วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ค่ายรถลดราคาอะไหล่-ค่าแรง แบ่งเบาภาระลูกค้าน้ำท่วม

อุทกภัยครั้งนี้หนักหนาสาหัสนัก บรรดาค่ายรถยนต์ต่างได้รับผลกระทบ บางแห่งต้องหยุดผลิตชั่วคราว แม้จะได้รับความเดือดร้อนแต่ไม่ลืมนึกถึงลูกค้า บริษัทรถยนต์เกือบทุกยี่ห้อต่างออกแคมเปญช่วยเหลือเพื่อแบ่งเบาภาระให้ โดย สาโรช เกียรติเฟื่องฟู รองประธานฝ่ายการตลาด การขาย และการบริการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า ให้ส่วนลดค่าอะไหล่ 30% ถึง 15 พ.ย. ลูกค้าสามารถสอบถามได้ที่ศูนย์บริการฟอร์ดทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฟอร์ด คอลเซ็นเตอร์ โทร. 0-2686-5899 หรือ โทร.18-0029-3333 ต่างจังหวัดโทรฯ ฟรี
http://www.dailynews.co.th/content/images/1111/06/newspaper/p19thurl1.jpg
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) ช่วยผู้ประสบอุทกภัยด้วยการลดราคาอะไหล่ทุกรายการ 30% และยังส่งผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ ดูแลรถลูกค้าที่ได้รับความเสียหายหนักด้วย โดยประสานงานให้ตัวแทนจำหน่ายเตรียมพร้อมในการตรวจเช็กสภาพรถลูกค้าหลังน้ำ ลดฟรี ถึง 31 ธ.ค.บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ให้ส่วนลดค่าอะไหล่ 30% ลดค่าแรง 10% ถึงสิ้นเดือน ธ.ค. ทางด้าน บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) แจ้งว่าร่วมกับผู้แทนจำหน่ายให้ส่วนลดค่าอะไหล่ 30% บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ลดราคาอะไหล่และค่าแรง 20% ให้กับลูกค้ารถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมถึงสิ้นปีนี้

สฤษฎ์พร สกลรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาดและวางแผนผลิตภัณฑ์ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) กล่าวว่า ฮุนไดจัดแคมเปญให้ส่วนลดค่าอะไหล่ทุกรายการสูงสุดถึง 35% ยกเว้นน้ำมันหล่อลื่นและของเหลวทุกชนิด และส่วนลดค่าแรงสูงสุด 50% ให้ลูกค้าที่ใช้รถยนต์ฮุนได สำหรับรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม สามารถนำรถยนต์เข้ามารับบริการได้ที่ศูนย์บริการฮุนไดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้จนถึงเดือน ธ.ค. นี้

บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ให้ส่วนลดพิเศษสำหรับค่าอะไหล่ อีซูซุ 30% และค่าแรง 15% นอกจากนี้ อีซูซุยังได้จัดตั้งโครงการอีซูซุร่วมใจ บรรเทาภัยน้ำท่วม ด้วยการระดมทีมช่างซ่อมและวิศวกรลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือลูกค้าอีซูซุใน จังหวัดต่าง ๆ เพื่อเป็นการฟื้นฟูรถของผู้ประสบภัย โดยได้ประสานงานไปยังศูนย์บริการอีซูซุทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมในการให้บริการ

สำหรับข้อปฏิบัติในการบำรุงรักษารถยนต์หลังน้ำลดผู้ประสบภัยควรรีบนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบและเช็กระบบทั้งหมดทันที ดังนี้

• ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง ถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงออกจากถังให้หมด แล้วเปิดฝาไว้เพื่อไล่ความชื้น แล้วจึงเติมน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่เข้าไปแทน, เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันใหม่, หากมีน้ำเข้าไปเต็มกรองดักน้ำและปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง ต้องถอดปั๊มและหัวฉีดออกเพื่อทำความสะอาด และปรับตั้งปริมาณการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่

