MINI Rocketman Concept นวัตกรรมต้นแบบแนวคิดยานยนต์ขนาดย่อม ความยาวเพียง 10 ฟุตเศษ มี 3+1 ที่นั่ง และมี 3 ประตูประโยชน์ใช้สอยถูกออกแบบเพื่อความลงตัวของการใช้ชีวิตในเมือง รถ MINI Rocketman Concept มีคาร์แรกเตอร์ของการขับขี่ที่ปราดเปรียวว่องไวในสไตล์โกคาร์ทฟีลลิ่ง เพื่อให้เหมาะสมกับการเป็นน้องเล็กในตระกูล MINI รถต้นแบบแนวคิด Concept MINI Rocketman ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการการเดินทางของคนเมืองยุคใหม่ ที่ต้องการพาหนะที่มีขนาดกะทัดรัด ปราดเปรียว คล่องตัว มีความเหมาะสมกับเมืองใหญ่ทั่วโลก สะดวกและคล่องแคล่วว่องไว ปลอดภัย และมุ่งเน้นที่การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ในขณะเดียวกันก็ยังต้องให้อรรถรสและอารมณ์การขับขี่ที่สนุกสนานเหมือนกับรถ สปอร์ต
MINI Rocketman Concept ใช้วัตกรรมล้ำสมัยในการออกแบบทั้งในส่วนของโครงสร้างตัวถังและเทคโนโลยีการ ผลิตเพื่อให้ได้มาซึ่งยานยนต์ขนาดย่อมระดับ Sub-compact โดยโครงสร้างตัวถังเป็นเทคโนโลยี Carbon Space Frame ทำให้มันมีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ นอกจากนั้น โครงสร้างของตัวรถยังทำหน้าที่เป็นผิวตัวถังภายนอกในส่วนด้านหน้ารถ ผิวด้านข้างก่อนช่วงประตูและบางส่วนของภายในห้องโดยสาร ด้วยขนาดที่กะทัดรัดน้ำหนักตัวเบา เป็นจุดที่ทำให้ MINI Rocketman Concept มีความปราดเปรียว รวมถึงการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ไม่มาก อัตราการประหยัดน้ำมันของเจ้า Rocketman Concept ถูกคำนวนให้มีค่าเฉลี่ย 33.3 กิโลเมตรต่อลิตร
ดีไซน์ไฟท้ายของ MINI Rocketman Concept ใส่ความแปลกใหม่ลงไปด้วยรูปทรงที่ถูกขัดเกลาจากสตูดิโอออกแบบ เทคโนโลยีไฟแบบ Projector LED ให้แสงสว่างที่ใกล้เคียงกับแสงของดวงอาทิตย์ เพื่อความปลอดภัยในเวลาขับขี่ยามค่ำคืน นอกจากนั้นยังมีระบบไฟแบบ Optic Fiber ที่ขอบกระจกด้านในรอบคันพร้อมกับหลังคาแบบใสตกแต่งเป็นลายธง Union Jack ของอังกฤษ นอกจากนั้นประตูบานท้ายก็ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเปิดขึ้นแบบประตูท้ายแฮทช์แบค และอีกส่วนเปิดแบบลิ้นชักด้วยความยาว 350 มิลลิเมตร สามารถกั้นแยกจากส่วนเก็บสัมภาระเพื่อที่จะใช้ประโยชน์เพิ่มเติม ในกรณีที่ต้องการบรรทุกของชิ้นยาว เช่น สกี หรือสโนว์บอร์ด
