นี่คือรถที่ยังคงถูกเขียนถึงอย่างต่อเนื่องและถูกทดสอบจากสื่อมวลชนหลาก สำนักทั้งไทยและเทศ ถึงแม้มันจะออกขายมานานเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ความยอดเยี่ยมของประสิทธิภาพภายใต้เครื่องหมายใบพัดสีฟ้า-ขาวยังคงตรา ตรึงนักขับทุกคน การมาถึงของ Series 5 F10 โมเดลที่ 7 ของยนตกรรมในตระกูล Series 5 แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ไปตามยุคสมัยที่มีความก้าวกระโดดของ เทคโนโลยีในโลกยานยนต์ มันคืออาวุธสำคัญที่บริษัท BMW มีไว้เพื่อต่อกรกับคู่แข่งร่วมสัญชาติอย่าง Mercedes Benz E-Class Model และอีกไม่นานนับต่อจากนี้ รุ่นสูงสุดภายใต้สัญลักษณ์ M จะตามออกมา เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์ของโมเดลยอดนิยมที่อยู่ตรงกลางระหว่างรถซีดาน หรูหราราคาแพงที่มีแรงม้ามากที่สุดคันหนึ่งในโลกยนตกรรม
Series F10 มีเครื่องยนต์ให้เลือกอย่างจุใจ โดยเริ่มตั้งแต่เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 กระบอกสูบ 2.0 ลิตร รหัส 520d (คันทดสอบ) ที่ให้กำลังมากกว่ารุ่นที่แล้ว (E60-520d) ถึง 4 % แรงบิดเพิ่มขึ้น 7% ที่ 380 นิวตันเมตรบนย่านรอบเครื่องยนต์ประมาณ 1,900 รอบต่อนาที ประหยัดเชื้อเพลิงขึ้นอีก 8% ตามมาด้วยรุ่น 523i Highline / 525i เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 6 กระบอกสูบที่มาพร้อมกับเกียร์ ZF 8 อัตราทดเป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงาน 525d เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร รวมถึงพวกตัวประกอบนอกสุดแรงอย่าง 528i / 530d แยกย่อยไปตามปริมาตรความจุของเครื่องยนต์ ซึ่งทั้งหมดมีสมรรถนะในระดับสูงสุดทั้งระบบส่งกำลัง ระบบรองรับ และงานประกอบภายในที่ไม่เคยเป็นรองค่ายใด
เทคโนโลยี EfficientDynamics ของค่ายใบพัดเข้ามาช่วยต่อเติมการอนุรักษ์พลังงานและทำให้การปล่อยมลภาวะสู่ ภายนอกลดลง แรงบิดเพิ่มขึ้นแต่กินเชื้อเพลิงและปล่อย Co2 ต่ำลง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการก้าวเดินต่อไปในอนาคตของค่ายรถยนต์จาก เยอรมันเจ้านี้ รูปลักษณ์ที่ลงตัวมากขึ้นถึงแม้จะมีเค้าโครงของ Series 3 E90 แฝงอยู่บ้างในบางจุด แต่มีการเติมเต็มในสิ่งที่รุ่นที่แล้วไม่มีหรือขาดหายไป กระจังหน้าไตคู่ขนาดใหญ่ขึ้น ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ไบซีนอนอยู่ภายใต้กรอบโพลิเมอร์ใสแจ๋วกับความงดงามของ แสงเงายามตกกระทบไปบนฝากระโปรงหน้าอลูมิเนียม ที่ใช้เส้นนูนและร่องรูปตัววีตรงกลางสัญลักษณ์โลโก้ใบพัด สอดรับกับความโค้งของเสาหน้าได้อย่างลงตัวและสมบูรณ์แบบ บนงานดีไซน์อันไร้ที่ติของ Adrian Van Hooydonk ผอ. ฝ่ายออกแบบของ BMW ผู้เข้ามาสานต่อเจตนารมณ์ของ Chris Bangle
