วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

SHELL FUELSAVE นวัตกรรมเชื้อเพลิงประหยัดพลังงาน

Pic_342574
Shell บริษัทผลิตเชื้อเพลิงและสารหล่อลื่นเครื่องยนต์ ผู้นำนวัตกรรมน้ำมันเชื้อเพลิงระดับโลก สานต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ให้การตอบรับที่ดีกับน้ำมันเชื้อเพลิง สูตรประหยัด Shell Fuelsave เชิญสื่อลงทดสอบประสิทธิภาพ พร้อมเปิดตัวแคมเปญโฆษณาใหม่ภายใต้แนวคิด สร้างสรรค์ให้ไปได้ไกลกว่าเดิม (Designed to Last Longer) รณรงค์คนไทยขับประหยัดน้ำมันเพื่อให้รถทุกคันไปได้ระยะทางมากกว่าเดิมด้วย มุมมองวิธีใหม่ๆ ในการขับขี่แบบประหยัด...

นัก วิทยาศาสตร์ด้านน้ำมัน เชื้อเพลิงของ Shell เป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงและสารหล่อลื่นเครื่องยนต์เพื่อ ทำให้เครื่องยนต์คายประสิทธิภาพสูงสุด คนเหล่านี้ทำงานเพื่อสร้างน้ำมันที่มีความก้าวหน้าและใช้เทคโนโลยีในการ วิจัยมากที่สุดในโลก โดยน้ำมัน Shell Fuelsave เบนซิน 95, แก๊สโซฮอล์ 91, แก๊สโซฮอล์ 95 และดีเซล เป็นน้ำมันราคาปกติของ Shell ที่พัฒนามาให้รถยนต์ใช้เชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่าและมีความประหยัด เชื้อเพลิง Shell Fuelsave เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูงที่ช่วยให้คุณลดอัตราการเผาผลาญน้ำมันเชื้อ เพลิงและประหยัดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิง

จุดเด่นของน้ำมัน Shell Fuelsave เบนซิน 95, แก๊สโซฮอล์ 91, แก๊สโซฮอล์ 95 และดีเซล
น้ำมัน Shell Fuelsave เป็นน้ำมันราคาปกติที่ถูกวิจัยพัฒนาเพื่อเพิ่มระยะทางการวิ่งให้กับรถยนต์ Shell Fuelsave เบนซิน 95, แก๊สโซฮอล์ 91, แก๊สโซฮอล์ 95 และดีเซล เป็นน้ำมันสูตรประหยัดของ Shell ออกจำหน่ายมาได้สักระยะหนึ่งแล้วในตลาดเชื้อเพลิงคุณภาพของประเทศไทย


น้ำ มันเชลล์ Shell Fuelsave เบนซิน 95, แก๊สโซฮอล์ 91, แก๊สโซฮอล์ 95 และดีเซล เป็นน้ำมันที่ตอบสนองต่อการใช้งานด้านการให้กำลังงานและความประหยัดควบคู่ กันไป จากการทดสอบในสถานีวิจัยของ Shell โดยจำลองสภาพการทำงานของเครื่องยนต์ขณะขับขี่เปรียบเทียบกับเชื้อเพลิงของ คู่แข่ง วิศวกรของ Shell แจ้งว่า น้ำมัน Shell Fuelsave ยังถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ สำหรับผู้ใช้รถที่ต้องการให้เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นโดย ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม


น้ำมัน Shell Fuelsave เบนซิน 95, แก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 การทำงานขณะเกิดการเผาไหม้
น้ำมัน Shell Fuelsave มีส่วนผสมที่ถูกพัฒนามาเพื่อลดการสูญเสียพลังงาน โดยช่วยหล่อลื่นในส่วนที่น้ำมันเครื่องเข้าไม่ถึง เช่น แหวนลูกสูบตัวบน ซึ่งการลดการสูญเสียพลังงานที่เกิดจากการเคลื่อนที่และความร้อน จะทำให้พลังงานจากเชื้อเพลิงส่งไปยังล้อของรถยนต์ได้มากขึ้น การทดลองในศูนย์ค้นคว้าและวิจัยเชื้อเพลิงของ Shell ทั้งที่ประเทศเยอรมนี อังกฤษและมาเลเซีย โดยทำการทดสอบกับเครื่องยนต์หลากหลายชนิดทั้งเครื่องยนต์เบนซิน เครื่องยนต์ดีเซลแบบมีและไม่มีระบบอัดอากาศ ผลของการทดสอบพบว่า เชื้อเพลิง Shell Fuelsave สามารถเพิ่มระยะทางได้อีกเล็กน้อย (ขึ้นอยู่กับความเร็วในการขับขี่) เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเชื้อเพลิงของบริษัทคู่แข่ง


