรวม
7,702 4,855 + 59% 73,764 41,980 + 76%


ใน อีกไม่นานสิ่งที่สำคัญเหนืออื่นใดคือ การเอาใจใส่ดูแลลูกค้า การขยายเครือข่ายศูนย์บริการให้ลูกค้าสะดวกยิ่งขึ้นในการเข้าถึงและรองรับ ความต้องการทางด้านอะไหล่การพัฒนาและยกระดับการบริการหลังการขายให้มี มาตรฐานที่สูงในระดับเดียวกันทั่วประเทศ รวมทั้งคุณภาพของงานบริการและการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ในปี 2556 นี้ Mazda เตรียมแผนขยายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการเพิ่มขึ้นอีก 20 แห่ง ครอบคลุมทั้งในเขตกรุงเทพฯ และตามต่างจังหวัด โดยในปัจจุบันนี้ Mazda มีศูนย์จำหน่ายและบริการครอบคลุมทุกจังหวัดแล้ว และกำลังขยายไปยังอำเภอต่างๆ และบนถนนสายหลักสำคัญๆ ซึ่งจะทำให้ Mazda มีโชว์รูมเพิ่มขึ้นเป็น 165 แห่ง จากปีที่ผ่านมาสามารถขยายได้ถึง 145 แห่ง” นายโชอิชิ ยูกิ กล่าวเพิ่มเติม


สำหรับ ยอดขายรถยนต์ Mazda ในปี 2555 ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าตลาดเริ่มคึกคักมาตั้งแต่ช่วงต้นปี ภายหลังจากที่สถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลาย รวมทั้งการเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อป้อนเข้าตลาด ประกอบกับความต้องการรถยนต์ใหม่ของลูกค้าที่มีอยู่จำนวนมาก ท่วมกลางความร้อนแรงของตลาดผนวกกับการแข่งขันที่เข้มข้นของทุกค่ายรถยนต์ ที่ต่างต้องช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดให้ได้มากที่สุด แต่ Mazda ก็ยังสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดเอาไว้ได้ด้วยกลยุทธ์เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ และรุ่นปรับโฉมเข้าสู่ตลาด ทำให้สามารถคว้ายอดขายเพิ่มสูงขึ้นถึง 73,764 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 76% โดยแบ่งออกเป็นรถยนต์สปอร์ต Mazda 2 ซึ่งยังคงสามารถครองลูกค้าได้อย่างเหนียวแน่น มียอดขายสูงสุดถึง 39,577 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 43% ตามมาด้วยรถปิกอัพ Mazda BT-50 PRO ใหม่ มียอดขายสูงถึง 28,433 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 225% ส่วนรถยนต์นั่ง Mazda 3 ซึ่งมีจำหน่ายทั้งรุ่น 2.0 และเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร มียอดขายในตลาดคอมแพ็คคาร์ที่ค่อนข้างซบเซาถึง 5,727 คัน เติบโตขึ้น 5% พร้อมกันนี้ส่วนรถในกลุ่มพรีเมียมคาร์ ทั้ง Sport Roadster Mazda MX-5 และ Sport Crossover สุดหรู 7 ที่นั่ง Mazda CX-9 ยอดขายรวมทั้งสิ้น 27 คัน นอกจากนี้ยังมีในส่วนของยอดจองซื้อสะสมมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมาและปัจจุบันก็ ยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องจากทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้ค่าย Zoom Zoom กำลังเร่งเดินหน้าส่งมอบให้กับลูกค้าต่อไป


นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด
บริษัท Mazda Sales Thailand Co,ltd. กล่าว ว่า Mazda มองว่าตลาดรถยนต์ในปี 2556 นี้จะลดลงไม่มากหรือเต็มที่ก็ทรงตัว อาจจะต่ำลงกว่าปี 2555 แต่จะมียอดขายที่เติบโตกว่าปี 2554 แน่นอน โดยเฉพาะตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่จะหดตัวลงเนื่องจากปีที่ผ่านมาถือเป็นปี ทองของเซ็กเมนต์นี้ ส่วนตลาดรถปิกอัพคาดว่าจะยังคงมีการแข่งขันสูงกว่าปีที่แล้ว ที่สำคัญตลาดในแต่ละเซ็กเมนต์จะกลับมาเป็นการแข่งขันตามกลไกตลาดที่แท้จริง โดยเน้นไปที่ความแตกต่างของตัวสินค้าเป็นหลัก รวมถึงการแข่งขันด้านภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่บอกผ่านโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ ตรงส่วนนี้ในปีนี้จะต้องคึกคักแน่นอน ทุกคนก็จะลงมาใช้เม็ดเงินโฆษณามากขึ้น อัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายมากขึ้น โดยเฉพาะสื่อโฆษณาในรูปใหม่ๆ ที่คาดว่าปีนี้จะถูกจับตามองเป็นพิเศษ ทั้งกลุ่มเคเบิลทีวี กลุ่มสื่อออนไลน์ กลุ่มโซเชียลเน็ตเวิร์ก ตลอดจนสื่อหลักๆ ยังคงจะมีการใช้ควบคู่กันไป.


อาคม รวมสุววรณ
E-Mail @thairath.co.th">chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom


http://www.roddb.com/images/banners/RodDB_88x31.gif

ยกสวนเข้าบ้านกันเถอะ

วิถี ชีวิตของคนเมือง เช้าออกทำงานนอกบ้าน เย็นนั่งสังสรรค์ต่อกับเพื่อนฝูงกลับมาก็มืดค่ำ กว่าจะได้เวลาพักผ่อนก็ดึกเหลือเกิน โอกาสที่จะได้ชื่นชมกับธรรมชาติก็หายากเต็มที เมื่อเราไม่สามารถออกไปได้เราก็ขนธรรมชาติเข้ามาอยู่ในบ้านหรือ คอนโด เลยดีกว่าไหม?
ควรมีการ วางแผนเอาไว้ล่วงหน้าเสียก่อน ต้องแน่ใจว่าสภาพแวดล้อมภายในบ้านเหมาะกับต้นไม้ชนิดที่ต้องการหรือไม่ ถ้าจะปลูกต้นไม้เป็นครั้งแรก อาจเริ่มต้นโดยการซื้อต้นไม้ที่มีความทนทานต่อทุกสภาพอากาศก่อน แล้วจึงค่อยหาพันธุ์ไม้ที่เลี้ยงยากมาปลูกในภายหลัง

    การปลูกต้นไม้ภายในบ้านนั้นต้องไม่ลืมว่าต้นไม้ต้องการแสง น้ำ อากาศ อุณหภูมิ ความชื้นและอาหาร เช่นเดียวกับต้นไม้ที่อยู่นอกบ้าน เพราะฉะนั้นต้องรู้ถึงความต้องการของต้นไม้ชนิดนั้นว่าต้องการปัจจัยสำคัญใน การดำรงชีวิตมากน้อยแค่ไหน เพราะต้นไม้แต่ละต้นย่อมมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อาจถามมาจากผู้ขายโดยตรงก็ได้



ใช้ระแนงไม้สำเร็จรูปวางทับพื้นกระเบื้องธรรมดา เพื่อให้รู้สึกถึงสัมผัสธรรมชาติ



นำต้นไม้แขวนริมระเบียงและใส่ต้นไม้ในกรงนกสีสดใส เป็นการจัดวางที่ง่ายแต่ก็น่ารัก



เพ้นท์ ผนังห้องให้มีบรรยากาศธรรมชาติด้วยรูปต้นไม้ หรือดอกไม้ อาจใช้โทนสีพาสเทลเพื่อให้ห้องดูหวานและอบอุ่นในคราวเดียวกัน ช่วยสร้างอารมณ์โรแมนติกให้กับเจ้าของห้องและผู้มาเยือนได้ดี

ที่มา : Decorreport

วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2556

LEXUS LFA รถที่แพงที่สุดของญี่ปุ่น (ตอนที่2)