MINI Rocketman Concept ยังมีความสะดวกสบายด้วยนวัตกรรมระบบประตูด้านข้างที่เปิดได้กว้างเป็นพิเศษ และฐานของประตูถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของประตูเพื่อให้การขึ้น-ลงรถเป็นไปได้ อย่างปลอดโปร่งโล่งสะดวก ห้องโดยสารภายในมีพื้นที่กว้างขวางจากการจัดเรียงรูปแบบและตำแหน่งของเบาะ นั่งน้ำหนักเบาให้เป็นไปตามความต้องการในการใช้งานได้อย่างง่ายดาย เบาะนั่งสามารถจัดเรียงเป็นแบบ 2 ที่นั่ง เพื่อการขับขี่แบบสปอร์ตเต็มรูปแบบ หรือเป็นแบบ 3 ที่นั่งสำหรับการเดินทางสำหรับผู้ใหญ่ 3 คนหรือถ้าจำเป็นก็สามารถจัดเรียงเป็น 4 ที่นั่งได้ด้วย ส่วนฝาท้ายแบ่งเป็นสองส่วนส่วนแรกเปิดขึ้นแบบรถแฮทช์แบค อีกส่วนเป็นเลื่อนออกแบบลิ้นชักเก็บของ
อีกหนึ่งนวัตกรรมของการดีไซน์ คือ ระบบ Connectivity And Infotainment ซึ่งตัว Control Unit สามารถถอดออกจากรถและต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากในกรณีที่ ผู้ใช้ต้องการวางแผนการเดินทางบนคอมพิวเตอร์และ save แผนการเดินทางลงไปใน Control Unit หลังจากนั้นก็เพียงเชื่อมต่อเข้ากับระบบนำทางนาวิเกเตอร์ของ MINI Rocketman Concept นอกจากนั้นยังสามารถ sync ข้อมูลปฏิทินนัดหมาย และไฟล์เพลงจากคอมพิวเตอร์ส่วนตัวสู่รถได้ตามความต้องการของเจ้าของ
ทีมดีไซน์เนอร์ของ MINI ได้บรรจงสร้างสรรค์รูปแบบตัวถังของ MINI Rocketman Concept ด้วยการรวบรวมรูปแบบความเป็นตัวตนของ MINI ผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับความล้ำสมัย ในการนำเสนอตัวรถต้นแบบภายในงานแสดงรถยนต์ครั้งใหญ่ประจำปีของภูมิภาคยุโรป มิติตัวรถ Rocketman Concept บนขนาดความยาว 3.149 เมตร หรือประมาณ 11 ฟุต 3 นิ้ว ซึ่งใกล้เคียงกับรถ MINI คันแรกของโลกในปี 1959 ความกว้างรวมกระจกมองข้างทั้งสองด้านอยู่ที่ 1.907 เมตร และความสูง 1.398 เมตร ซึ่งนอกจากจะเป็นสัดส่วนที่ลงตัวในทุกมุมมองแล้วมันยังมีสัดส่วนใกล้เคียง กับมินิรุ่นอื่นในตระกูลอีกด้วย
นอกจากนั้นเอกลักษณ์ด้านดีไซน์ของ MINI ทั้งในส่วนของไฟหน้า หน้ากระจัง เส้นสายต่างๆ และรูปแบบของหลังคาแบบ Floating Roof ก็ถูกจัดวางอย่างสอดคล้องและกลมกลืน ทำให้ MINI Rocketman Concept มีคาแรกเตอร์ของรถยนต์ในตระกูล MINI เพียงแวบแรกที่ได้พบเห็น นอกจากผิวตัวถังที่โค้งเว้าและลายเส้นที่ดูดีบนตัวถังทรงกว้าง และสัดส่วนทรวดทรงอมตะของ MINI แล้ว นวัตกรรมโครงสร้างแบบ Carbon Space Frame ยังเผยให้เห็นโดยผ่านส่วนต่างๆ ของตัวถังภายนอก เช่น บริเวณขอบกระจังหน้ารอบโคมไฟหน้า แก้มด้านข้าง และขอบตัวถังรอบคัน รูปแบบของหลังคาแบบ Floating Roof เสาสีดำในส่วนของกระจกบังลมหน้าเชื่อมต่อกับกระจกด้านข้างและรอยต่อของกระจก ข้างบานหลังกับกระจกหลังก็เป็นในทำนองเดียวกัน
