วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ลองของแนว MERCEDES BENZ NEW A-CLASS (ตอนที่2)



ตอน ที่สองกับการซิ่ง New A-Class ไปบนสนามแข่งโบนันซ่า ทดสอบการควบคุมตัวรถในสถานการณ์ต่างๆ โชว์ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และระบบรองรับที่เฉียบคมสุดๆ...

บริษัท Mercedes Benz Thailand Co,Ltd. เชิญสื่อมวลชนและลูกค้า VIP ทดสอบสมรรถนะเชิงประสิทธิภาพของการควบคุม อบรมการขับขี่แบบปลอดภัย การควบคุมรถในสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงการแก้ไขอาการของรถที่กำลังเสียหลัก โดยใช้รถทดสอบ Mercedes-Benz A-Class รุ่นล่าสุดทั้ง A180 Style และ A250 AMG Sport ในงาน Mercedes Benz Driving Experience 2013 เปิดประสบการณ์เรียนรู้วิธีควบคุมรถแบบปลอดภัย บนสนามเซอร์กิตเป็นครั้งแรก ด้วยรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ The new A-Class คอมแพ็คคาร์เจเนอเรชั่นใหม่ พร้อมด้วยเทรนเนอร์ดีกรีนักแข่งรถมืออาชีพจากประเทศออสเตรเลีย แนะเทคนิคให้แก่กลุ่มลูกค้าและสื่อมวลชน ณ สนามแข่งโบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์

11.30 น. วันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2556 มาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท Mercedes Benz Thailand Co,Ltd. กล่าวต่อผู้สื่อข่าวในช่วงสายของวันเปิดงาน ภายในห้องแถลงข่าวของสนามแข่งรถโบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์ ว่า “ปีนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของ Mercedes Benz กับกิจกรรม Mercedes-Benz Driving Experience (MBDE) ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 10 โดยในปีนี้กิจกรรมการทดสอบมีความพิเศษและแตกต่างจากทุกปีที่ผ่านมา คือ การนำรถยนต์ Mercedes Benz The new A-Class มาใช้ในการทดสอบสมรรถนะเชิงความปลอดภัยบนสนามแข่งเป็นครั้งแรก ซึ่งเล็งเห็นว่า การทดสอบสมรรถนะเชิงความปลอดภัยถือเป็นส่วนสำคัญยิ่งในปรัชญาด้านความ ปลอดภัยแบบบูรณาการ Mercedes Benz Thailand Co,Ltd. จึงได้นำทีมนักแข่งมืออาชีพที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญการขับขี่บนสนาม แข่งมาแนะเทคนิคการขับขี่ให้แก่บรรดาลูกค้าและสื่อมวลชน ร่วมกับทีมผู้ฝึกสอนจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)” กิจกรรมทดสอบสมรรถนะความปลอดภัย “Mercedes-Benz A-Class Driving Experience” จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10 รวมระยะเวลาการจัดทดสอบ 18 วัน (ระหว่างวันที่ 7 - 24 กุมภาพันธ์ 2556) โดยดำเนินการจัดทดสอบในสนามแข่ง ณ สนามแข่งโบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์ เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา


คม กริช นงค์สวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท Mercedes Benz Thailand Co,Ltd. ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวถึงจุดประสงค์ของการจัดทดสอบเรียนรู้การขับขี่และ สัมผัสกับสมรรถนะของ New A-Class 2013 ในครั้งนี้ว่า “Mercedes Benz เห็นว่ากิจกรรมการทดสอบสมรรถนะเชิงความปลอดภัยเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ ลูกค้าได้มีประสบการณ์ขับขี่รถยนต์ A-Class ถึงศักยภาพขีดความสามารถในสมรรถนะและประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ พร้อมเข้าใจถึงระบบความปลอดภัยต่างๆ ซึ่ง Benz ได้จัดเตรียมรถยนต์ New A-Class รุ่น A 250 AMG Sport และA 180 Style สำหรับการทดสอบไว้ถึง 15 คัน โดยจัดทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญและมีดีกรีเป็นนักแข่งรถมือ อาชีพจากประเทศออสเตรเลีย 4 ท่าน ซึ่งมีประสบการณ์การสอนการขับขี่ปลอดภัยและการขับขี่บนสนามแข่งมาแล้วทั่ว โลก นำทีมโดย ปีเตอร์ แฮ็คเก็ต- เอลเลียต บาร์เบอร์ - จอร์ช มีเด็กค์ และ โร ชาร์ลส ร่วมด้วยผู้ฝึกสอนจาก Mercedes Benz Thailand Co,Ltd. อัชฌ์ บุณยประสิทธิ์ และ ชัยวัธน์ แก้วงามอรุณ ซึ่งผ่านการฝึกอบรมโปรแกรมการขับขี่ปลอดภัยและได้รับประกาศนียบัตรรับรอง มาตรฐานจาก Mercedes Benz ประเทศเยอรมนี รวมถึง สิรคุปต์ เมทะนี นักแสดงและนักแข่งรถมืออาชีพ”


The New A-Class เป็นรถยนต์คอมแพ็คคาร์เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ดีไซน์แบบใหม่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ในเซ็กเมนท์นี้ และยังเป็นยนตรกรรมที่เปรียบเสมือนจังหวะชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่มีสไตล์เป็น ของตัวเอง รักในความเป็นสปอร์ต ปราดเปรียว คล่องแคล่ว มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินแบบแถวเรียง 4 สูบเทอร์โบ ที่ถ่ายทอดผ่านกำลังเกียร์อัตโนมัติแบบ 7G-DCT พร้อมด้วยฟังก์ชั่น ECO Start/Stop โดย The New A-Class ถือเป็นมาตรฐานใหม่ในด้านการประหยัดพลังงาน ทั้งประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันที่สูงขึ้นถึง 26% รวมทั้งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 98 กรัมต่อกิโลเมตร นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP® – Electronic Stability Program) ที่ช่วยให้ล้อรถยนต์ยึดเกาะผิวถนนได้ดีขึ้น รวมถึงการควบคุมการทรงตัวของระบบช่วงล่าง ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นฟีทเจอร์มาตรฐานของรถยนต์ยี่ห้ออื่นๆ ทั่วโลก ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบช่วยเบรก BAS (Brake Assist), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control) เป็นต้น ซึ่งทำให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพบนท้องถนน


การ ทดสอบจะใช้เวลาหนึ่งวันเต็ม ซึ่งประกอบไปด้วยแบบทดสอบลักษณะต่างๆ ได้แก่ การบังคับรถในทิศทางที่กำหนด (Handling Challenge) การขับด้วยความเร็วและเปลี่ยนช่องทางวิ่งแบบกะทันหัน (High Speed Lane Change) เพื่อเรียนรู้อาการของรถและการควบคุมรถอย่างถูกวิธีเมื่อขับด้วยความเร็วสูง และการจำลองสถานการณ์เพื่อทดสอบโปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ หรือ ESP® – Electronic Stability Program (ESP® Simulator) เมื่อต้องควบคุมรถในสถานการณ์คับขัน เช่น หักหลบสิ่งกีดขวางบนถนนเปียกลื่น และเปรียบเทียบอาการเสียการทรงตัว อาการเข้าโค้งและหลุดโค้ง เป็นต้น นายคมกริช กล่าวสรุปว่า “ในการทดสอบสมรรถนะเชิงความปลอดภัยด้วยรถยนต์ Mercedes Benz New A-Class บนสนามแข่งในครั้งนี้ นอกจากผู้เข้ารับการทดสอบจะได้รับประสบการณ์จริง มีความเข้าใจและสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีความปลอดภัยอันทันสมัยที่ติด มากับตัวรถได้อย่างเต็มที่บนสนามแข่งเป็นครั้งแรกแล้ว ผู้เข้าร่วมทดสอบทุกท่านที่ผ่านการทำแบบทดสอบจะได้รับประกาศนียบัตรรับรอง จากทางบริษัทฯ อีกด้วย”


