วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Chevrolet Cruze 1.8 LTZ ความหรูหราที่สุดแห่งคอมแพ้คคาร์ที่ยากจะลืมลง

ทุกวันนี้แม้เราจะไม่ สามารถปฏิเสธได้ว่าราคาน้ำมันที่ทะยานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นล้วนมีผลต่อ การตัดสินใจซื้อรถยนต์รุ่นใหม่ของคนที่กำลังมองหารถคันใหม่ ทำให้รถยนต์กลุ่มใหม่อย่างซิตี้คาร์นั้นถูกมองว่าเป็นพระเอกหน้าใหม่แทนที่ รถคอมแพ็คคาร์ที่กินตลาดมานานนับ 10 ปี
Chevrolet Cruze 1.8 LTZ

1 ปี ของการวางจำหน่าย chevrolet Cruze ในประเทศไทยได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าค่ายรถยนต์รายนี้สามารถตีโจทย์ได้แตก ฉานและวันนี้ในฐานะครบรอบ 1 ปีของคอมแพ็คาร์ที่หลายคนเฝ้าถามหา เราก็ได้มีโอกาสสัมผัสรถรุ่นนี้ที่หลายคนอาจจะยังมีหลายคำถามในใจ
Chevrolet Cruze นั้นับว่าเป็นการสร้างจุดขายใหม่ให้กับตลาดรถยนต์คอมแพ็คคาร์อย่างแท้จริง หลังจากที่หลายค่ายรถยนต์นั้นต่างเทกระจาดไปทางด้านความสปอร์ตหรือบ้างก็ มุ่งเน้นดีไซน์ที่เตะตาจนหลายคนหลงใหล แต่ Cruze นั้นให้ความประทับใจตั้งแต่แรกในแบบความหรูหราเห็นที่วันนี้เราได้นำรุ่น 1.8 LTZ มาเค้นกันอย่างสุดเหวี่ยง

รูปหล่อเน้นๆ ในแบบอเมริกัน

หากพูดถึงรถยนต์ที่มีอยุ่มากมายในโลกรถยนต์สายพันธ์อเมริกันนั้น นับว่าเป็นรถยนต์ที่ได้รับการกล่าวขานอย่างมากเช่นกัน โดยเฉพาะความหรูหราที่เต็มเปี่ยมมาตั้งแต่ใบหน้าที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่ชัดเจน ตามแนวทางของค่ายโบว์ไทน
ดวงตาที่โค้งมลสะบัดขนตาไปด้านข้างนั้นทำให้เรารู้สึกว่า Cruze นั้นพยายามตอกย้ำในความเป็นอเมริกันคาร์มากขึ้นกว่าในรุ่นก่อน ด้วยการให้เส้นสายความหรูหราไปพร้อมกันทางด้านข้างเติมเส้นสายให้ดูสปอร์ต เล็กน้อย เช่นเดียวกับไฟท้ายที่ดูโฉบเฉี่ยวแม้จะออกแนวคล้ายกับรถยนต์บ้างรุ่นที่มี อยู่ในตลาด แต่เมื่อมองโดยรวมแล้วจะชัดเจนว่ารถคันนี้มาพร้อมความงามสง่าสไตล์อเมริกัน อย่างแท้จริง
เส้นสายที่สะดุดตาลงตัวกับหลากเทคโนโลยีที่ให้มาเพิ่มความสะดวกสบาย ที่มุ่งเน้นความทันสมัยทางด้านการขับขี่เหนือชั้นที่คุณมักไม่พบในรถยนต์ กลุ่มนี้ โดยเฉพาะไฟหน้าที่สามารถเปิด-ปิดได้อัตโนมัติ เช่นเดียวกับใบปัดน้ำฝนที่สามารถปัดได้เองเมื่อสายฝนโปรยปรายลงมา คงไม่แปลกที่เราจะบอกว่านี่เป็นความหรูหราตัวจริง
Chevrolet Cruze 1.8 LTZ

