วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เจาะลึก PORSCHE CARRERA 4S

ล้วงแคะ แกะ เกา สมรรถนะและเทคโนโลยีของ Carrera 4S สปอร์ตคาร์เครื่องสูบนอนวางหลังขับเคลื่อนสี่ล้อสุดแรงของ Porsche ...

เครื่อง ยนต์ของ 911 รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อคันนี้มีขนาด 3.4 ลิตรและ 3.8 ลิตร และเพื่อเพิ่มสมรรถนะของเครื่องยนต์ให้ล้ำไปอีกขั้น เครื่องยนต์ boxer คันนี้จึงติดตั้งระบบหมุนเวียนไฟฟ้าหรือ electrical system recuperation และระบบการจัดการความร้อน coolant thermal management การจัดการระบบหมุนเวียนไฟฟ้า มีการทำงานคือ แบตเตอรี่จะถูกชาร์จเพิ่มขึ้น เมื่อมีการเบรกหรือผ่อนคันเร่ง (coasting) และเมื่อแบตเตอรี่เต็มแล้ว ไดชาร์จก็จะลดการชาร์จลง ส่งผลให้เครื่องยนต์มีโหลดน้อยลง (โหลดจะเกิดจากการที่เครื่องยนต์ต้องทำการส่งแรงไปหมุนไดชาร์จ) ซึ่งแปลว่าเมื่อทำการเร่งเครื่องกะทันหัน ระบบนี้ก็จะลดการชาร์จลง ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด ขณะเดียวกัน ระบบการจัดการความร้อนอัจฉริยะ coolant thermal management จะสั่งการเปิดปิด วาล์วควบคุมอุณหภูมิของเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังให้อยู่ในอุณหภูมิการทำงานที่เหมาะสม อย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการสึกหรอที่อาจเกิดขึ้นในช่วงแรกของการสตาร์ต เครื่องยนต์ ทั้งยังไม่ส่งผลเสียให้กับเครื่องยนต์ในขณะเครื่องยนต์ร้อน หรือ full-load operation อีกด้วย Coasting คือฟังก์ชั่นการทำงานของรถที่จะเรียกใช้พลังงานของเครื่องยนต์เมื่อต้องการ จริงๆ ได้ถูกนำมาติดตั้งใน 911 ใหม่ที่ติดตั้งระบบเกียร์ PDK ด้วยเช่นกัน ระบบ Coasting จะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากขึ้นเพราะรถจะใช้พลังงานจลสำหรับช่วง ที่จำเป็นเมื่อวิ่งอยู่บนท้องถนน ผลลัพธ์ที่ได้คือการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากกว่า 1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และเหมาะสมกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันอีกด้วย ระบบ Coasting จะทำการปล่อยคันเร่งอย่างช้าๆ หรือทำการเปลี่ยนจังหวะเกียร์ขณะที่อยู่ในเกียร์ที่สูงสำหรับการขับขี่ที่ เลือกอีก ระบบ Coasting นี้จะหยุดการทำงานโดยการเร่งเครื่องยนต์ เบรก หรือทำการเปลี่ยนเกียร์ด้วยมือ