12.00 น. ทีมงาน Instructor ของ Mercedes Benz แบ่งสื่อมวลชนออกเป็นสามทีมเพื่อลงทดสอบพร้อมๆ กันทั้งสี่สถานี สำหรับสถานีแรกเป็นการทดสอบการทรงตัวของ New A-Class ซึ่งใช้การขับขี่แบบ Handling Challenge - Gymkhana สลาลมหลบกรวยไพล่อนที่ตั้งวางเรียงรายอยู่บนแทร็คของสนามแข่งโบนันซ่าในช่วง ปลายทางตรงก่อนเข้าโค้ง สเตชั่นแรกของการเรียนรู้และการควบคุมรถ New A-Class เริ่มจากท่านั่งที่ถูกต้อง การจัดวางขาและแขนให้มีความสัมพันธ์กับการหมุนพวงมาลัยหรือเหยียบแป้นคัน เร่ง-เบรก Instructor นักขับรถแข่งชาวออสซี่ Elliot Barbour และคุณอั๋น สิรคุปต์ เมทะนี นักแสดงและนักแข่งรถมืออาชีพ ซึ่งรับหน้าที่ผู้ฝึกสอนประจำสเตเชั่น Handling Challenge - Gymkhana แนะนำการจัดท่านั่งที่ถูกต้อง สำหรับการขับขี่แบบยิมคาน่าที่ต้องใช้ความเร็วมากกว่าการขับแบบปกติ เบาะนั่งถูกปรับลงไปจนสุดเพื่อให้จุดศูนย์ถ่วงของการนั่งควบคุมรถมีความ สมดุล บนตัวรถทดสอบ Mercedes Benz New A-Class A250 AMG Sport จำนวนห้าคันซึ่งเป็นรุ่นสูงสุดทั้งแรงม้าและอุปกรณ์ตกแต่ง สำหรับรถรุ่น A250 AMG Sport นอกจากจะมีชุดแต่งของ AMG แล้ว ยังใส่ล้ออัลลอยของ AMG ลาย 5 ก้านขอบ 18 นิ้วกับยาง Michelin Pilot Sport ไซล์ 225/40/R18 เป็นยางที่เหมาะสมกับรถแฮตช์แบคที่มีเรี่ยวแรงเกิน 200 แรงม้า บนสถานีทดสอบแรก ผมรอจนเพื่อนๆ สื่อมวลชนขับขี่ไปคนละรอบ-สองรอบก่อนเพื่อให้ยางและเบรกมีอุณหภูมิที่อุ่น ขึ้น หลังจากนั้นจึงออกไปขับเป็นคนท้ายๆ สถานีนี้ สำหรับผู้ที่ทำเวลาได้ต่ำที่สุดจะมีรางวัลเป็นรถจำลอง New A-Class A250 AMG Sport ขนาด 1:18 ทำให้เพื่อนๆ หลายคนรวมทั้งตัวผมผลักดันเจ้า A250 AMG ในช่วงจับเวลาจนแทบจะถึงขอบเขตอันจำกัดของตัวรถเลยทีเดียว