ภายในหรูหราเน้นความทันสมัย

ความประทับใจภายนอกของ Cruze นั้นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับภายในที่ยังสื่อสารความหรูหราเต็มพิกัด โดยในรุ่นที่เราได้นำมาทดสอบครั้งนี้เป็นรุ่น 1.8 LTZ ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดของ 1.8 ลิตรแต่เป็นรุ่นรองท็อบในกลุ่ม Chevrolet Cruze ทั้งหมด ที่ต่อท้ายมาจากเครื่องยนต์ 2.0 ดีเซล แต่จะว่าไปออพชั่นภายในโดยรวมไม่ต่างกัน
Chevrolet Cruze 1.8 LTZ
การออกแบบภายใน chevrolet Cruze สามารถรับรู้ได้เลยว่า GM ต้องการนำเสนอความหรูหราที่เหนือชั้นไปอีกระดับมาพร้อมความทันสมัยตั้งเริ่ม สัมผัสประตูกุญแจรีโมทก็ให้ความสะดวกสบายที่จำง่ายเพียงเดินเข้าไปแล้วดึง ประตูพร้อมกุญแจรีโมทก็สามารถก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารได้อย่างสบาย ไม่ต้องมาไขอะไรให้ยุ่งยาก
เมื่อก้าวเข้าสุ่ห้องโดยสารเราจะรู้สึกได้ถึงไออุ่นจากความหรูหราที่ในรถ รุ่น LTZ เบาะทั้งหมดนี้มาเป็นหนังด้วยสีดำตัดกันกับสีน้ำตาลส้ม ให้ความแปลกกว่ารถรุ่นอื่นๆในตลาด แต่ในความแปลกนี้ก็ให้ความลงตัวจากการออกแบบสไตล์ Dual cockpit ที่แฝงความสปอร์ตไว้ด้วยพวงมาลัย 3 ก้านมัลติฟังชั่น ที่ฟังชั่นควบคุมเครื่องเสียงและระบบ Cruise Control
ตรงหน้าคนขับเป็นเรือนไมล์แบบสปอร์ตที่ผสมความหรู้เรืองแสงสีฟ้าสวยงาม ตั้งแต่ Star เครื่องด้วยปุ่มสตารืที่วางไว้ด้านซ้ายของคนขับ ส่วนตรงกลางคอนโซลนั้นเป็นเครื่องเสียงที่ไว้ขับกล่อมและถัดลงมาเป็นระบบ ปรับอากาศอัตโนมัตที่สัมผัสเดียวก็เย็นสบายทั่วห้องโดยสาร

สมรรถนะเป็นเยี่ยมที่มาพร้อมความสะดวกสบาย
หลังสำรวจสิ่งต่างละอันพันละน้อยเสร้จเราก็ได้เวลาออกรถจากสำนักงานใหญ่ ของ chevrolet และบทพิสูจน์แรกคือความคล่องตัว โดยเฉพาะอาคารจอดรถที่นี้อาจจะไม่แคบแบบปราบเซียน แต่ด้วยความที่รถเยอะทำให้การขับขี่ Cruze กว่าจะหลุดพ้นนี้ต้องใช้เวลากันสักพักใหญ่เลยทีเดียว
Chevrolet Cruze 1.8 LTZ
Cruze ผ่านการทดสอบนี้ด้วยความคล่องตัวที่กระฉับกระเฉงแม้ต้องยอมรับว่า รถนั้นออกแนวเหมือนรถหรูค่อนข้างมาก โดยเฉพาะรอบเดินเบาในความเร็ว Walking Speed ของเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร นั้นถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีแต่อาจจะดูแล้วไม่กระฉับกระเฉงมากนัก ทำให้เรารู้สึกว่า การขับ Cruze นั้นสื่อสารออกมาในตัวตนความหรูที่ชัดเจนพอตัวเลยทีเดียว
ในที่สุดหลังผ่าน 7 ชั้นอรหันต์ตึกรสา ที่มั่นของค่ายโบว์ไทน ก็มาผจญต่อกับการจราจรติดขัดบนถนนพหลโยธินที่ยังสาหัสเหมือนเดิมไม่เคย เปลี่ยนแปลง การขับออกถนนใหญานี้เราใช้ตำแหน่งเกียร์ D ปกติในการขับรถ ซึ่ง Cruze ให้อัตราเร่งที่ถือว่าใช้ได้ แต่หากจะให้เร้าใจนั้นจำเป็นต้องเค้นกันเสียหน่อย แต่หากหวังที่จะต้องเจอความแรงแบบหลังติดเบาะนั้นอาจจะต้องผิดหวังเล็กน้อย เพราะรถคันนี้เร่งเรื่อยๆแบบรถผู้ดี แต่ยังได้ดั่งใจและนิ่มนวล
บนเส้นทางในเมืองนั้นเมื่อขับตามที่ปถุชนคนใช้รถน่าจะขับกันนั้น เราพบว่า Chevrolet Cruze นั้นค่อนข้างมีอัตราประหยัดน้ำที่ออกแนวรับประทาานเล็กน้อย เมื่อมองดูทริปคอมพิวเตอร์ตรงหน้า มันยืนยันว่า 1 ลิตรไปได้เพียง 10.2 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของรถยนต์เครื่องยนต์ 1800 ซีซี