ด้าน ข้างตัวถังที่บึกบึนมีความยาวเกือบเท่า Series 7 โมเดลปัจจุบัน คือความจงใจที่ BMW ต้องการทำออกมาให้มันมีขนาดที่ใหญ่กว่า Series 5 E60 รุ่นที่แล้ว ถึงจะยาวกว่าแต่ Series 5 F10 520d กลับดูปราดเปรียวมากขึ้นไปอีกระดับจากความโค้งของเสา A ไปจนจรดเสา C (เสาท้าย) เสริมมุมมองด้วยชิ้นงานอัลลอยที่ขอบกระจกบานประตูทั้ง 4 บาน เส้นกลางตัวถังด้านข้างที่ลากจากไฟเลี้ยวที่แก้มข้างด้านหน้าไปจนถึงไฟท้าย ผ่านมือจับประตูเหนือซุ้มล้อขนาดใหญ่ ช่วยทำให้มิติมุมมองของมันโดดเด่นจนเหนือกว่ารถคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด เจ้าของรถจะพบว่าการเฝ้ามองรถ F10 ทั้งในเวลาที่มันจอดอยู่กับที่หรือกำลังขับเคลื่อน คือความสุขแบบหนึ่งของแฟนคลับ BMW อย่างแท้จริง
BMW Series 5 F10 ทุกคันมีโครงสร้างบางส่วนทำจากอลูมิเนียม เช่น ฝากระโปรงหน้า แก้มหน้า-หลัง ประตูทั้ง 4 บานที่ผลิตจากอลูมิเนียมยังช่วยลดน้ำหนักได้ถึง 23 กิโลกรัม แต่น้ำหนักตัวกลับเพิ่มขึ้นกว่ารุ่นที่แล้ว 50 กิโลกรัมจากขนาดที่ใหญ่ขึ้นจนตัวโตเกือบเท่า Series 7 ช่วงล่างปีกนกคู่อัลลอยแทนที่ของเดิมแบบสตรัท พวงมาลัยไฟฟ้าปรับอัตราทดมาอย่างลงตัวในทุกย่านความเร็ว และมีความแม่นยำไม่น้อยหน้าพวงมาลัยเพาเวอร์สายพาน ช่วยลดภารกรรมของเครื่องยนต์อีก 5% ผู้ขับสามารถเชื่อมโยงการขับขี่ให้ประสานไปกับสภาพของเส้นทางด้วยระบบปรับ ตั้งช่วงล่างแบบ DynamicDrive ที่มีโหมดให้เลือก 4 รูปแบบ ตั้งแต่ Comfort ไปจนถึง Sport Plus (ออฟชั่นเสริมพิเศษ) ให้ความรู้สึกในการเลี้ยวและควบคุมตัวรถที่เฉียบคม โครงสร้างภายในของแซสซีส์เป็นเหล็กเหนียวพิเศษที่เพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นอีก 55% ส่งผลไปถึงการขับขี่ที่ให้ความรู้สึกหนักแน่นมั่นคงเมื่อต้องพุ่งทะยานไปตาม แรงกดของคันเร่งไฟฟ้าแบบ Drive By Wire ที่ผ่านการพัฒนาให้ตอบสนองต่อการกดของฝ่าเท้าได้อย่างแม่นยำทุกองศาที่ผู้ ขับถ่ายทอดน้ำหนักลงไปที่คันเร่ง
Cockpit ของ Series 5 F10 คือ สุดยอดแห่งห้องโดยสารในยุคใหม่อย่างแท้จริง มีทุกอย่างเท่าที่รถยนต์ราคาเกือบ 3.7 ล้านบาทพึงมี ระบบ iDrive ของ BMW ในรุ่นแรกๆที่ติดตั้งในรถ Series 7 เคยถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าใช้งานได้ค่อนข้างยากลำบากจากความสลับซับซ้อนของ โปรแกรมการเข้าโหมด ปัญหาดังกล่าวจึงถูกแก้ไขให้ดีขึ้นในรถ Series 5 F10 ซึ่งทำให้การเข้าสู่โหมดต่างๆ มีความง่ายและรวดเร็ว ห้องโดยสารของ F10 ประกอบไปด้วยลายไม้สีเข้มคุณภาพสูง เบาะทุกตำแหน่งนั่งได้อย่างสบายและให้ความกระชับ ห่อหุ้มด้วยงานตัดเย็บสุดประณีตที่ทำให้หนังแท้สามารถเข้ากับโครงเบาะ ปุ่ม สวิตช์ควบคุมเรียงรายในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดและใช้งานได้สะดวก จอแสดงผลของระบบ iDrive ดูดีขึ้น ถึงแม้จะมีขนาดเล็กกว่ารุ่นที่สูงกว่านี้ก็ยังมองเห็นได้อย่างชัดเจน พื้นที่เหนือศีรษะกว้างขวาง ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึงพื้นที่วางเท้าก็ยังเพิ่มขึ้นจากการออกแบบ เสา A ที่บอบบางยังช่วยทำให้ทัศนวิสัยมุมมองของกระจกบานหน้ากว้างไกลขึ้น เบาะปรับไฟฟ้าแบบบันทึกตำแหน่งยังช่วยอำนวยความสะดวกในการปรับตั้งที่รวด เร็ว ทั้งหมดทั้งปวงภายในห้องโดยสารของ Series 5 F10 คือ ความสมบูรณ์แบบภายใต้ความหรูหราระดับพรีเมี่ยม เชื่อมโยงการขับขี่โดยใช้ตำแหน่งคนขับเป็นจุดศูนย์กลาง บ่งบอกให้รู้ว่าคือรถยนต์ที่ทำออกมาสำหรับเจ้าของรถเอาไว้ขับเองมากกว่าจะ ใช้คนขับรถอย่างแท้จริง