พวง มาลัยไฟฟ้าของ A250 AMG ในโหมดสูงสุดให้ความกระชับและฉับไวในระดับที่น่าพึงพอใจ เมื่อมาอยู่ในรถขับเคลื่อนล้อหน้าทำให้การควบคุมทิศทางค่อนข้างง่ายและมี น้ำหนักที่พอเหมาะพอควร ไม่เบาหวิวจนน่ากลัวหรือหนักจนเกินไป มันคมและมีกริ้บของยาง Michelin Pilot Sport เป็นตัวปรุงแต่งให้ขับแบบยิมคาน่าได้สนุกสนานมากยิ่งขึ้น กรวยไพล่อนที่ตั้งอยู่ชิดกันยังช่วยบีบให้ความเร็วของรถไม่สูงมากจนเกินไป ซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้สำหรับบางคนที่ขับเร็วมากจนเกินพอดี การถ่ายเทน้ำหนักทำได้ดีอย่างไร้ที่ติ อาการหน้ายุบหรือย้วยของ New A-Class เกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยจากระบบรองรับแบบสปอร์ตที่เซตมาจากโรงงานที่ให้ความ รู้สึกหนึบนุ่มมากกว่าแนวแข็งกระด้าง ส่วนอาการหน้าดื้อนั้น หากใช้คันเร่งให้มีความเหมาะสมกับการสาวพวงมาลัย มันจะเลี้ยวกลับลำ 360 องศาด้วยมุมเลี้ยวที่ค่อนข้างแคบ สถานีแรกนี้มีการใช้เบรกกันพอสมควรไม่หนักแบบสถานีที่สองซึ่งเป็นการจำลอง สถานการณ์เปลี่ยนทิศทางแบบกะทันหันหรือ Lane change สำหรับเวลาที่ดีที่สุดในสเตชั่น Handling Challenge - Gymkhana คือ คุณอัฐฐา นายเรือ ที่ทำได้ 18.01 วินาที คว้ารางวัลรถจำลอง A250 AMG สีเงินไปครอบครองทันที ส่วนผมล่อไปถึง 20.19 วินาที แต่ก็ยังถือว่าโอเคเพราะไม่ได้ชนกรวยไพล่อนเลยแม้แต่อันเดียว


สถานี หรือสเตชั่นทดสอบที่สองเป็นการฝึกบังคับควบคุมหักเหทิศทางของรถแบบกะทันหัน หรือ Lane change เจ้าหน้าที่นักขับของทีมงาน Mercedes Benz ประกอบด้วย Peter Hackett นักแข่งรถคนแรกที่ชนะเลิศทั้งการแข่งขัน Australia Formula 4000 และ Formula 3 Championship กับคุณชัยวัธน์ แก้วงามอรุณ ซึ่งผ่านการฝึกอบรมโปรแกรมการขับขี่ปลอดภัยระดับสูงและได้รับประกาศนียบัตร รับรองมาตรฐานจาก Mercedes Benz ประเทศเยอรมนี สถานีนี้กรวยไพล่อนถูกตั้งเพื่อกำหนดให้ตัวรถสามารถทำความเร็วได้ระดับหนึ่ง (ประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) แล้วหักหลบซ้ายขวาสองครั้งก่อนที่จะพุ่งไปยังตำแหน่งที่จะต้องใช้เบรกแบบ เต็มกำลัง สถานีนี้สร้างความตื่นเต้นจากความเร็วของตัวรถที่เพิ่มมากขึ้นกว่าสถานีแรก เสียงยางเสียดสีกับผิวแทร็คและเสียงเบรกอย่างรุนแรงดังต่อเนื่องตลอดเวลาที่ สื่อมวลชนได้ลงไปสัมผัสทดสอบการควบคุมที่ต้องใช้ทักษะเพิ่มมากขึ้น ผมใช้รถทดสอบ A250 AMG Sport สีเทาที่ผ่านการวิ่งมาอย่างโชกโชนตั้งแต่วันแรกๆ ของงาน Mercedes-Benz Driving Experience (MBDE) ยาง Michelin Pilot Sport ถูกเปลี่ยนทันทีที่โดนตรวจพบว่าเกิดรอยบั้งขึ้นที่ขอบหน้ายาง บูธของ Michelin รับหน้าที่เป็นบริษัทยางเจ้าประจำสำหรับใช้ขับทดสอบในงาน Mercedes Benz Driving Experience ด้วยการเตรียมสำรองยางสำหรับการขับทดสอบที่เปลืองหน้ายางมากกว่าการขับแบบ ปกติ


