วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2554

เจนีวา มอเตอร์โชว์ เลิศหรูชูใจคนรักรถ

http://www.dailynews.co.th/content/images/1103/06/newspaper/P24_car_url.jpg
มหกรรมยานยนต์ “เจนีวา มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 81 จัดแสดงอยู่ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองที่มั่งคั่งแห่งทวีปยุโรป รูดม่านเปิดงานกันไปเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา และจะไปจบเอาในวันที่ 13 มี.ค. งานนี้เป็นงานใหญ่ระดับแกรนด์สแลมของวงการยานยนต์ที่ให้โอกาสค่ายรถยนต์จาก ประเทศต่าง ๆ 31 ประเทศ มาออกบูธ 260 บูธแนะนำนวัตกรรมยานยนต์แบบใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานในปีนี้ 700,000 คน

ค่ายรถยนต์ขนาดใหญ่ที่มีกำลังการผลิตมากไม่ว่าจะในเอเชียหรือยุโรป อาทิ โตโยต้า, เฟียต และ ฟอร์ด ต่างก็ถือโอกาสนำเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมมาแสดงในงานนี้ เพื่อสำรวจความต้องการของตลาด

ดังนั้นรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ จึงดาหน้ากันออกมาในรูปแบบ รถไฟฟ้า, ไฮบริด และ เครื่องยนต์ธรรมดาแต่ให้ประสิทธิภาพกว้างไกล เพื่อเป็นสัญญาณเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาอีกครั้ง หลังจากวิกฤติเศรษฐกิจเคยทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ตกต่ำสุดขีดมาแล้ว

งานนี้รถรุ่นเล็กรุ่นใหญ่อวดโฉมกันเต็มพิกัด เริ่มตั้งแต่แลมโบกินีเปิดตัวรุ่นอาเวนทาดอร์ แอลพี 700-4 สามารถทำความเร็ว 0-100 กม./ชม.ภายใน 2.9 วินาที ด้วยกำลังเกือบ 700 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 347 กม./ชม. และ เฟอร์รารีเปิดตัวเอฟเอฟ เก๋งขับเคลื่อนสี่ล้อสี่ที่นั่ง วี 12 ซึ่งถือว่าเป็นยานยนต์ทรงพลังที่สุดของเฟอร์รารีในขณะนี้ รวมถึง แอสตัน มาร์ติน มีรุ่นวิราจใหม่มาให้ชมกันด้วย

โอเปิลนำไฮบริด แอมพีรามาเปิดตัวซึ่งจะวางจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ แถมยังคุยว่าได้รับออร์เดอร์ทางอินเทอร์เน็ตจากลูกค้าแล้ว 3,000 ราย และ 800 รายยอมจ่ายเงินล่วงหน้าให้แล้ว
โรลส์รอยซ์ออกตัวซีดานเครื่องยนต์ไฟฟ้าแบบหรูหรา แฟนธอม แต่ก็มีรุ่น 102 อีเอ็กซ์ ซึ่งใช้พลังงานแบตเตอรี่ด้วย ตามมาด้วยค่ายโฟล์คสวาเกน นำเสนอไฮบริดหรูแต่ใช้แบรนด์ปอร์เช่ รุ่นพานาเมรา เอส มีจุดเด่นอยู่ที่ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอัตราส่วน 159 กรัม/กม. และสิ้นเปลืองน้ำมัน 14.70 กม./ลิตร

ฟอร์ด มอเตอร์ คุยว่ากำลังพัฒนาเทคโนโลยีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้น้อยที่สุด เพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังจะนำเครื่องส่งกำลังทางเลือก 5 ตัวมาใช้ในยุโรปในอีกสองปีข้างหน้าด้วย แต่สำหรับงานนี้ ฟอร์ดจะนำเครื่องส่งกำลังใส่ลงไปในรถไฮบริด รถไฟฟ้า และ เทคโนโลยีปลั๊ก-อิน ไฮบริด รวมถึงเครื่องยนต์ไฟฟ้าทั้งคันตัวแรก รุ่นทรานสิต คอนเน็กต์ ซึ่งจะวางขายในปีนี้ด้วย แต่ที่นำมาโชว์ในงานเป็นต้นแบบของรุ่นเวอร์เทค ซึ่งเป็นรถสไตล์ยูเอสวี

เฟียตจากอิตาลี และไครสเลอร์จากสหรัฐ ยึดแนวทางเดียวกันด้วยการผลิตรถยนต์เน้นประหยัดพลังงาน พร้อมกันนี้เฟียต ก็จะพยายามเค้นกำลังออกมาจากเครื่องยนต์ให้ได้มากกว่านี้ โดยเฉพาะในเครื่องยนต์ ทวินแอร์ ซึ่งวางใส่ไว้ในรุ่นยอดนิยม 500 และมีกำลัง 85 แรงม้า อัตราส่วนการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 92 กรัม/กม. แถมยังมีเอสยูวีรุ่นฟรีมอนต์มาให้ดูกัน

โตโยต้าแห่งยุโรปซึ่งมีประสบการณ์การผลิตรถยนต์ไฮบริดมาแล้ว 14 ปี ตั้งเป้าขอส่วนแบ่งการตลาดรถไฮบริด 20% ของยอดจำหน่ายภายในปีค.ศ.2013 แม้จะยอมรับว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสามารถวิ่งได้ระยะไกลกว่า หรืออีกนัยหนึ่ง เครื่องยนต์เบนซินให้กำลังมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบปริมาณน้ำมันกับเทคโนโลยี ทางเลือกอื่น ๆ รุ่นยาริส ไฮบริดเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของค่ายนี้     

นิสสัน ลีฟ จากญี่ปุ่น จัดอยู่ในประเภทเก๋งพลังงานไฟฟ้า มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 5 วินาทีเท่านั้น และความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 192 กม./ชม. ส่วนตัวต้นแบบที่รูปทรงโฉบเฉี่ยวน่าหลงใหลนั้นต้องเป็นรุ่นเอสโฟลว์

นอกจากนั้นยังมีรถต้นแบบรุ่นไฮบริดของอีกหลายค่ายที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ฮอนด้า แจ๊ซ ไฮบริด, ซูซูกิ สวิฟท์ เอส-คอนเซปต์, ทาทา พิกเซล, มินิ ร็อคเก็ตแมน และ โฟร์สปีดของสมาร์ท

แค่นี้เป็นเพียงเศษส่วนน้อยของยานยนต์ระดับเลิศหรูรวมถึงไฮบริด รถยนต์พลังงานสีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อมที่มาอวดสายตาแฟนคลับยานยนต์ให้ได้ชม กันในงานนี้.

วิญญู ศรีนาง

Car2Hot

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น