ย้อน กลับไปในปี 2004 หัวหน้าทีมวิศวกรของ Lexus Mr. Tanahashi ใช้ความพยายามในการที่จะสร้างรถซุปเปอร์คาร์ของญี่ปุ่นที่เทียบได้กับซุป เปอร์คาร์ของยุโรป
หลัง จากรับคำสั่งโดยตรงมาจากประธาน บริหาร Toyota ทีมพัฒนารถสปอร์ตต้นแบบได้ย้ายฐานการทดสอบไปที่สนาม Nurburgring ในเยอรมนี สำหรับค่ายผู้ผลิตรถยนต์แล้ว สนามทดสอบ Nordschleife ใน Nurburgring คือสถานที่ที่มีความเหมาะสมในการทดสอบประสิทธิภาพของตัวรถต้นแบบ นี่คือที่ๆ LFA คันต้นแบบจะถูกนำมาวิ่งทดสอบ สนามความยาว 20 กิโลเมตรแห่งนี้ เป็นที่รู้กันดีว่ามันคือสนามทดสอบที่มีความโหดร้ายและอันตรายแฝงอยู่ เป็นเวลาถึง 4 ปีเต็มกับการทำงานของทีมวิศวกรที่เกี่ยวข้องกับงานวิศวกรรมบนตัวรถ ทั้งจุดที่เป็นหลุม เป็นเนิน โค้ง และทางตรงยาวสุดสายตาที่มีอยู่นับไม่ถ้วนบน Nordschleife การพัฒนาของทีมวิศวกรผู้สร้าง LFA จะต้องทำให้เสร็จสิ้นก่อนเส้นตายที่ตัวรถจะถูกส่งลงสู่สายการผลิต ในปี 2008 รถต้นแบบ LFA จำนวน 2 คัน ถูกส่งลงไปทดสอบบนสนามแข่งแบบมาราธอน 24 ชั่วโมงใน Nurburgring ข้อมูลต่างๆ ของตัวรถขณะทำการแข่งขันถูกจดบันทึกแล้วนำตัวเลขของค่าต่างๆ ที่ได้รับมาปรับใช้กับรถ LFA ที่จะผลิตออกขาย การแข่งขันสุดโหดทำให้ Lexus สามารถพัฒนาตัวรถได้เป็นอย่างดี การทดสอบที่กระทำกันอย่างต่อเนื่องมาประสบผลสำเร็จในปี 2009 รถแข่ง LFA ที่ถูกปรับแต่งคว้าชัยชนะครั้งสำคัญ ในที่สุด Tanahashi ก็ประสบความสำเร็จตามที่ต้องการและในปี 2010 LFA คันแรกสุดก็ออกจากสายการผลิตของโรงงาน Lexus ในญี่ปุ่น

ปี 2011 รถ LFA รุ่นพิเศษถูกเปิดตัวภายใต้ชื่อ Nurburgring เพื่อเป็นเกียรติแก่สนามแห่งนี้ ซึ่งถือได้ว่าสนาม Nurburgring คือจุดกำเนิดของรถสปอร์ตสมรรถนะสูงคันนี้ รถ LFA Nurburgring มีเครื่องยนต์ V10 ที่ถูกปรับแต่งให้มีกำลังมากยิ่งขึ้น แรงม้าเพิ่มเป็น 571 แรงม้า พลังที่เพิ่มขึ้นนี้ต้องอาศัยแรงกดหรือ downforce มากยิ่งขึ้นเพื่อให้รถยึดเกาะกับผิวถนนได้ดีขึ้นกว่ารุ่นปกติ สปอยเลอร์หลังหรือวิงหลังขนาดใหญ่จึงถูกนำมาติดตั้ง ปีกที่ด้านหน้ากันชนซ้ายและขวาเข้ามาช่วยเพิ่มแรงกดให้มากขึ้นโช้คอัพที่ เตี้ยลงอีก 10 มิลลิเมตร (จากสปริงแบบพิเศษ) และมีค่าที่แข็งขึ้นกว่าปกติช่วยทำให้ LFA Nurburgring มีความเหมาะสมกับสนามแข่งความเร็วสูง เมื่อรถรุ่นพิเศษคันนี้มีแรงบิดเพิ่มขึ้นระบบส่งกำลังซึ่งเป็นเกียร์ไฟฟ้า จึงถูกปรับแต่งให้ดีขึ้นตามไปด้วย การปรับแต่งเพื่อลดระยะเวลาในการเปลี่ยนถ่ายอัตราทดขึ้น-ลงให้เหลือน้อย ที่สุด ชุดเกียร์ของ LFA Nurburgring มีการทำงานที่ว่องไวมาก การผลิตรุ่น Nurburgring เพียงแค่ 50 คันเท่านั้น แต่ละคันมีราคาสูงกว่า LFA รุ่นมาตรฐาน 70,000 เหรียญ