น้ำมัน Shell Fuelsave มีสารทำความสะอาดเครื่องยนต์และสารหล่อลื่นสำหรับชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวผสม อยู่ สารดังกล่าวทำหน้าที่ในการรักษาความสะอาดให้กับวาล์ว Shell Fuelsave ยังมีการผสมสารปกป้องการเกิดคราบตะกรันในหัวฉีดและบ่าวาล์ว เมื่อเครื่องยนต์สะอาด การทำงานในทุกๆ รอบเครื่องจึงมีความสมบูรณ์และเติมเต็มประสิทธิภาพ

น้ำมัน Shell Fuelsave ดีเซล มีการทำงานอย่างไร
นัก วิทยาศาสตร์ของ Shell ในห้องแล็บทำการพัฒนา Shell Fuelsave ดีเซล เพื่อช่วยการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ให้เร็วขึ้น และทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์ครบวงจรการทำงานของเครื่องยนต์


การวิจัยและการทดสอบ
มากกว่า 100 ปี นักวิทยาศาสตร์ของ Shell ได้ใช้ความหลงใหลและความเชี่ยวชาญด้านน้ำมันเชื้อเพลิงของพวกเขา สร้างสรรค์น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีเทคโนโลยีก้าวล้ำมากที่สุดในโลก บริษัทเชื้อเพลิงเก่าแก่เจ้าของโลโก้ตราหอยแห่งนี้ ทำการค้นคว้าและทำงานวิจัยไปทั่วโลก ทั้งการวิจัยเชื้อเพลิงให้กับเครื่องยนต์ทุกประเภทกับการวิจัยที่จะคิดค้น เชื้อเพลิงที่ให้ทั้งพลังและความประหยัดไปพร้อมๆ กัน เพื่อศึกษาว่าผู้ใช้รถในปัจจุบันต้องการอะไรจากน้ำมันเชื้อเพลิงที่พวกเขา เติม ข้อมูลจากการสุ่มตัวอย่างการใช้รถของบุคคลทั่วไป ซึ่งข้อมูลดังกล่าวนำไปสู่การพัฒนาน้ำมัน Shell Fuelsave โครงการวิจัยดังกล่าวเกิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถ ซึ่งก็คือการประหยัดน้ำมันมากขึ้น โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม


นัก วิทยาศาสตร์ Shell พัฒนาเชื้อเพลิง Shell Fuelsave โดยใช้การทดลองวิ่งกับรถยนต์ทุกขนาดจำนวนนับสิบๆ ครั้งเพื่อทดสอบสมรรถนะของน้ำมัน ผลทดสอบดังกล่าวดำเนินการโดยสถาบันอิสระที่ได้รับมาตรฐาน และใช้มาตรฐานระดับโรงงานในขั้นตอนการวัดผล โดยผลการทดสอบแสดงให้เห็นถึงอัตราการประหยัดน้ำมันที่มากขึ้นแสดงในรถยนต์ หลากหลายประเภท ระหว่างการทดสอบ นักวิทยาศาสตร์ของ Shell ได้ทำงานร่วมกับวิศวกรเครื่องกลของ Shell โดยจำลองสภาพการใช้งานรถยนต์จริงบนท้องถนน ซึ่งเมื่อรวมระยะทางในการทดสอบแล้ว นับเป็นระยะทางมากกว่า 5,000 ไมล์


25-26 เมษายน 2556 บริษัท Shell เชิญสื่อมวลชนสายยานยนต์ร่วมลงทดสอบเชื้อเพลิง Shell Fuelsave น้ำมันที่คิดค้นขึ้นเพื่อเพิ่มระยะทางการวิ่งด้วยปริมาณที่เท่าๆ กับน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดอื่น โดยกำหนดเส้นทางจากปั๊ม Shell เหนือเมฆ สาขาวิภาวดีรังสิต ไปยังจังหวัดระยอง โดยใช้รถทดสอบที่มีวิ่งอยู่ทั่วไป เช่น Toyota New Camry / Isuzu MU-7 / Nissan Sylphy / Honda Brio Amaze เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของเชื้อเพลิงรุ่นใหม่ที่เน้นประหยัดในชื่อว่า Shell Fuelsave เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงแบบใหม่ที่เน้นประสิทธิภาพของการให้กำลังและเพิ่มระยะ ทางเมื่อใช้ในปริมาณเท่ากันในการเปรียบเทียบกับเชื้อเพลิงของคู่แข่งในการ ทดสอบ