 
Sound Symposer เพิ่มความสุนทรีย์ในการขับขี่จากเสียง
911 Carrera เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดไม่เพียงแค่ทำให้ผู้ขับขี่สุนทรีย์ไปกับการขับขี่แบบ สปอร์ตที่มากยิ่งขึ้น หากแต่เสียงของรถยังมีความไพเราะและเพิ่มความสุนทรีย์ให้ผู้ขับขี่มากยิ่ง ขึ้นอีกด้วย Sound Symposer ได้รับการติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานให้กับทุกรุ่น ระบบนี้จะสร้างเสียงเร่งของเครื่องยนต์ให้เห็นถึงความเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ให้เข้าสู่ห้องโดยสาร ซึ่งทำงานด้วยการควบคุมการทำงานโดยการใช้ปุ่มสปอร์ต (sport button) ระบบ Sound Symposer ถือได้ว่าเป็นระบบแบบ passive system และไม่ได้สร้างเสียงให้กับเครื่องยนต์หากแต่เป็นการผลักดันให้เสียงของ เครื่องยนต์แบบ boxer นั้นเปล่งเสียงออกมาโดยตรงผ่านเข้าสู่ภายในห้องโดยสารของตัวรถเพียงแค่กด ปุ่ม ช่องทางของเสียงอคูสติกที่ไพเราะนี้มาจากการสั่นสะเทือนของท่อระหว่างวาล์ว ปีกผีเสื้อ (throttle valve) และตัวกรองอากาศ (air filter) ช่องของเสียงอคูสติกจะถูกรวมเข้าไว้กับเยื่อบุผิวที่ทำการส่งสัญญาณเข้าสู่ ภายในห้องโดยสารในส่วนของที่เก็บของตรงกระจกด้านหลัง วาล์วที่สามารถควบคุมได้ซึ่งอยู่ทางด้านหน้าของเยื่อบุผิวจะทำให้ระบบ Sound Symposer นั้นเปิดและปิดการทำงานโดยการกดปุ่มสปอร์ตเมื่อผู้ขับขี่ต้องการ

ระบบท่อไอเสียสปอร์ตสร้างพละกำลังและความสุนทรีย์ในการขับขี่ให้มากขึ้น
ระบบ ท่อไอเสียสปอร์ต (Sports exhaust system) เป็นอุปกรณ์เสริมที่สามารถเลือกติดตั้งกับรุ่น 911 Carrera แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เป็นครั้งแรกที่ระบบนี้จะไม่เป็นเพียงทางผ่านสำหรับก๊าซไอเสียโดยการกดปุ่ม เท่านั้น แต่ระบบนี้จะทำการเชื่อมต่อการทำงานของทั้ง 2 ท่อไอเสียที่ติดตั้งอยู่ ด้วยระบบการทำงานเช่นนี้เองที่ทำให้ระบบท่อไอเสียแบบสปอร์ต (Sports exhaust system) สามารถผลิตเสียงของเครื่องยนต์ 6 สูบได้อย่างเต็มพิกัดมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือเสียงของเครื่องยนต์ที่ไพเราะแสดงให้เห็นถึงพละกำลังที่ เหนือชั้น และเพื่อสร้างความแตกต่างและความโดดเด่นของระบบท่อไอเสียสปอร์ตจึงมาในรูป แบบปลายท่อคู่สองคู่ในรูปแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์

ระบบส่งกำลัง 7 จังหวะ
อีก หนึ่งกลยุทธ์หลักของ Porsche ในการสร้างประสิทธิภาพและสมรรถนะของเครื่องยนต์ คือการพัฒนาระบบส่งผ่านกำลังทั้ง 2 ระบบให้มีความเป็นสปอร์ต พร้อมด้วยการประหยัดนำมันเชื้อเพลิง รวมไปถึงอัตราการคงระดับเกียร์ให้ได้นานที่สุด ระบบทั้ง 2 นี้คือระบบเกียร์ธรรมดา 7 จังหวะที่มีใน Porsche เป็นแบรนด์แรก และระบบเกียร์อัตโนมัติแบบคลัตช์คู่ Porsche Doppelkupplungsgetriebe (PDK) ที่มีอัตราทดเกียร์ 7 จังหวะ ผู้ขับขี่ที่เลือกใช้ระบบเกียร์ธรรมดาในรถ 911 Carrera จะสามารถประหยัดนำมันเชื้อเพลิงได้เหมือนกับรถที่ติดระบบเกียร์ PDK ด้วยเช่นกัน รอบเครื่องยนต์จะลดต่ำลงถึง 19% เมื่ออยู่ในความเร็วที่เท่ากัน ส่งผลให้รถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงถึง 10% ลักษณะเด่นของระบบส่งผ่านกำลังแบบเกียร์ธรรมดาคือการล็อก shift gate ของเกียร์ 7 เพื่อป้องกันผู้ขับขี่ในการเปลี่ยนเกียร์เข้าสู่ระดับเกียร์ 7 จากเกียร์ที่ 4 และ 5 ที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็วระหว่างการขับขี่แบบสปอร์ต