• เครื่องยนต์ ถ้ามีน้ำเข้าไปปนกับน้ำมันเครื่อง ต้องถ่ายน้ำมันเครื่องทิ้งให้หมดและเติมน้ำยาทำความสะอาดเข้าไป แล้วจึงติดเครื่องยนต์เดินเบาประมาณ 5 นาที จึงถ่ายน้ำยาออกพร้อมทั้งเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องใหม่ จากนั้นจึงเติมน้ำมันเครื่องใหม่ตามที่คู่มือกำหนด, ทำความสะอาดหรือเปลี่ยนไส้กรองอากาศใหม่, ไล่น้ำที่ขังอยู่ที่หัวลูกสูบออกทางช่องหัวฉีดสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล หรือ ช่องหัวเทียนสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน, หยอดน้ำมันเครื่องประมาณ 20 ซีซีในช่องหัวฉีด (ดีเซล) หรือช่องหัวเทียน (เบนซิน) จากนั้นหมุนเครื่องยนต์หลาย ๆ รอบจนกว่าจะมีน้ำมันขึ้นไปเลี้ยงฝาสูบเพียงพอ

• ตัวถังรถยนต์ ควรนำรถตากแดดเพื่อไล่ความชื้น ส่วนบริเวณภายในรถให้ใช้กระจกเงาสะท้อนแดดเข้าไปหรือใช้ไฟสปอตไลต์ส่อง, ควรเปิดประตูทุกบาน ฝากระโปรงหน้า-หลัง ให้กว้างที่สุดเพื่อให้ลมผ่านหรือใช้พัดลมเป่าแทน, ถอดผ้าปูพื้นล้างแล้วเช็ดทำความสะอาดจากนั้นนำไปตากแดดให้แห้ง

• แบตเตอรี่ ถ้าถูกน้ำท่วมต้องเปลี่ยนน้ำยาแบตเตอรี่ใหม่ โดยเทน้ำยาเก่าออกให้หมด ใส่น้ำกลั่นให้เต็มทุกช่องแล้วเทน้ำกลั่นทิ้งเพื่อทำความสะอาดภายใน แบตเตอรี่ จากนั้นเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับสูงสุด และนำไปชาร์จ

• อุปกรณ์ไฟฟ้า ตรวจดูอุปกรณ์ไฟฟ้า ถ้ามีน้ำขังให้ถอดออกเทน้ำทิ้ง ทำความสะอาดแล้วนำไปตากแดดหรือใช้เครื่องเป่าผมเป่าเพื่อไล่ความชื้น, ถอดมอเตอร์สตาร์ตและไดชาร์จออกทำความสะอาดแล้วทาจาระบีหล่อลื่นที่บุช ร่องเฟือง และจุดหมุนต่าง ๆ, เช็ดทำความสะอาดขั้วเสียบสายไฟต่าง ๆ เพื่อไล่ความชื้น

• อุปกรณ์เกียร์และเฟือง ถ่ายน้ำมันที่อยู่ในเกียร์ เฟืองท้าย กระปุกพวงมาลัยออกให้หมด แล้วล้างทำความสะอาดด้วยน้ำมันก๊าด และเติมน้ำมันตามที่คู่มือกำหนดเข้าไปใหม่

• อุปกรณ์ระบบเบรก ถอดเบรกที่ล้อออกทำความสะอาดชิ้นส่วนต่าง ๆ ถอดยางกันฝุ่นของกระบอกเบรกออกมาเป่าลม ทั้งลูกยางและผนังกระบอกเบรกจนแห้ง ทาจาระบีที่ผนังกระบอกเบรกแล้วจึงใส่ลูกยางกันฝุ่นกลับเข้าไป นำผ้าเบรกตากแดดให้แห้ง หล่อลื่นชิ้นส่วนด้วยจาระบี สำหรับสายเบรกมือให้ใช้น้ำมันเครื่องหล่อลื่นภายในสายจนคล่องตัว.

เนตรนภางค์ บุญนายืน
dailynews

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น