Cruze ใช้ Cruise รับรองได้ประหยัดจริง

เช้าวันใหม่เราได้ฤกษ์เดินทางออกพิสูจน์สมรรถนะของ Cruze กันอีกครั้งที่แมทช์นี้ปลายทางเราคือทะเลงามหาดทรายสวยยังคงล่องใต้ไปยัง "ชะอำ" ที่เส้นทางแบบ 3 เลน ตลอดทางน่าจะโชว์สมรรถนะการขับขี่ให้เราได้กระจ่างกันมากขึ้น
เราขับ Chevrolet Cruze ด้วยความเร็วเดินทางโดยเหมาเอาว่า 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้น่าจะเป็นตัวเลขที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ 1800 ซีซี และสภาพถนน 3 เลน เกือบตลอดทาง บางครั้งความเร็วขนาดนี้ก็ยอมรับว่าน่าเบื่อแต่เราก็ไม่ลืมที่จะกด คอมพิวเตอร์ที่พบว่า cruze ทำอัตราประหยัดได้ประมาณ 13.5 กิโลเมตรต่อลิตรในการขับที่ความเร็วนี้ โดยใช้รอบเครื่องเพียง2100รอบโดยประมาณที่เกียร์ 6 ถือว่าทำได้ไม่เลวทีเดียว
Chevrolet Cruze 1.8 LTZ
ตัวเลขที่นิ่งอยุ่ที่ 13 กิโลเมตรต่อลิตรนั้นพาเราอดสงสัยไม่ได้ว่ามันจะทำได้ดีกว่านี้หรือไม่ เพราะเป็นแบบนี้ก็อาจจะสอบตก และถือว่าเป็นโจทย์ที่หนักพนาพอตัวของรถเครื่อง 1.8 ลิตร ที่มีน้ำหนักตัวราวๆ 1300 กิโลกรัม แม้จะพ่วงด้วยเกียร์ 6 สปีดก็ตามที่ แต่เหลียวซ้ายแลขวา ท่ามกลางความหรูและเสียงเพลงที่ขับกล่อมได้ไพเราะกับลำโพง 6 ตัวนั้น มันก็พาลให้เราอยากจะซนระบบ Cruise control
การใช้ cruise Control นั้นก็จัดวางตำแหน่งได้ดีและสามารถสื่อสารได้ง่าบกับคนขับเพียงเปิดสวิทชืท ี่อยู่ในสุดทางด้านซ้าย ที่จัดทำมาในรูปแบบสวิทช์กดนั้น หลังจากนั้นหากจะล็อคความเร้วก็เพียงกดปุ่มเซทเพียงเท่านี้ความเร็วก็จะถูก ล็อคไว้อย่างคง โดยการยกเลิกนั้นสามารถทำได้ด้วยปุ่มที่พวงมาลัยเช่นกันหรืออาจจะใช้การแตะ เบรคไม่ว่าอะไรก็เป็นการปลดระบบ Cruise Controlทั้งนั้น
ระบบ Cruise control นั้นมีข้อดีที่การล็อคความเร็วที่ และมันช่วยให้คุณประหยัดน้ำมันได้ และใน Cruze นี้ไม่ต้องแปลกใจถ้าขับไปขับมาแล้ว Trip computer จะโชว์ว่าคุณทำอัตราประหยัดได้สูงสุดถึง 16 กิโลเมตรต่อลิตร เมื่อวิ่งนอกเมือง ทั้งที่ใช้ความเร็วเดินทางปกติเท่าเดิม ไม่ได้คลานไป นี่เป็นเรื่องที่น่าประทับใจอย่างหนึ่งของรถรุ่นนี้