 
Porsche ได้ทำการเตรียมพร้อมในการพัฒนา 911 Carrera ขับเคลื่อนสี่ล้อเจเนอเรชั่นใหม่ โดยการปรับให้ตัวถังรองรับการขับเคลื่อนทางล้อหน้าให้มากขึ้น คำตอบว่าทำไมรถใหญ่ขึ้นหากเทียบกับเวอร์ชั่นขับเคลื่อนล้อหลัง ทางด้านหลัง รถมีความกว้างมากขึ้นโดยในรุ่น 911 Carrera 4 จะมีขนาดที่กว้างขึ้น 42 มม. และในรุ่น 911 Carrera 4S จะกว้างขึ้น 36 มม. ซึ่งการขยายให้กว้างขึ้นของขนาดรถนี้จะทำงานร่วมกับระบบ PTM all-wheel drive และทำให้รถมีสมรรถนะในการรักษาเสถียรภาพของรถในยามเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ได้ดี ฐานล้อของ 911 ใหม่จะยาวกว่ารุ่นเดิม 100 มม. ส่งผลให้รถสามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีเสถียรภาพแม้ขณะใช้ความเร็วสูง อีกหนึ่งระบบที่ช่วยให้รถมีประสิทธิภาพการขับเคลื่อนที่ดีคือระบบการจัดการ ช่วงล่าง Porsche Active Suspension Management (PASM), ระบบ dynamic engine mounts, ระบบควบคุมความคล่องตัวของตัวถัง Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC), ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า electro-mechanical power steering, ระบบกระจายแรงบิด Porsche Torque Vectoring (PTV) รวมไปถึงระบบเบรกที่ทรงประสิทธิภาพ ร่วมด้วยยางและล้อที่มีคุณภาพ
ตัวถังแบบสปอร์ตที่มาพร้อมกับ PASM (PASM Sport Chassis)
ตัว ถังแบบสปอร์ตที่มาพร้อมกับ PASM (PASM Sport Chassis) ที่สามารถปรับเปลี่ยนความสูงให้ต่ำลงได้ถึง 20 มม.พร้อมกับแพ็กเกจอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamic package) สามารถเลือกติดตั้งได้ใน 911 Carrera 4 การออกแบบของลิ้นสปอยเลอร์ด้านหน้าช่วยเพิ่มในเรื่องของอากาศพลศาสตร์ สปอยเลอร์หลังสามารถขยายได้มากขึ้นไปอีกหากเปรียบเทียบกับรุ่นที่ไม่ได้ติด ตั้งตัวถังสปอร์ตมาด้วย ผลลัพธ์ที่ได้คือ ความสมดุลทางอากาศพลศาสตร์ที่มากขึ้น แรงยกที่น้อยลงทางด้านเพลาหน้า เพิ่มแรงกดทางด้านเพลาหลังมากขึ้น และการยกของรถถือได้ว่าเป็นศูนย์ทำให้ 911 Carrera 4 กับ PASM sport chassisสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูง พร้อมทั้งยังควบคุมทิศทางบนพื้นถนนได้ดี ตอบสนองต่อการควบคุมพวงมาลัยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า (Electro-mechanical power steering) 911 Carrera เจเนอเรชั่นใหม่ติดตั้งระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้าหรือ electro-mechanical power steering เป็นครั้งแรกสำหรับ Porsche ระะบบนี้มีความโดดเด่นในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานและความแม่นยำ จุดเด่นของระบบนี้หากเปรียบเทียบกับระบบพวงมาลัยแบบไฮดรอลิกแล้วจะพบว่าช่วย ในการประหยัดนำมันเชื้อเพลิงได้อย่างน้อย 0.1 ลิตรต่อ 100 กม.การตอบสนองที่แม่นยำนี้จะถูกส่งถึงผู้ขับขี่ผ่านพวงมาลัย ถึงแม้จะอยู่ในความเร็วต่ำ พวงมาลัยจะทำการจัดตำแหน่งตัวเองให้อยู่ในระดับตรงโดยอัตโนมัติ เมื่อทำการเบรกบนพื้นผิวถนนที่มีระดับไม่เท่ากัน พวงมาลัยจะทำการจัดตำแหน่งในทิศทางที่ต้องการ และทำให้ง่ายต่อผู้ขับขี่ที่จะรักษาเสถียรภาพของรถและรักษาตำแหน่งของรถใน ช่องทางที่ต้องการได้ เพื่อสร้างความสะดวกสบายต่อการเคลื่อนที่ของรถเมื่อต้องอยู่ในความเร็วที่ ต่ำกว่า 50 กม./ชม.