ทีมดีไซน์เนอร์ของ MINI ได้สร้างสรรค์รูปแบบของประตูข้างทั้งสองในแนวแปลกใหม่นอกจากประตูที่กว้าง พิเศษ รวมถึงลักษณะการเปิดที่มีบานพับแบ่งเป็นสองขั้น หรือ Double-hinge joint แล้ว ขอบประตูก็ถูกรวมอยู่เป็นส่วนหนึ่งของประตูด้วย เพื่อให้การขึ้น-ลงรถเป็นไปได้อย่างสะดวกสบายทั้งในที่นั่งด้านหน้าและด้าน หลัง ถึงแม้ว่าอยู่ในพื้นที่จำกัดก็ตาม นวัตกรรมเทคโนโลยี Carbon Space Frame ช่วยให้วิศวกรของมินิสร้างสรรค์รูปแบบการเปิดประตูแนวใหม่นี้ เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังสามารถคงไว้ซึ่งความทนต่อแรงบิดของตัวถัง หรือ Torsional Rigidity ของโครงสร้างตัวถังได้อย่างมีประสิทธิผล
MINI Rocketman Concept มีพื้นที่ใช้สอยภายในยืดหยุ่นต่อความต้องการใช้งานรูปแบบต่างๆ เริ่มจากรูปแบบการจัดวางเบาะนั่ง ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ ทั้งแบบ 2 ที่นั่ง 3 ที่นั่ง หรือ 4 ที่นั่ง ตัวเบาะนั่งที่ผลิตจากวัสดุน้ำหนักเบาพิเศษ เพื่อให้สะดวกต่อการปรับรูปแบบดีไซน์ภายนอก ที่ได้บรรจุ DNA ของ MINI ไว้อย่างเข้มข้น ถูกสะท้อนสู่ดีไซน์ภายในด้วยรูปแบบที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วในอดีต ประสิทธิภาพการทำงานของทีมออกแบบ และทีมดีไซน์เนอร์ที่ใช้แนวคิดล้ำสมัยถูกวางเอาไว้ภายในรูปแบบของประโยชน์ ใช้สอย จอมัลติฟังก์ชั่นหรือจอ Center Speedo รวมถึงมาตรวัดความเร็วขนาดใหญ่ ถูกวางอยู่ตำแหน่งกลางแดชบอร์ดซึ่งเอกลักษณ์ของมินิที่ถูกถ่ายทอดจากรุ่น แรกๆที่ออกทำตลาดในช่วงปี 2001 ก็ถูกจัดวางอย่างโดดเด่นตรงกลางแดชบอร์ดเหมือนเช่นเคยแต่ทำหน้าที่เป็น จอแสดงผลแบบ 3D High-resolution รวมถึงได้ถูกเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานด้าน Infotainment ตั้งแต่ระบบนำทางนาวิเกเตอร์, ระบบ On-boardComputer, ระบบเชื่อมต่อข้อมูล Internet ผ่านระบบ Smartphone รวมถึงฟังก์ชั่นต่างๆ ของระบบ MINI Connected เพื่อเอาใจพวกแฟนๆ รถ MINI ที่นิยมของไฮเทคทันสมัย
MINI Rocketman Concept เป็นการกลั่น DNA ความเป็นมินิในทุกรูปแบบเพื่อบรรจุลงในยานยนต์อนาคตขนาดกะทัดรัด นำเสนอการตอบสนองความต้องการใช้งานในรถยนต์ของคนเมืองยุคใหม่ ขณะเดียวกันก็ยังเป็นการย้อนรำลึกถึงตำนานของเจ้า MINI ในอดีตที่ได้ทำการปฏิวัติวงการยานยนต์ด้วยนวัตกรรมที่ก้าวล้ำบนรูปแบบของ City-Car คันแรกๆ ของโลกยนตกรรม ซึ่งมีผลเปลี่ยนแปลงโลกของเราแม้กระทั่งในวันปัจจุบัน ถึงแม้ว่ากาลเวลาหมุนเปลี่ยนไปกว่าครึ่งศตวรรษและทีมออกแบบ MINI ได้นำเสนอนวัตกรรมยานยนต์ที่ล้ำสมัย แต่สิ่งหนึ่งที่ยังถูกคงไว้จากรุ่นสู่รุ่น คือ อารมณ์การขับสไตล์ Go-kartfeeling ที่ช่วยลดการเดินทางประจำวันอันน่าเบื่อบนสภาพการจราจรของเมืองใหญ่ให้กลับ มามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และมันน่าจะทำได้ดีกว่าเดิมด้วยรูปแบบที่แสดงให้เห็นในการโชว์ตัวครั้งนี้.
Car2Hot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น