แผง ประตูทั้งสี่บานของ 520d คันทดสอบ ใช้หนังแท้ห่อหุ้ม มือจับประตูภายในเป็นชิ้นงานอัลลอยกลึงให้ผิวสัมผัสในการจับต้องในระดับสูง สุด แผงประตูยังมีไฟส่องสว่างกับไฟสีส้ม ซึ่งจะติดเองโดยอัตโนมัติเมื่อเปิดประตูในตอนกลางคืน งานเย็บหนังหุ้มแผงประตูและเบาะใช้การเย็บแบบตะเข็บคู่ เพื่อความสวยงามประณีตและคงทน จอมัลติฟังก์ชั่นของระบบ iDrive มีขนาดเล็กลงเมื่อเทียบกับ F10 รุ่นอื่นๆที่มีเครื่องยนต์ความจุมากกว่า ซุ้มเกียร์และปุ่ม Control iDrive ถูกจัดวางไว้ใกล้ๆกัน โดยยังคงมีรูปแบบของหัวเกียร์และสวิตช์ iDrive คล้ายกับรุ่น E60 ตำแหน่งของเบาะหลังมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับผู้ใหญ่รูปร่างปกติถึง 3 คน พร้อมด้วยช่องแอร์ให้ความเย็นสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
BMW Series 5 F10 520d คันนี้ วางเครื่องยนต์เจนเนอร์เรชั่นล่าสุด เป็นเครื่องดีเซลแถวเรียง 4 กระบอกสูบ 16 วาล์ว ปริมาตรความจุ 1,995 ซีซี จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบคอมมอลเรลไดเรคอินเจคชั่น พร้อมกลไกในชุุดอัดอากาศแบบ Variable Turbine Turbo กับระบบ BMW EfficientDynamics ให้แรงม้าสุูงสุดที่ 185 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสุูงสุด 380 นิวตันเมตรที่รอบเครื่องยนต์ 1,900-2,750 รอบต่อนาที อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรใน 8.1 วินาที และมีความเร็วปลายคันเร่งที่ 227.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติของ ZF 8 สปีด พร้อมด้วย Adaptive Transmission Control Step-Tronic และ Electronic Gearshift Lever ล้ออัลลอยลายห้าก้านขนาด 17 นิ้ว ห่อรัดด้วยยาง Goodyear Excellence ไซล์ 255/55/R17 ทั้ง 4 ล้อ อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 19.3 กิโลเมตรต่อลิตรด้วยการใช้นวัตกรรม EfficientDynamics ที่ประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น ระบบเบรคถูกออกแบบให้ทำการชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่ทุกครั้งที่ทำการ เบรคหรือ Re-Entry System ใน 520d ไม่มีระบบ Start-Stop มาให้ แต่เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรตัวใหม่นี้ก็ยังใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเท่าที่จำเป็นตามสภาพของการใช้งาน จากการออกแบบท่อทางเดินของระบบต่างๆภายในเครื่องยนต์ที่เน้นหนักในเรื่องของ การใช้เชื้อเพลิงอย่างประหยัด
ติดตามอ่านทดลองขับ BMW 520d ได้ในตอนต่อไป.