 
ระบบการกระจายแรงบิด Porsche Torque Vectoring
911 Carrera 4S ได้รับการติดตั้งระบบการกระจายแรงบิดไปยังแต่ละล้อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพใน การเข้าโค้งด้วยระบบ Porsche Torque Vectoring (PTV)เป็นมาตรฐานให้กับรถ เพื่อสร้างความคล่องตัวในการใช้งาน สำหรับรุ่น 911 Carrera 4 สามารถเลือกติดตั้งเป็นอุปกรณ์เสริม ระบบจะมีให้เลือกติดตั้งถึง 2 เวอร์ชั่นคือ PTV เวอร์ชั่นที่มาพร้อมกับ Mechanical differential lock หากติดตั้งกับระบบเกียร์ธรรมดา และหากติดตั้งกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบคลัตช์คู่ PDK ระบบ PTV จะติดตั้งมาในเวอร์ชั่น PTV Plus ที่มีการควบคุมโดยไฟฟ้า และมีระบบเฟืองท้ายแบบ variable differential lock เต็มรูปแบบ ระบบ PTV/PTV Plus รองรับขณะเข้าโค้ง ล้อหลังด้านในจะได้รับการเบรกเมื่อเริ่มหมุนพวงมาลัยนั่นเอง แรงบิดของการขับเคลื่อนล้อหลังด้านนอกจะมากกว่าล้อด้านใน และด้วยแรงบิดที่แตกต่างนี้เองทำให้รถเกิดการหันเหและช่วยในเรื่องของการ หมุนพวงมาลัย ผลลัพธ์ที่ได้คือการทรงตัวที่ดีการควบคุมพวงมาลัยที่มีความแม่นยำ

ปุ่มสปอร์ตเข้าสู่แพ็กเกจ Sport Chrono package
911Carrera ได้รับการติดตั้งปุ่มสปอร์ตมาเป็นมาตรฐานให้กับรถ ระบบนี้จะทำให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกการตั้งค่าระหว่างการเพิ่มความสะดวกสบาย หรือการประหยัดนำมันเชื้อเพลิง หรือเลือกตั้งค่าให้มีความสปอร์ต ด้วยการติดตั้งแพ็กเกจ Sport Chrono Package พร้อมด้วยปุ่มสปอร์ต พลัสทำให้รถสามารถตั้งค่าการขับขี่แบบสปอร์ตได้มากขึ้นควบคู่ไปกับความสะดวก สบายในการขับขี่ในชีวิตประจำวันแพ็กเกจ Sport Chrono Package ยังมีคุณสมบัติที่ติดตั้งเข้ากับเครื่องยนต์หรือ dynamic engine mounts หากเปิดการทำงานของปุ่ม Sport Plus ระบบการรักษาเสถียรภาพรถอย่าง PSM จะเข้าไปช่วยการทำงานของทั้งระบบเกียร์ธรรมดาและระบบเกียร์อัตโนมัติ PDK เพื่อความคล่องตัวและว่องไวในการขับขี่มากยิ่งขึ้น อุปกรณ์เสริมเลือกติดตั้งอย่างระบบช่วงล่าง PASM ระบบ PTV Plus ระบบควบคุมตัวถัง PDCC และระบบ dynamic engine mounts ที่เปลี่ยนเข้าสู่โหมดสปอร์ตจะทำให้ช่วงล่างและตัวถังเกิดการตั้งค่าในรูป แบบสปอร์ตมากยิ่งขึ้น แป้นคันเร่งที่มีลักษณะโค้งได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยเช่นกันเพื่อการตอบสนอง ได้โดยตรง ระบบ auto start/stop และ coasting functions จะหยุดการทำงาน ระบบเสียงของเครื่องยนต์อย่าง Sound Symposer และระบบท่อไอเสียอย่าง sports exhaust system ที่เป็นอุปกรณ์เสริมเลือกติดตั้งนั้นจะเปิดการใช้งานด้วยเช่นเดียวกัน ระบบไฟเพื่อความคล่องตัวอย่าง Porsche Dynamic Light System มีการตอบสนองที่รวดเร็วขึ้น