เบาะ หนังในรุ่นมาตรฐานถูกยกออกไปแล้วแทนที่ด้วยเบาะแข่งของ Recaro ยาง Bridgestone Potenza RE070 มีขนาดใหญ่ขึ้นและถูกออกแบบมาสำหรับลงทำการแข่งขัน ความสูงของช่วงล่างลดลง 10 มิลลิเมตรจากโช้คอัพเดิมและสปริงแบบใหม่ แผ่นสปลิตเตอร์ที่ใหญ่ขึ้นและปีกเล็กที่ด้านข้างของกันชนหน้าที่เรียกว่า Canard ทำจากคาร์บอน ทั้งหมดทำให้น้ำหนักตัวของ LFA Nurburgring ลดลงอีก 10 กิโลกรัม เกียร์เปลี่ยนได้เร็วขึ้นจาก 0.20 วินาที มาเป็น 0.15 วินาที เร็วพอๆ กันกับเกียร์ของ Ferrari FF


การ นำเอาวัสดุผสมประเภทเส้นใยคาร์บอน และอะลูมิเนียมมาใช้ถือเป็นเรื่องปกติที่วงการซุปเปอร์คาร์นิยมนำมาประกอบ ขึ้นเป็นตัวรถโดยมุ่งเน้นไปที่การลดน้ำหนัก แต่มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น ตัวถังของ Lexus LFA มีความเบามากกว่าทั้ง Aston Martin DBS และ Ferrari 599 ซึ่งรถสปอร์ตจากฝั่งยุโรปทั้งสองค่ายใช้อะลูมิเนียมมาทำเป็นโครงรถ แต่ Lexus LFA ใช้ทั้งคาร์บอนคอมโพสิตและอัลลอยส่วนผสมพิเศษมาขึ้นรูปเป็นแซสซี โครงสร้างตัวถังและชิ้นส่วนต่างๆ มากถึง 65% จากน้ำหนักของตัวรถ โดยมีอัตราการกระจายน้ำหนักที่เกิดจากการวิเคราะห์ในสนามแข่งขันจนมีค่าที่ เหนือกว่าทั้ง Porsche 911/997 Turbo และ Ferrari 599 GTB จากข้อมูลในการประมวลผลที่ได้รับในการวิ่งทดสอบในสนามแข่งรถของเยอรมนี ที่ Nurburgring ระบบแอร์โร่ไดนามิกที่เกิดจากการทดสอบทางอากาศพลศาสตร์ของ Lexus LFA เกิดขึ้นจากความคิดที่เรียบง่ายด้วยการทำให้อากาศไหลผ่านบริเวณใต้ท้องรถ เคลื่อนที่ได้เร็วกว่าอากาศที่ไหลผ่านตัวถังด้านบนด้วยการใช้หลักการ "ล่างไหลเร็วกว่าบน" ผลที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือแรงกดหรือค่า Down force ที่สูงขึ้นเมื่อวิ่งด้วยความเร็ว ซีลปิดใต้ท้องเพื่อลดกระแสหมุนวนของอากาศช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความเสถียร ให้กับ Lexus LFA อย่างสูงสุดเมื่อมันเริ่มต้นทำความเร็ว