Euro ride ช่วงล่างดีเทียบชั้นรถหรู
การขับขี่บนถนนนั้นเรื่องที่หลายคนมองข้ามแต่ส่วนตัวแล้วผมกลับรู้สึกว่า มันสำคัญนั้นคงไม่ใช่อะไรอื่นไกล นอกจากระบบกันสะเทือนหรือที่พวกเรามักเรียกกันว่า "ช่วงล่าง"
Chevrolet Cruze นั้นสืบทอดต่อจากบรรพบุรุษอย่าง optra และช่วงล่างสุดพิเศษตามสไตล์ยุโรปหรือ Euro ride นั้น ก็ได้รับการถ่ายทอดมาทำให้ยิ่งขับยิ่งนึกว่า Cruze เป็นรถหรู ด้วยสไตล์ช่วงล่างแบบแน่นแต่ไม่กระด้าง เน้นความนิ่มนวลในการขับขี่มีการซับแรงกระแทกในระดับที่ถือว่าดีพอสมควร
Chevrolet Cruze 1.8 LTZ
ผ่านออกนอกเมืองเราลองเร่งทำความเร็วในระดับความเร็วสูงเพื่อดูสมรรนะของ รถโดยรวมว่าจะไปได้สักเท่าไร แต่กระทุ้งอย่างไรเราก็ไม่ผ่านที่ 160 กิโลเมตร ต่อชั่วโมงไปได้เข้าใจว่าทางโบว์ไทน์คงล็อกเอาไว้ ส่วนช่วงล่างนั้นแม้จะเร็วขึ้น แต่ก็ยังไม่รู้สึกว่ารถคันนี้อยากจะเหินยังเกาะแน่นเหมือนเดิมแถมยังนิ่ง สนิท และค่อนข้างสเถียรมาก ทั้งในยามเปลี่ยนเลน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากระบบ ESP ที่ติดมากับรถช่วยควบคุมการทรงตัวไม่ให้โยน แม้ยามเปลี่ยนเลนกระทันหันก็ตาม ในขณะที่เรื่องการเก็บเสียงห้องโดยสารที่ความเร็วขนาดนี้ยังไม่เสียงลมรอด เข้ามาให้ได้ยินเลยแม้แต่น้อย
รวบรัดตัดความ Chevrolet Cruze นั้นดูเหมือนว่าจะเป็นนิยามใหม่ของคนที่กำลังมองหาคอมแพ็คคาร์ ซึ่งอาจจะไม่อยากขยับขึ้นไปเล่นซีดานขนาดกลาง และกับเจ้า Cruze 1.8 LTZ คันเดียวกันกับที่เราขี่นี้ด้วยสมรรถนะต่างๆออพชั่นเดียวกับรถหรูที่ให้มามันกลับมีราคาเพียง998,000 บาทเท่านั้น แถมยังสบายและคล่องตัวในเมืองอีกต่างหาก

ตารางคะแนนการขับขี่ Chevrolet Cruze 1.8 LTZ


หัวข้อ

คะแนน (เต็ม10)

คำแนะนำและข้อเสนอแนะ

รูปลักษณ์ภายนอก

9.5

เรือนร่างสุดหรูตั้งแต่ภายนอกทำให้น่าประทับใจและสามารถแสดงออกในตัวตน ได้ดีตรงนี้ค่อนข้างจะดูเป้นที่ชืนชอบของใครหลายคนอยู่แล้ว แต่จะติก็ไฟท้ายถ้าดีและฉีกกว่านี้น่าจะดีกว่า

ภายในห้องโดยสาร

9.5

ข้างในห้องโดยสารอัดแน่นอนด้วยเทคโนโลยีแถมยังหรูหราในแบบที่ไม่มีใครทำ ได้เมื่อวัดจากรถกลุ่มเดียวกันแต่เราก็ดันไปเจอสิ่งเล็กน้อบจะว่าข้อผิดพลาด คงไม่ใช่ แต่เหมือนเป็นความตั้งใจกับการปลดเกียร์มาตำแหน่งเกียร์ว่างเวลาจอดขวางที่ ต้องแงเช่องเล็กตรงเกียร์ออกมาก่อนเอากุญแจจิ้มเข้าไป ซึ่งความจริงแล้วน่าจะทำยังไงก็ได้ที่ไม่ต้องแงะ มันค่อนข้างเสียงลุคตรงนี้
อีกประการ Chevy มาพลาดเรื่อง DNA ของรถที่สื่อสารได้ดีมาโดยตลอดจะมาตายตอนจบตรง ก้านปัดน้ำฝนกับไฟเลี้ยวที่ดันเหมือนรถญี่ปุ่นเสียงอย่างงั้น นี่ถ้าสลับแบบรถอเมริกันรับรองว่าใครก็เชื่อ ว่า Made in usa

สมรรถนะเครื่องยนต์และความประหยัด

9.5

Chevrolet Cruze 1.8 ค่อนข้างลงตัวในด้านความประหยัดส่วนหนึ่งมาจากระบบเกียร์ 6 สปีด ที่ยังมี Manual Mode ให้เลือกเล่นอีกด้วย ส่วนอัตราประหยัดในเมือง 10.2 ก.ม/ลิตร นอกเมืองสุงสุด 16 ก.ม./ลิตรนั้นน่าประทับใจ แต่จากระยะทางกว่า 600 ก.ม.ที่เราขับนั้น เราทำได้อัตราเฉลี่ยราวๆ 14.5 กิโลเมตรต่อลิตรถือว่าเฉยๆ เมื่อเทียบกับจำนวนเกียร์มากขึ้นกว่ารถรุ่นอื่น

ระบบกันสะเทือนและเทคโนโลยี

10

ช่วงล่าง Euro ride เป็นความประทับใจที่เราให้คะแนนเต้ม ยิ่งเมื่อรวมกับเทคโนโลยีการขับขี่ที่ถอดเอาจากตัวหรูมาสู่คอมแพ็คคาร์ เราจึงอยากขอให้ GM รักษาเรื่องนี้ต่อไป
เรื่องและภาพโดย ณัฐยศ ชูบรรจงSanook Auto

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น