หลังจากการแนะนำผลิตภัณฑ์และพิธีเปิดการทดสอบเชื้อเพลิง มร.แกรนท์ แมคเกรเกอร์ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาดค้าปลีก บริษัท Shell Thailand Co,ltd. แถลง ต่อผู้สื่อข่าวว่า ตลาดอุตสาหกรรมน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยในปีที่ผ่านมาตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงค้าปลีกในประเทศไทยเติบโตขึ้น 6% หรือกว่า 1,000 ล้านลิตร ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมน้ำมันระดับโลก เชลล์มุ่งมั่นค้นคว้าให้ได้มาซึ่งน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ รวมถึง ‘น้ำมัน Shell Fuelsave’ น้ำมันสูตรประหยัดคุณภาพสูง พัฒนามาให้ขับไปได้ไกลกว่าเดิม เพราะ Shell ตระหนักดีว่าผู้บริโภคต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงที่ช่วยให้คนไทยประหยัดได้ ทั้งน้ำมันและเงินในกระเป๋า ทิศทางการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจน้ำมัน Shell Fuelsave ในปีนี้ยังคงเน้นย้ำถึงการรับรู้คุณสมบัติและคุณประโยชน์ของเชื้อเพลิงสูตร ประหยัดจาก Shell ผ่านแคมเปญทั่วโลก โดยสื่อสารตามแนวคิด สร้างสรรค์ให้ไปได้ไกลกว่าเดิม (Designed to Last Longer) เริ่มออกอากาศภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2556 นอกจากนี้ยังมีการเน้นสื่อที่หลากหลาย เพื่อโฆษณาให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย


ระยะ ทาง 230 กิโลเมตร กับการเช็กปริมาณเชื้อเพลิงเป็นระยะๆ ตามจุดบริการเชื้อเพลิงของ Shell จำนวน 4 ครั้ง ปั๊มน้ำมันของ Shell ในภาคตะวันออกกำลังเร่งขยับขยายพื้นที่เพื่อรองรับปริมาณรถยนต์ได้คราวละ มากๆ และมีการนำเอาร้านค้าร้านอาหารเข้ามาให้บริการควบคู่ไปด้วยอย่างต่อเนื่อง สำหรับการเติมเชื้อเพลิงให้กับรถทดสอบทั้ง 4 ยี่ห้อ 4 แบบ ตามจุดบริการปั๊มเชื้อเพลิงของ Shell ควบคุมการทดสอบและวัดปริมาตรเชื้อเพลิงที่เติมเฉลี่ยกับระยะทางที่รถทดสอบ ทั้งหมดสามารถทำได้ สรุปว่าเชื้อเพลิงของ Shell มีประสิทธิภาพในการวิ่งเมื่อเติมลงในรถยนต์ Nissan Sylphy คันทดสอบที่ผมขับขี่ตลอดเส้นทางจากกรุงเทพมหานครไปยังจังหวัดระยอง รถ Nissan Sylphy เครื่องยนต์เบนชินแถวเรียง 4 สูบ 1.8 ลิตร วิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ย 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้คันเร่งน้อยที่สุดและไม่กดลงลึกหรือทำให้รอบเครื่องอยู่ในรอบสูงนานๆ การขับแบบประหยัดที่มุ่งเน้นให้ระบบส่งกำลังซึ่งเป็นเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT รักษาความเร็วโดยไม่ทำการคิดดาวน์ ตัวเลขเฉลี่ยที่ทำได้คือ 32.601 กิโลเมตรต่อลิตร สำหรับรถที่สามารถทำอัตราเฉลี่ยการใช้เชื้อเพลิงต่อระยะทางเมื่อเติม Shell Fuelsave เบนซิน 91 โซฮอล์ คือรถ Honda Brio Amaze ที่ตัวเลข 46.998 กิโลเมตรต่อลิตร (ปิดแอร์ ขับด้วยความเร็วต่ำ 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

สำหรับรถยนต์ทดสอบทั้ง 8 คันสามารถทำตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยลิตรต่อกิโลเมตรได้ดังนี้