อากาศ ที่ไหลผ่านตัวถังด้านบนทั้งหมด ถูกทำให้เคลื่อนที่ช้าลงเพื่อนำมาสู่แรงกดของตัวรถ ซึ่งเป็นหน้าที่ของครีบและท่อดักอากาศที่ทำเป็นพอร์ตอยู่ในบริเวณทั่วทั้ง คัน เช่น สปอยเลอร์หน้าขนาดใหญ่และมีช่องทางนำอากาศเข้าถึงสามช่อง ช่องตรงกลางที่มีขนาดใหญ่สุดใช้ในการนำเอาอากาศเข้าไประบายความร้อนให้กับ เครื่องยนต์และนำส่วนหนึ่งไปที่ท่อไอดี ส่วนสองช่องทางด้านซ้ายและขวาทำหน้าที่ระบายความร้อนให้กับ Oil Cooler ของระบบหล่อลื่นแบบ Dry Sump และเป่าลมเย็นให้กับจานดิสแบบคาร์บอนเซรามิก ชายล่างของประตูและมุมขอบเสาหลังมีปล่องดักอากาศที่ใช้ทั้งการเพิ่มแรงกด และการระบายความร้อนให้กับชุดเบรกหลังและหม้อน้ำที่อยู่ในตำแหน่งประหลาดที่ สุด (หม้อน้ำทั้งคู่อยู่หลังซุ้มล้อหลัง) วิงหลังอัตโนมัตที่มีการทำงานร่วมกันระหว่างมอเตอร์ขนาดจิ๋วและตัวตรวจจับ สปีดของรถ ในสภาวะการวิ่งปกติที่ใช้ความเร็วต่ำ วิงหลังหรือ Active Rear Wing ของ Lexus LFA ในรุ่นปกติจะถูกพับเก็บอยู่บนขอบของฝาท้าย และจะทำงานด้วยการยกตัวขึ้นทันทีที่ความเร็วเกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมการทำงานในระบบอัตโนมัติด้วยการแปรผันองศาของ Wingไปตามความเร็วของตัวรถเพื่อเพิ่มหรือลดค่าแรงกดของอากาศด้วยการใช้ งานอย่างสูงสุดในทุกย่านความเร็ว ส่วนวิงหลังของรุ่นพิเศษ LFA Nurburgring ซึ่งทำจากคาร์บอนคอมโพสิต จะถูกยึดติดตายกับฝาท้ายแบบของรถแข่ง


เครื่อง ยนต์ วางด้านหน้าตามยาว V10 สูบขนาด 4.8 ลิตร 4,805 ซีซี. ตำแหน่งของเครื่องยนต์ถูกร่นให้เข้าหากึ่งกลางของตัวรถมากที่สุดเพื่อการ กระจายน้ำหนักที่ดี เครื่องตัวนี้ทำตัวเลียนแบบเครื่องยนต์ V10 ของรถแข่ง F1 โดยไม่มีระบบอัดอากาศใดๆ ทั้งสิ้น เครื่องยนต์จะหายใจด้วยตัวเองโดยนำเทคโนโลยีที่ใช้ในรถแข่ง F1 ของทีม Toyota เข้ามาผนวกกับการออกแบบชิ้นส่วนทั้งภายนอกและภายในตัวเครื่อง รวมถึงระบบนำอากาศเข้าสู่ไอดี แคมชาร์ป วาวล์ไอดีระบบแปรผันแบบใหม่ล่าสุดทั้งสองฝั่ง Dual VVT-i และระบบระบายความร้อนที่ใช้หม้อน้ำสองใบที่ติดตั้งอยู่ใกล้กับซุ้มล้อหลัง ระบายพร้อมกันทั้งสองฝั่ง ต้นกำลังของ LFA สร้างแรงม้าได้ถึง 552 ตัวพร้อมแรงบิดทะลุมิติที่ 354 ปอนด์ฟุตหรือ 480 นิวตันเมตร แต่แรงบิดของมันยังคงด้อยกว่า Ferrari California อยู่เล็กน้อยทั้งที่ความจุของเครื่องยนต์วี 8 ใน Ferrari California ต่ำกว่า Lexus LFA อยู่ถึง 300 ซีซี. ระบบส่งกำลังเกิดจากเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ASG ที่สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ขึ้น-ลงได้ในเวลาเพียง 0.2 วินาที (ในรุ่น Nurburgring เกียร์จะเปลี่ยนไวขึ้นที่ 0.15 วินาที) เกียร์ทั้งยวงถูกนำไปรวมอยู่กับชุดเฟืองท้ายเหมือนกับ Aston Martin DBS โดยมีเพลากลางคาร์บอนเชื่อมต่อกับเครื่องยนต์ที่ด้านหน้าเพื่อเหตุผลของการ เฉลี่ยและลดน้ำหนักให้มีความสมดุลทั่วทั้งคัน หม้อน้ำอะลูมิเนียมทั้งสองใบมีพัดลมไฟฟ้าขนาดใหญ่เมื่อบวกกับดีไซน์ประหลาด ใน การนำมันมาไว้ด้านหลังเนื่องจากการใช้ประโยชน์ของพื้นที่โครงสร้าง และการนำเอาอากาศความเร็วสูงท่ี่ไหลมายังส่วนบนช่วยระบายความร้อน ในขณะเดียวกัน ท่อเพื่อปลดปล่อยกระแสลมให้ออกไปทางด้านหลังสามารถถ่ายเทลมได้อย่างไร้ขีด จำกัด น้ำหนักรวมทั้งคันประมาณ 1,580 กิโลกรัม ตามระดับของการตกแต่งที่สามารถเลือกออปชั่นระบบอำนวยความสะดวกได้อีกเพียบ โครงสร้างรอบห้องโดยสารประกอบขึ้นจากวัสดุ CFRP หรือ Carbon Fiber Re-Inforced Plastic โดยนำเส้นใยเหล่านั้นมาถักทอขึ้นเป็นรูปทรงของชิ้นส่วนตามต้องการ มีคุณสมบัติในการรับแรงไม่แตกต่างไปจากเหล็กกล้า จากนั้นจึงนำเอาชิ้นส่วนที่ขึ้นรูปมาเชื่อมต่อกันเป็นโครงรถด้วยการประกอบ ด้วยมือของช่างแทนที่การประกอบด้วยหุ่นยนต์เพื่อความละเอียดและแม่นยำประณีต สูงสุด


