วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ขับก่อนใครใน HONDA BRIO 4 ประตู

Pic_303238
Honda Automobile ซุ่มพัฒนา Brio 4 ประตูมาได้ระยะหนึ่งแล้วเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับรถยนต์ในกลุ่ม ECO-Car ของบริษัท โครงการรถยนต์ราคาประหยัดรุ่น Brio ถูกริเริ่มขึ้นในปี 2009 กับรถต้นแบบ 5 ประตู Small Concept ตามด้วยการเปิดตัวและผลิตออกขายในตลาดรถยนต์ราคาถูกของประเทศไทยเมื่อช่วง ต้นปี 2011 ต่อเนื่องด้วยการพัฒนารุ่น 4 ประตู ควบคู่ไปกับงานวิศวกรรมโครงสร้างโดยรวมที่ทั้งสองรุ่น (4-5 ประตู) ใช้ร่วมกันทั้งระบบส่งกำลัง ช่วงล่าง ล้อและยาง รวมถึงอุปกรณ์ภายในพวกแผงคอนโซล หน้าปัด ซุ้มเกียร์ ส่วนฐานล้อของรุ่น 4 ประตูถูกปรับให้กว้างขึ้นกว่าเดิมอีกเล็กน้อย พื้นที่ของเบาะโดยสารตอนหลังก็ยังถูกขยายขนาดให้กว้างมากขึ้น รองรับผู้โดยสารที่มีส่วนสูง 180 เชนติเมตร โดยยังคงมีพื้นที่ในการวางเท้าและพื้นที่เหนือศีรษะอยู่พอสมควร
ชิ้น ส่วนพวกกระจังหน้า ไฟหน้า ฝากระโปรง แก้มข้างและสปอยเลอร์ยังคงใช้ร่วมกันกับรุ่น 5 ประตู บนตัวรถต้นแบบที่จัดให้สื่อมวลชนได้ลงทดสอบในสนามแข่งรถแก่งกระจานเซอร์กิต ถูกพรางด้วยสติกเกอร์คล้ายกับลายของตุ๊กแก เนื่องจากมันเป็นเพียงแค่รถต้นแบบที่ยังไม่ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ สติกเกอร์ที่ใช้พรางตัวจึงคล้ายกับรถต้นแบบทั่วไปที่ยังคงอยู่ในขั้นตอนสุด ท้ายของการพัฒนาก่อนเปิดผ้าคลุมภายในปี 2013 นี้ วิศวกรของ Honda คำนึงถึงการใช้งานภายในเมืองเป็นหลักที่ต้องให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่ คล่องตัว เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร มีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำ เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังแบบ CVT มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา รวมถึงยังมีความเหมาะสมสำหรับรถยนต์ที่มีขนาดของตัวถังที่สั้นกระชับ มิติตัวถังของ Sedan ใหม่คันนี้ ยาว 3,990 มิลลิเมตร กว้าง 1,680 มิลลิเมตร สูง 1,485 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,405 มิลลิเมตร เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับ Honda Brio รุ่น 5 ประตู ซึ่งมีตัวถังยาวจากหน้าจดหลัง สั้นแค่ 3,610 มิลลิเมตร แต่มีความกว้างเท่ากันที่ 1,680 มิลลิเมตร และยังคงมีความสูงบนตัวเลขเดียวกันที่ 1,485 มิลลิเมตร ความกว้างช่วงล้อหน้า (Tread Front) ใน Brio รุ่น 4 ประตู ที่ 1,480 มิลลิเมตร ความกว้างช่วงล้อหลัง 1,465 มิลลิเมตร ระยะห่างจากพื้นถึงพื้นตัวถัง 150 มิลลิเมตร น้ำหนักตัว 920 กิโลกรัมในรุ่นเกียร์ธรรมดา และเพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อยที่ 950 กิโลกรัมสำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT
เปรียบ เทียบกับรุ่น 5 ประตูแล้ว รถ Brio รุ่น 4 ประตูคันต้นแบบมีมิติของห้องโดยสารใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ความยาวที่เพิ่มขึ้นอีก 380 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ ยาวขึ้น 60 มิลลิเมตร เกิดจากการขยายสัดส่วนของพื้นที่ภายในห้องโดยสารแม้จะมีความสูงเท่าเดิมที่ 1,480 มิลลิเมตร ผู้โดยสารบนรุ่นตัวถังซีดาน 4 ประตูจะได้พื้นที่เพิ่มเข้ามาเพื่อความสะดวกสบายจากการออกแบบ พื้นที่สำหรับวางเท้าและพื้นที่เหนือศีรษะที่เพิ่มขึ้น ยังช่วยทำให้การโดยสารไปกับรถคันนี้ไม่มีความรู้สึกอึดอัดแบบรถเล็กอีกต่อไป เบาะผู้โดยสารตอนหลังที่ถูกปรับแก้ในเรื่องของขนาด เมื่อมาอยู่ในรถแบบ 4 ประตูขนาดเล็ก จึงจำเป็นต้องทำให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาอีกเล็กน้อย โดยรวม วัสดุที่ใช้ทำเบาะก็ยังคงเหมือนเดิม แต่ความกว้างที่เพิ่มเติมเข้ามาจะทำให้การนั่งโดยสารทางไกลมีความสบายเพิ่ม ขึ้นนั่นเอง
หัวใจ ของรถต้นแบบคันนี้ คือเครื่องยนต์รหัส L12B3 บล็อก 4 สูบ SOHC (แคมเดี่ยว) 16 วาล์ว ปริมาตรความจุ 1,198 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก 73.0 x 71.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.2 : 1 ระบบแปรผันวาล์ว i-VTEC จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ PGM-FI ระบบคันเร่งไฟฟ้า และ ลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้า DBW (Drive-By-Wire Electronics Throttle Control) เครื่องยนต์มีกำลังสูงสุดที่ 90 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 11.2 กิโลกรัมเมตร (110 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,800 รอบ/นาที ส่งกำลังลงสู่ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และอัตโนมัติ CVT
การ ขับขี่ทดสอบ Honda Brio 4 ประตูคันต้นแบบบนสนามแก่งกระจาน สัมผัสที่ได้รับแทบจะไม่แตกต่างไปจากรุ่น 5 ประตูแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกของพวงมาลัยแบบไฟฟ้า ช่วงล่างและเบรกที่เหมือนกันราวกับฝาแฝด ความยาวของสนามแก่งกระจานเชอร์กิตที่ 2.912 กิโลเมตร จำนวนสามรอบสนามสำหรับสื่อมวลชนแต่ละคน คือการขับขี่บนแทรคแข่งขันที่ให้ความรู้สึกของตัวรถต้นแบบได้อย่างเต็ม เปี่ยม พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าผ่อนแรง EPS (Electronics Power Steering) แม้จะเบาสบายมือแบบรถเล็ก แต่ยังคงสัมผัสที่ดีด้วยความแม่นยำในระดับที่ใช้ใด้เลยทีเดียว ส่วนระบบเบรกแบบดิสเบรกที่ด้านหน้าและดรัมเบรกที่ด้านหลังเอาอยู่หากไม่ใส่ กันจนมากเกินลิมิต อาการหน้าดื้อโค้งแทบไม่ปรากฏเนื่องจากมีกำลังแค่ 90 แรงม้า เพียงแค่หักพวงมาลัยไปตามสภาพของโค้งในสนามแข่งรถแก่งกระจาน เจ้า Brio คันต้นแบบสี่ประตูก็จะตอบสนองอย่างคล่องแคล่วว่องไว ฐานล้อที่ถูกขยายออกอีกเล็กน้อยยังเข้ามาเสริมความมั่นใจของการทรงตัวให้มี ความรู้สึกที่มั่นคงดีขึ้น ส่วนล้ออัลลอยขอบ 14 นิ้วกับยาง Michelin รุ่น ENERGY XM2 ไซค์ 175/65 R14 เป็นยางรุ่นเดียวขนาดเดียวกันกับรุ่น 5 ประตู ออกอาการในโค้งแคบรวมถึงโค้งยูเทิร์นบ้างเมื่อความเร็วกับโค้งเริ่มที่จะไม่ สัมพันธ์กัน ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ยังช่วยให้การส่งถ่ายกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อคู่หน้ามีความนิ่มนวล ไร้อาการกระตุกกระชาก