Isuzu Mu-7
เครื่อง ยนต์ 3.0 ลิตร ดีเซล 3,000 ซีซี Ddi VGS Turbo กำลังสูงสุด 160 แรงม้า 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 333 นิวตัน-เมตร 3,200 รอบต่อนาที ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่ทำได้เมื่อเติมเชื้อเพลิง Shell Fuelsave 18.515 กิโลเมตรต่อลิตร (ความเร็วเฉลี่ย 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เปิดระบบปรับอากาศ)


Toyota New Camry 2.5 G
เครื่อง ยนต์เบนซินแถวเรียง 4 กระบอกสูบ รหัส 2AR-FE Dual-VVT-i ปริมาตรความจุ 2,494 ซีซี แรงม้าสูงสุด 188 กิโลวัตต์ หรือ 181 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ระดับ 231 นิวตันเมตรหรือ 23.6 กิโลกรัม/เมตร ที่ 4,100 รอบต่อนาที ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่ทำได้เมื่อเติมเชื้อเพลิง Shell Fuelsave 18.932 กิโลเมตรต่อลิตร (ความเร็วเฉลี่ย 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เปิดระบบปรับอากาศ)


Nissan Sylphy
เครื่อง ยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ รหัส MRA8DE 1,798 ซีซี 131 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 174 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบต่อนาที ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่ทำได้เมื่อเติมเชื้อเพลิง Shell Fuelsave 32.601 กิโลเมตรต่อลิตร (ความเร็วเฉลี่ย 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เปิดระบบปรับอากาศ)


Honda Brio Amaze
เครื่อง ยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC 1.2 ลิตร 1,198 ซีซี 90 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่ทำได้เมื่อเติมเชื้อเพลิง Shell Fuelsave 47.988 กิโลเมตรต่อลิตร (ความเร็วเฉลี่ย 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ปิดระบบปรับอากาศ)

เคล็ดลับการประหยัดน้ำมันโดย Shell Fuelsave

การเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่น


ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแบบช่วยประหยัด
– เพราะน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน การเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น โดยน้ำมัน Shell Fuelsave เบนซิน และแก๊สโซฮอล์ และ Shell Fuelsave ดีเซล คิดค้นมาเพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน จึงลดการเผาผลาญน้ำมันในการขับขี่


เลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพ
– เจาะจงเลือกใช้น้ำมันหล่อลื่นคุณภาพดีที่ได้รับการแนะนำโดยผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งจะมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมัน โดยน้ำมันหล่อลื่นที่คุณภาพสูงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง ยนต์ได้

การดูแลรักษารถ


ดูแลเครื่องยนต์ ปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือประจำรถอยู่เสมอ
– เครื่องยนต์ที่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมจะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และนำรถเข้ารับบริการตรวจเช็กตามระยะที่ผู้ผลิตรถยนต์แนะนำ


รักษาแรงดันลมยางให้อยู่เกณฑ์มาตรฐาน
– การเติมลมยางในระดับที่เหมาะสม นอกจากจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่แล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของยาง โดยยางที่เติมลมอ่อนเกินไปจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น ส่วนการเติมลมยางที่อ่อนหรือแข็งเกินไปจะทำให้ยางมีโอกาสชำรุดได้มากขึ้น

รูปแบบและพฤติกรรมในการขับขี่


ขับรถอย่างนุ่มนวล
– การขับรถแบบกระชากจะสิ้นเปลืองน้ำมันกว่าการขับอย่างนุ่มนวล ควรหลีกเลี่ยงการเร่งเครื่องยนต์หรือเบรกอย่างกะทันหัน และควรพยายามควบคุมพวงมาลัยให้รถวิ่งไปอย่างราบรื่นที่สุดเท่าที่จะทำได้


พยายามใช้เกียร์สูง และหลีกเลี่ยงการลากเกียร์
– ยิ่งขับขี่โดยใช้เกียร์สูงมากขึ้นเท่าไร รอบของเครื่องยนต์ก็จะต่ำลงเท่านั้น ซึ่งจะช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้นด้วย ดังนั้นควรพยายามเปลี่ยนเกียร์ให้สูงขึ้นโดยไม่ให้เครื่องยนต์ทำงานหนักจน เกินไป และเมื่อรถวิ่งช้าลงหรือมีการเร่งความเร็วขึ้น ก็ควรกะระยะการเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะสม ที่สำคัญอย่าปล่อยให้รอบเครื่องยนต์สูงจนถึงขีดสีแดงบนหน้าปัดมาตรวัดโดย เด็ดขาด