เมื่อ กดคันเร่งพุ่งออกมาจากจุดสตาร์ตที่ใช้ทดสอบ ESP® – Electronic Stability Program (ESP® Simulator) ไฟสัญญาณเตือนการทำงานของ Traction Control ระบบช่วยทรงตัว ESP กะพริบถี่ยิบ ความเร็วอยู่ในระดับกำหนดไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผมเล็งไปที่ทิศทางที่จะมุ่งหน้าไปตามคำแนะนำของคุณชัยวัธน์ แก้วงามอรุณ โดยไม่มองไปที่กรวยไพล่อนซึ่งเป็นอุปสรรคที่ถูกตั้งเรียงรายเอาไว้เพื่อ บังคับทั้งทิศทางและความเร็ว ผมหักพวงมาลัยไปทางซ้ายและขวาตามทิศทางที่ถูกกำหนด ก่อนเจ้า A250 AMG จะทะยานผ่านจุดที่ต้องเบรกแบบเต็มกำลัง การหักพวงมาลัยอย่างต่อเนื่องใน A250 AMG ให้ความรู้สึกที่มั่นคง แม้ด้านหน้ารถจะออกอาการดื้อบ้างเล็กๆ เมื่อผมเติมคันเร่งมากเกินไปจนไม่สัมพันธ์กับการหักพวงมาลัย แต่ระบบควบคุมการทรงตัวที่เปิดเอาไว้ได้เข้ามาแทรกแซง และทำให้การหักหัวรถ เปลี่ยนทิศทางทำได้ดีและให้ความมั่นใจได้ในระดับที่น่าพึงพอใจ เบรกมีแรงต้านเล็กน้อยพร้อมๆ ไปกับการทำงานของระบบป้องกันล้อล็อกหรือ ABS ดังตึกๆๆ ทันทีที่ลงน้ำหนักเบรกแบบเต็มกำลัง แม้จะมีระยะเบรกเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ทิศทางที่รถมุ่งไปกลับมั่นคงไม่มีอาการส่าย หรือวอกแวกแม้แต่น้อย ระบบป้องกันล้อล็อกของ New A-Class ยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมทิศทางของรถขณะเบรกได้อีกด้วย ที่สถานีที่สอง สื่อมวลชนได้ลองควบคุมโดยใช้การหักหลบเปลี่ยนทิศทางแบบกะทันหันกันอย่าง จุใจถึงคนละ 3-4 รอบเลยทีเดียว เป็นอีกสถานีหนึ่งที่ยางและระบบห้ามล้อรวมถึงพวงมาลัยไฟฟ้าต้องทำงานอย่าง หนัก


สถานี ที่สามเป็นการขับ A250 AMG รุ่นสูงสุด บนรูปแบบของการแข่งขัน Quarter Mile หรือ Drag Racing เพื่อทดสอบอัตราเร่งของเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 209 แรงม้าที่มีประสิทธิภาพเหมาะสมกับขนาดของตัวรถ วิศวกรของ Mercedes Benz เคลมว่ามันสามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรได้ในเวลาเพียง 6.6 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 241.4 ในการตะกายไปถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงของรถ A-Class รุ่นสูงสุด ครูฝึก Peter Hackett ชาวออสเตรเลียและคุณชัยวัธน์ แก้วงามอรุณ จัดประกับคู่โดยปล่อยรถทีละสองคันจากจุดสตาร์ต เร่งความเร็วจนเข้าเส้นชัยบนระยะทาง 400 เมตร ผมใช้วีธีการออกตัวโดยกดคันเร่งและแป้นเบรกไปพร้อมๆ กัน เกียร์ 7G-DCT พร้อมระบบ ECO Stop/Start สำหรับรุ่นสูงสุด A-Class A250 AMG Sport Package มีสมองกลเกียร์ที่ฉลาดเกินเหตุ เมื่อผมกดทั้งเบรกทั้งคันเร่งเพื่อการออกตัวที่รวดเร็ว ระบบควบคุมจะส่งสัญญาณเตือนเป็นตัวอักษร HOLD MODE บนจอมัลติฟังก์ชั่น เป็นการเตือนแบบกะพริบถี่ๆ ผมถอนเท้าซ้ายออกจากแป้นเบรกพร้อมๆ กับกดเท้าขวาลงลึกไปที่คันเร่ง เจ้า A250 AMG Sport Package ออกตัวแบบเนือยๆ แตกต่างจากรถคันข้างๆ ที่ออกตัวอย่างรวดเร็วทั้งๆที่ใช้เพียงแค่การกดเท้าไป ที่แป้นคันเร่งเพียงอย่างเดียว เกิดจากเกียร์ที่มีระบบป้องกันการออกตัวอย่างไม่ถูกวิธีที่จะทำให้เกิดการ สึกหรออย่างรวดเร็วนั่นเอง ในรอบที่สอง ผมเพียงแค่กดคันเร่งลงไปจนสุดโดยไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับแป้นเบรก เจ้า A250 AMG พุ่งทะยานไปตามแรงเท้าพร้อมๆ ไปกับแรงดึงที่ทำให้รู้สึกสนุก เวลา 6.6 วินาที สำหรับการตะกายไปถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้มันได้เปรียบเจ้า MINI Cooper S R56 อยู่นิดๆ แต่ถึงแม้ว่ากำลังของ A250 AMG จะเหนือกว่ารถเล็กที่สร้างโดย BMW คู่แข่งสำคัญในตลาด การเข้าออกโค้ง MINI กลับให้ความรู้สึกที่คมกว่าจากระบบรองรับที่เซตมาเพื่อการซิ่งสถานเดียว ไม่ได้ปรับตั้งมาในรูปแบบซิ่งก็ได้ไหลก็ดีอย่าง New A-Class