สนาม แก่งกระจาน มีความต่างระดับขึ้น-ลงในจุดที่สูงสุดและต่ำสุดแตกต่างกันในด้านระดับความ สูงของพื้นที่ถึง 18 เมตร จึงทำให้มีความแตกต่างจากสนามอื่นๆ ค่อนข้างมาก และด้วยรูปแบบของโค้งต่อเนื่องสลับซ้ายขวา ทั้งช้าทั้งเร็ว ทำให้นักข่าวที่ลงทดสอบ Honda Brio 4 ประตูคันต้นแบบ ต้องใช้ทักษะในการควบคุมรถอย่างมากเพื่อเค้นเอาประสิทธิภาพของตัวรถให้ แสดงออกมาอย่างเต็มที่ เนื่องจากมีโค้งหลายโค้งทำให้มีจุดที่ผิดพลาดได้มาก จึงเป็นการท้าทายความสามารถของสื่มมวลชนในการควบคุมรถต้นแบบที่มีเพียงแค่ คันเดียวในโลก!!! สนามแก่งกระจานเซอร์กิตปัจจุบันได้ถูกบรรจุไว้เป็นสนามแข่งขันระดับชาติ มีการแข่งทั้งรถยนต์และรถปิกอัพชิงแชมป์ประเทศไทย และการแข่งขันเอนดูรันซ์ 6 ชั่วโมง รวมทั้งรองรับการแข่งระดับคลับเรซ คาร์คลับ แทรคเดย์ โรงเรียนสอนการขับแข่งทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์ การแข่งขันจักรยาน มีการเปิดตัวสินค้า การถ่ายภาพยนตร์ การถ่ายโฆษณา และการนำรถทดสอบลงมาวิ่งในสนามเพื่อทดลองประสิทธิภาพ สนามแก่งกระจานยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงอีกมากมาย โดยเฉพาะบริเวณรอบๆ เขื่อนแก่งกระจาน กับวนอุทยานแห่งชาติพะเนินทุ่ง กับน้ำตกอีกสองแห่ง
ระบบ กันสะเทือนหน้า แบบ แม็คเฟอร์สันสตรัต สปริงโช้คอัพและเหล็กกันโคลงส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชันบีม รูปตัว H ให้การทรงตัวรวมถึงการถ่ายเทน้ำหนักไม่แตกต่างไปจากรุ่น 5 ประตู ช็อกอัพ กับสปริงที่สูงกว่าของ Brio 5 ประตูอยู่เล็กน้อยเพื่อความนิ่มนวลของระบบรองรับ รถต้นแบบ Brio 4 ประตู ทำตัวได้ดีบนสนามทดสอบ ความบกพร่องของระบบต่างๆ ในรุ่นแรกถูกเรียนรู้และพัฒนาต่อยอดเพื่อทำให้มัน กลายเป็นรถเล็กราคาประหยัดที่สามารถตอบโจทย์คนเมืองที่นิยมความคล่องตัวยาม เดินทางได้เป็นอย่างดี สำหรับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2013 น่าจะเกิดขึ้นในช่วงงานแสดงรถยนต์ MotorEXPO ที่อิมแพคเมืองทองธานี ในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ (2012) ยอดจองที่ดีสำหรับรถยนต์ของ Honda ไม่ว่าจะเป็น City / Jazz / Civic / CRV / รวมถึง Brio กับสายการผลิตในโรงงานประกอบที่โรจนะ ซึ่งกำลังเร่งมือทั้งวันทั้งคืนในการส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าที่สั่งจอง จะทำให้ Honda Automobile กลับมาแข็งแกร่งเหมือนเดิมอย่างแน่นอน.



http://www.roddb.com/images/banners/RodDB_88x31.gif

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น