พวง มาลัยที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าถูกนำเข้ามาติดตั้งในรถทดสอบ และสามารถทำได้ตามค่าที่วิศวกรของ Toyota ตั้งไว้ Lexus LFA จึงใช้มันแทนพวงมาลัยพาวเวอร์ที่ใช้ระบบน้ำมันไฮดรอลิกแรงดันสูง เนื่องจากปัญหาของการกินกำลังจากเครื่องยนต์และชิ้นส่วนต่อเชื่อมที่มากกว่า พวงมาลัยแบบไฟฟ้า การทำงานของพวงมาลัยไฟฟ้าในรถ LFA แบบอัตราทดคงที่สื่อสารกับผู้ขับได้ในระดับที่ดีสามารถถ่ายทอดความรู้สึกและ สัมผัสจากผิวถนนได้ดีกว่า เนื่องจากมันมีระบบช่วยทรงตัว ESP ที่จะทำงานในระดับสูงสุดทุกครั้งที่ตัวรถเสียอาการ ทำให้พวงมาลัยพาวเวอร์แบบเก่าหมดความหมายไปโดยปริยาย ส่วนระบบกันสะเทือน ด้านหน้าของ Lexus LFA ใช้แบบดับเบิ้ลวิชโบนพร้อมเหล็กกันโคลงที่มีการปรับตั้งให้ทำงานประสานไปกับ พวงมาลัยไฟฟ้าได้ดี ส่วนด้านหลังจะใช้แบบมัลติลิงก์ โดยชิ้นส่วนของช่วงล่างจำนวนมากใน Lexus LFA จะทำจากอะลูมิเนียมและสามารถปรับตั้งได้ถึงสามระดับ