Sport Chrono package เปลี่ยนเกียร์ลงด้วย double declutching
Sport Chrono package มีทั้งนาฬิกาจับเวลาในรูปแบบอนาล็อกและดิจิตอล คุณลักษณะที่โดดเด่นของ Sport Chrono package ที่เป็นอุปกรณ์เสริมสามารถเลือกติดตั้งได้คือ การขยายการ double declutch แบบอัตโนมัติระหว่างการเปลี่ยนเกียร์ลงในโหมดสปอร์ตพลัสให้กับรถที่ติดตั้ง เกียร์ธรรมดาอีกด้วย ด้วยการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วนี้เองที่จะทำให้ปรับเปลี่ยนความเร็วของ เครื่องยนต์สู่ระดับเกียร์ที่ต่ำกว่า และทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้พละกำลังของเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้น หรือ สามารถเบรกได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเมื่อทำงานร่วมกับระบบเกียร์ PDK ฟังก์ชั่นอื่นได้ถูกเสริมเพิ่มเข้าไป อาทิ ระบบควบคุมการออกตัว (Launch Control) ที่ช่วยให้รถเร่งเครื่องขณะออกตัวเมื่อกดปุ่มสปอร์ต พลัส และทำให้อัตราเร่งเครื่องจาก 0–100 กม./ชม. นั้นลดลงถึง 0.2 วินาที ปุ่มสปอร์ต พลัส ยังเปิดการทำงานของระบบเกียร์อัตโนมัติ PDK ในรูปแบบ “Race course” ซึ่งเป็นการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วขึ้นเพื่อการเร่งเครื่องที่รวดเร็วและ เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ




Porsche Dynamic Chassis Control
อีก หนึ่งระบบที่ทำให้สมรรถนะของรถ 911 Carrera 4S เจเนอเรชั่นใหม่นี้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่ารุ่นเก่าคือระบบควบคุมตัวถัง เพื่อการขับเคลื่อนอย่าง Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC) เป็นอุปกรณ์เสริม เมื่อรถอยู่ในลักษณะที่ลาดเอียงทางด้านข้าง อาทิ เมื่อเข้าโค้ง เมื่อเลี้ยว หรือเปลี่ยนช่องทางขับขี่ในขณะความเร็วสูง ระบบ PDCC จะทำงานโดยช่วยสนับสนุนให้อัตราเร่งของด้านข้างนั้นสูงมากที่สุดเท่าที่จะทำ ได้ เพราะการลดองศาการโคลงของรถ ทำให้ยางรถอยู่ในตำแหน่งที่สัมพันธ์กับพื้นผิวถนนและสามารถส่งผ่านกำลังด้าน ข้างได้สูงขึ้น จากการเพิ่มความสามารถในการเร่งความเร็วในขณะเข้าโค้งคือความสามารถของรถที่ เปรียบเสมือนวิ่งบนสนามแข่งขัน ระบบนี้ยังทำให้พวงมาลัยนั้นตอบสนองได้อย่างเที่ยงตรงแม่นยำในการเลี้ยว การควบคุมการทำงานของตัวถังด้วยระบบอัจฉริยะ PDCC ช่วยให้เกิดการควบคุมอุปกรณ์การทำงานไฮดรอลิก (hydraulic actuators) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะการขับขี่ ระบบนี้จะส่งผลดีต่อการบังคับพวงมาลัยด้วยตัวเองและยังพัฒนาเสถียรภาพของรถ นวัตกรรมการใช้ตัวรถที่มีน้ำหนักเบาได้ถูกนำมาใช้ในรถ 911 Carrera ใหม่ล่าสุดเกือบทุกรุ่น เพื่อการขับขี่ที่ดีไม่ว่าจะเป็นรุ่นคูเป้และเปิดประทุน และยังถูกนำมาใช้ทั้ง 911 แบบระบบขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนเล็กน้อย ทุกรุ่นล้วนได้ประโยชน์จากการใช้โครงสร้างจากเหล็กอลูมิเนียมที่มีน้ำหนัก เบา รวมไปถึงหลังคาประทุนของ 911 ที่ทำจากวัสดุนำหนักเบา แนวคิดที่อยู่เบื้องหลังของการออกแบบโดยใช้วัสดุที่ถูกต้องและใช้กับชิ้น ส่วนอย่างถูกที่ถูกทาง ถึงแม้การออกแบบจะทำให้รถต้องขยายสัดส่วนให้ใหญ่ขึ้น แต่โดยรวมแล้วกับมีน้ำหนักที่เบาลงหากเทียบกับรุ่นเดิม โดย 911 ใหม่ที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อนี้จะมีน้ำหนักที่น้อยกว่ารุ่นเดิม ถึง 65 กิโลกรัม

หลังคา ประทุนของ 911 ขับเคลื่อนสี่ล้อมี Panel bow top พัฒนาออกมาใหม่หมดจาก Porsche นวัตกรรมเทคโนโลยีนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง การสร้างโครงหลังคาให้เปรียบเสมือนกับรุ่นคูเป้เมื่อทำการปิดประทุนอยู่เลย ทีเดียว และส่งผลให้รถมีประสิทธิภาพจากความสมดุลตามอากาศพลศาสตร์ น้ำหนักของหลังคาเกือบจะเท่ากับรุ่นเดิม แต่มีความยาวมากกว่าและสร้างความสะดวกสบายในการขับขี่ได้มากกว่า หลังคาประทุนสามารถเปิดหรือปิดได้ในเวลาเพียงแค่ 13 วินาที สามารถสั่งงานด้วยการเปิดหรือปิดในขณะที่รถอยู่ในความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. การเปิดปิดนั้นทำง่ายได้เพียงแค่กดปุ่มบนคอนโซลกลางหรือกดปุ่มจากรีโมต คอนโทรลเมื่ออยู่นอกรถ

เมื่อ หลังคาปิดอยู่ ภายใต้พื้นผิวของหลังคาผ้าใบนั้นมีวัสดุที่ใช้เป็นฉนวนซ่อนอยู่ ส่วน Panel bows ทำจากแมกนีเซียมและมีขอบหลังคาที่กลมกลืนกับภายในห้องโดยสาร แผงทางด้านข้างได้รับการปิดด้วยลายผ้าใบ ซึ่งทำให้ไม่เห็นชิ้นส่วนกลไกเมื่อหลังคาเปิดอยู่ ช่องว่างของศีรษะมีสัดส่วนเหมือนกับภายในห้องโดยสารของรุ่นคูเป้ นวัตกรรมที่โดดเด่นของ 911 เปิดประทุนคันนี้คือ การเสริมแผงกันลมแบบไฟฟ้าเข้าไป ซึ่งจะควบคุมโดยไฟฟ้า ไม่จำเป็นต้องใช้มือเปิด–ปิด อีกต่อไป


http://www.roddb.com/images/banners/RodDB_88x31.gif

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น