กะระดับความเร็วให้เหมาะสม และรักษาระยะห่างระหว่างรถ
– สังเกตเส้นทางล่วงหน้าและกะระดับความเร็วให้เหมาะสม เช่น เมื่อสังเกตเห็นสัญญาณไฟจราจร แทนที่จะหยุดรถอย่างกระชั้นชิด ก็ควรจะค่อยๆ ลดระดับความเร็วลง หรือเมื่อรู้ว่าข้างหน้าเป็นเส้นทางขึ้นเขา ก็ควรเร่งเครื่องเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตั้งแต่ก่อนที่จะถึงทางลาดชัน นอกจากนี้ยังควรทิ้งระยะห่างที่เหมาะสมระหว่างรถของคุณกับรถคันหน้า เพื่อให้มีเวลาเพียงพอในการเบรก


ใช้ระบบควบคุมความเร็วคงที่
– การใช้ระบบควบคุมความเร็วคงที่ หรือ Cruise control ขณะขับขี่บนทางหลวง จะช่วยให้รถวิ่งในระดับความเร็วที่สม่ำเสมอ และอาจช่วยลดอัตราการใช้น้ำมันลงได้


ไม่ติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้โดยไม่จำเป็น
– การติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ แม้ว่ารถจะจอดนิ่งอยู่กับที่ แต่ก็ยังคงสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ ดังนั้นจึงควรดับเครื่องยนต์ขณะจอดรถเข้าคิว หรือจอดรอรับใคร ซึ่งตามหลักแล้วเราควรจะดับเครื่องยนต์ทุกครั้ง หากต้องจอดรถนานเกิน 10 วินาที


หลีกเลี่ยงการขับรถด้วยความเร็วสูง
– ยิ่งคุณขับรถด้วยความเร็วสูงมากเท่าไร ก็ยิ่งจะเกิดแรงต้านทานจากอากาศกับตัวรถมากขึ้นเท่านั้น และส่งผลให้เครื่องยนต์ต้องใช้น้ำมันมากขึ้นเพื่อรักษาระดับความเร็วเอาไว้ ดังนั้นการขับรถภายใต้ความเร็วที่กฎหมายกำหนดจึงช่วยประหยัดน้ำมันได้ เราจึงไม่ควรขับรถเร็ว


ใช้ระบบปรับอากาศอย่างเหมาะสม
– การเปิดแอร์จะเพิ่มภาระการทำงานให้เครื่องยนต์ และทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน แนะนำให้ใช้งานเครื่องปรับอากาศรถยนต์อย่างเหมาะสม เปิดช่องระบายอากาศขณะขับขี่ทางไกล สามารถช่วยให้ท่านประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้

วางแผนการเดินทาง


วางแผนการเดินทางล่วงหน้า และหลีกเลี่ยงการเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วน
– การลดระยะเวลาการเดินทาง ถือเป็นวิธีการประหยัดน้ำมันที่ง่ายที่สุด โดยวิธีหนึ่งที่ทำได้คือ ถ้าจำเป็นต้องเดินทางไปหลายๆ ที่ ก็ควรจะรวบรวมเอาไว้ในวันเดียวกันและขับรถไปในครั้งเดียว นอกจากนี้หากสามารถหลีกเลี่ยงการเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนได้ คุณก็จะเสียเวลาไปกับการจราจรที่ติดขัดน้อยลง และประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นด้วย

หลีกเลี่ยงการบรรทุกของที่ไม่จำเป็น
– คุณอาจประหลาดใจที่น้ำหนักของสัมภาระทุกกิโลกรัมที่เพิ่มขึ้นภายในรถ ทำให้ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นในการขับขี่ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบว่าที่ช่องวางเท้า เบาะหลัง และกระโปรงหลังของรถ มีสิ่งของที่ไม่จำเป็น เช่น ถุงกอล์ฟ อยู่หรือไม่

ถอดแร็ควางของบนหลังคารถออก
– ควรถอดแร็คบนหลังคารถออกเมื่อไม่ได้ใช้ เพราะแร็คจะทำให้รถมีแรงต้านทานจากอากาศมากขึ้น ส่งผลให้ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นตามไปด้วย.

อาคม รวมสุวรรณ
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom


http://www.smartmediacreation.com/advertise/www/delivery/ai.php?filename=88x31_car2hot.gif&contenttype=gif
รถมือสอง รถบ้าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น