BMW 520d Specifications
แบบ...........................................ซีดาน 4 ประตู
ผู้ผลิต.........................................BMW เยอรมัน
เครื่องยนต์.................................ดีเซลแถวเรียง 4 กระบอกสูบ DOHC วางตามยาวด้านหน้า-ขับเคลื่อนล้อหลัง
ปริมาตรความจุ.........................2.0 ลิตร 1,995 ซีซี
วาล์ว..........................................4 วาล์วต่อสูบ = 16 วาล์ว
กระบอกสูบ x ช่วงชัก...................84.0 มิลลิเมตร x 90.0 มิลลิเมตร
อัตราส่วนกำลังอัด.....................16.50 : 1
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง......................Common Rail Direct Diesel Injection
Lubrication.................................Wet sump
แรงม้าสูงสุด...............................185 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสุูงสุด..............................380 นิวตันเมตรที่ 1,900-2,750 รอบต่อนาที
อัตราส่วนแรงบิดต่อลิตร............190.48 นิวตันเมตร/ลิตร
ระบบอัดอากาศ..........................Variable Turbine Turbo
ระบบประหยัดพลังงานและลดการปล่อยมลภาวะ....BMW EfficientDynamics
ระบบระบายความร้อน...............น้ำในหม้อน้ำ+พัดลมไฟฟ้าแปรผัน
ปริมาตรความจุต่อ 1 กระบอกสูบ....498.75 ซีซี ต่อ1 กระบอกสูบ
อัตราเร่ง......................................0-100 กิโลเมตรใน 8.1 วินาที
ความเร็วสูงสุด.............................227.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนัก.........106.78 แรงม้า/ตัน
ค่าการปล่อย Co2........................125.0 กรัมต่อ 1 กิโลเมตร
ระบบส่งกำลัง...............................เกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีด
ระบบรองรับ.................................ช่วงล่างปีกนกคู่อัลลอยทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ล้อและยาง...................................อลูมินัมอัลลอยขนาด 8Jx17นิ้ว ยาง Goodyear Excellence ไซล์ 255/55/R17 ทั้ง 4 ล้อ
ระบบเบรค
ด้านหน้า.......................................คาร์ลิปเปอร์เบรคแบบสไลด์ลูกสูบพร้อมจานเบรคโลหะขนาด 330 มิลลิเมตร
ด้านหลัง.......................................คาร์ลิปเปอร์เบรคแบบสไลด์ลูกสูบพร้อมจานเบรคโลหะขนาด 330 มิลลิเมตร
มิติตัวถัง
ความกว้าง....................................1,860 มิลลิเมตร
ความยาว......................................4,899 มิลลิเมตร
ความสูง........................................1,464 มิลลิเมตร
ปริมาตรความจุถังเชื้อเพลิง...........70 ลิตร
น้ำหนัก..........................................1,705 กิโลกรัม
ราคา.............................................3,699,000 บาท
Arcom roumsuwan
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook http://www.facebook.com/chang.arcom
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น