สถานี สุดท้ายเป็นการเรียนรู้การควบคุมรถขณะที่ต้องเบรกในผิวถนนที่มีน้ำปกคลุม สเตชั่นที่สี่เป็นหน้าที่ของคุณอัชฌ์ บุณยประสิทธิ์ หรือคุณดอม กับนักขับออสซี่ George Miedecke ซึ่งเคยได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขัน AMRS Production Touring Car Championship ใน Class B อีกทั้งยังได้รับรางวัล“ดาวรุ่งที่น่าจับตามอง” รวมถึงการเป็นนักขับทดสอบของรถแข่งพลังสูงแบบ V8 Super car ในทวีปออสเตรเลีย สถานีนี้ครูฝึกสอนทั้งสองคนใช้รถ Mercedes Benz A180 Style รวม 5 คัน โดยทุกคันจะถูกปิดระบบช่วยทรงตัวหรือ ESP® – Electronic Stability Control เหลือเพียงแค่ฝีมือล้วนๆ ในการขับทดสอบที่ต้องหักหลบไพล่อนในสถานการณ์ที่ผิวถนนมีน้ำฉาบอยู่ ล้อคู่หลังของรถทดสอบ Benz A180 Style ทั้ง 5 คัน ยังถูกคลุมด้วยยางพลาสติกที่ช่วยให้ลื่นขึ้นไปอีกระดับ มันลื่นจนเหมือนกับวิ่งอยู่บนถนนที่ถูกราดด้วยเนยเหลวๆ ท้ายรถที่พร้อมจะปัดตัวเองตลอดเวลาหากกระตุกพวงมาลัย ทำให้สามารถเรียนรู้ เคล็ดลับในการแก้อาการของตัวรถขณะเกิดการปัดหรือหมุนจากการเบรกเต็มกำลังบน พื้นถนนที่เปียกลื่น พวงมาลัยไฟฟ้าของ A180 Style นั้นเบาสบายมืออยู่แล้วในย่านความเร็วต่ำ การแต่งพวงมาลัยแก้อาการท้ายปัดช่วยเพิ่มพูนทักษะในการควบคุมตัวรถตามคำแนะ นำของครูฝึก และเนื่องจากยังพอมีเวลาเหลืออยู่ สถานีสุดท้ายในการลองขับบนผิวถนนที่เปียกลื่นแล้วจึงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน จากท้ายรถที่คอยจะปัดอยู่ตลอดเวลา เมื่อปราศจากระบบช่วยทรงตัว ESP® – Electronic Stability Control เจ้า New A-Class ไม่ต่างไปจากม้าพยศที่คอยจะหมุนซ้ายป่ายขวาอยู่ตลอดเวลาเมื่อเบรกแบบเต็ม กำลังหรือหักพวงมาลัยแบบฉับพลันทันที การควบคุมทิศทางจึงจำเป็นต้องแก้ที่การหักพวงมาลัยไปยังทิศที่ตรงกันข้ามกับ ท้ายรถที่กำลังปัดอย่างรุนแรง เทคนิคที่ครูฝึกแนะนำจะเกิดประโยชน์อย่างมากสำหรับการแก้ไขในสถานการณ์จริง หากรถเกิดการเสียหลัก เช่น ท้ายปัดหรือหมุนเนื่องจากการหักพวงมาลัยหรือเบรกขณะผิวถนนเปียกลื่น