งาน ประกอบที่เน้นความละเอียดประณีตในระดับสูงสุดทำให้เกิดความล้าช้าแต่ไม่ใด้ ก่อปัญหาใดๆ ในขั้นตอนของการทำงาน หัวหน้าวิศวกรของ Lexus Mr. Yamanaka อบรมพนักงานและช่างทุกคนให้ทำงานช้าๆ ด้วยความระมัดระวังโดยคำนึงถึงความแม่นยำเป็นหลัก เนื่องจากพนักงานทุกคนในโรงงานแห่งนี้กำลังประกอบจักรกลที่มีคุณภาพ และเพื่อเป็นการรับประกันคุณภาพของงานที่ออกมาจึงจำเป้นต้องใช้เวลามากกว่า ปกติซึ่งหมายถึงการทำงานล่วงเวลาเพื่อให้สายการผลิตเป็นไปตามที่ผู้บริหาร กำหนดคือรถ LFA หนึ่งคันต่อหนึ่งวันที่จะต้องวิ่งออกจากโรงงานไปยังบ้านของลูกค้า การผลิตออกมาเพียงแค่ 500 คันทำให้รถ Lexus LFA ต้องยุติสายการผลิตลงเมื่อครบสองปี และทำให้มันกลายเป็นรถที่มีความพิเศษมาก ผู้บริหารของค่ายหัวลูกศรไม่มีแผนที่จะผลิตเพิ่ม ราคาของ LFA อยู่ที่ 375,000 เหรียญยูเอส หรือคิดเป็นราคารวมภาษีของประเทศไทยจะอยู่ที่ประมาณ 53 ล้านบาท เป็นเรื่องที่ยากมากหากคิดจะหากำไรจากการผลิตในรูปแบบลิมิเต็ดอิดิชั่นเพียง แค่ 500 คัน ซุปเปอร์คาร์ LFA ถือเป็นรถถนนที่แพงที่สุดของญี่ปุ่น แม้จะมีราคาแพงระยับแต่เมื่อคิดต้นทุนของการวิจัย พัฒนาและสร้างขึ้นมาทั้งคันแล้ว งานนี้ขอบอกว่า Lexus ขาดทุนย่อยยับแบบตำน้ำพริกละลายแม่น้ำกันเลยทีเดียว แต่การผลิต LFA ออกมาได้ยกระดับแบรนด์ Lexus ให้เป็นที่ยอมรับทั่วโลก ตำนานของ LFA จะทำให้ลูกค้าพึงพอใจอย่างมากกับรถทุกคันของ Lexus ที่ผลิตออกขาย

Lexus LFA Specifications
แบบ.............................................. สปอร์ตสองประตูสองที่นั่ง
ลักษณะการวางเครื่องยนต์.............. เครื่องยนต์วางด้านหน้าทำมุม 70 องศา ขับเคลื่อนล้อหลัง
เครื่องยนต์....................................V10 สูบ 40 วาวล์ 4วาว์ลต่อสูบ ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮตแคม
ปริมาตรความ จุ..............................4,805 ซีซี.
แรงม้า สูงสุด..................................552 แรงม้าที่ 8800 รอบต่อนาที
แรงบิด สูงสุด..................................480 นิวตันเมตรที่ 6800 รอบต่อนาที
ปริมาณแรงม้าต่อลิตร......................114.6 แรงม้า/ลิตร
อัตราส่วน กำลังอัด..........................12:0:1
ระบบจ่ายเชื้อ เพลิง..........................หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์
ฝา สูบ/ลูกสูบ..................................อะลูมินัมอัลลอย
อัตราเร่ง........................................0-100 กิโลเมตรใน 3.8 วินาที
ความเร็ว สูงสุด...............................325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ระบบส่ง กำลัง................................เกียร์เซมิออโต้ ASG 6 สปีด

ระบบ กันสะเทือน
ด้านหน้า.......................................ดับเบิ้ลวิช โบน คอยสปริง เหล็กกันโคลง
ด้าน หลัง.......................................มัลติลิงก์ คอยสปริง เหล็กกันโคลง
ล้อและยาง
ด้าน หน้า.......................................265/35/ZR 20 95Y Bridgestone RE070
ด้านหลัง.......................................305/30/ZR20 99Y Bridgestone RE070

ระบบเบรก
ด้านหน้า.......................................จานดิสเบรกคาร์บอน 390 มิลลิเมตร คาร์ลิปเปอร์ 6 สไลส์ลูกสูบ
ด้านหลัง.......................................จานดิสเบรกผสม 360 มิลลิเมตร คาร์ลิปเปอร์ 4 สไลส์ลูกสูบ

มิติตัวถัง
ความกว้าง....................................1,895 มิลลิเมตร
ความยาว......................................4,505 มิลลิเมตร
ความสูง........................................1,220 มิลลิเมตร
น้ำหนัก.........................................1,480.73 กิโลกรัม
จำนวนการผลิต..............................500 คัน
ราคา............................................. ประมาณ 53 ล้านบาท

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail @thairath.co.th">chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom


http://www.roddb.com/images/banners/RodDB_88x31.gif