สเต ชั่นของการฝึกทั้งสี่สถานีจบลงในช่วงเย็น หลังจากนั้นเป็นการเชิญสื่อมวลชนทั้งหมดนั่งไปกับนักขับระดับเซียนชาวออสซี่ สี่คนและครูฝึกจากประเทศไทยทั้งสองท่าน ในช่วง Hot Lap บนตัวรถ A250 AMG Sport ซึ่งใช้ความเร็วหรือสปีดในระดับที่ใช้สำหรับการแข่งขันแบบเซอร์กิต การนั่งไปบนรถสปอร์ตที่กำลังอัดเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงในสนามแข่งรถโบนัน ซ่าสร้างความตื่นเต้นประทับใจให้กับสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก ประสิทธิภาพของตัวรถทั้ง A180 และ A250 สำหรับการขับทดสอบในสนามยังทำให้รู้ถึงความสามารถของระบบรองรับ เครื่องยนต์ เบรก ชุดส่งกำลังและระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่มีอยู่ในตัวรถรุ่นนี้ คงต้องรออีกสักระยะสำหรับการทดสอบวิ่งทางไกลที่จะมีขึ้นอีกครั้งหลังจากการ ทดสอบในสนามแข่งรถสิ้นสุดลงในช่วงปลายเดือนนี้ โดยส่วนตัวแล้ว เจ้า New A-Class เป็นยนตรกรรมแฮตช์แบค 5 ประตูที่ควบคุมได้ง่ายดายราวกับรถเด็กเล่น ไม่ว่าคุณจะอายุ 20 หรือ 70 ปีก็สามารถขับเจ้านี่ได้อย่างคล่องแคล่ว ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพของการขับขี่ด้อยลงแต่อย่างใด ทั้งสิ้น รูปแบบและสีสันที่สวยงามของมันจะทำให้คุณชอบมันได้ไม่ยาก และจะรักมันมากขึ้นเมื่อได้ลอง ภายในที่ลงตัวทั้งรุ่นปกติและรุ่นสูงสุดจะมีส่วนช่วยให้ตัวเลขยอดขายไปได้ดี ในตลาดรถเล็กระดับสูงของไทย ด้วยเงิน 1.89-2.5 ล้านบาท คุณจะได้รถที่วิ่งได้ดีพอๆ กับรถซิ่งในสนาม งานตกแต่งห้องโดยสารที่โดนใจและสภาพการขับขี่ที่ไม่เป็นรองรถคู่แข่ง หากสนใจก็ลองไปขับทดสอบด้วยตัวเองตามโชว์รูมของตัวแทนจำหน่ายของค่าย Mercedes Benz Thailand ดูว่ามันตรงและโดนกับความชอบของคุณหรือเปล่า สำหรับผมแล้ว การมีเจ้าตัวเล็กอีกคันในโรงรถที่บ้านหากยังพอมีที่จอดเหลือพอสำหรับมัน บนการใช้งานทั้งในเมืองและวิ่งทางไกล มันจะเป็นยานพาหนะขนาดกะทัดรัดอีกคันที่ทำให้คุณพึงพอใจได้อย่างไม่ยากเย็น นัก.


อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail @thairath.co.th">chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom


http://www.roddb.com/images/banners/RodDB_88x31.gif

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น