วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ชาวไร่ไฮโซ MINI COUNTRYMAN COOPER D (ตอนที่1)



ทดสอบการขับขี่ MINI Countryman Cooper D ยานยนต์ 5 ประตูพลังดีเซลอัดเทอร์โบกึ่งลุยกึ่งหรูของ BMW Group
ตอนแรกกับการรีวิวตัวถัง ภายใน อุปกรณ์อำนวยความสะดวก เครื่องยนต์ ชุดส่งกำลัง ระบบรองรับและราคาค่าตัว...

มัน เหมือนคนตัวเล็กที่ไป เข้าคอร์สออกกำลังกายอย่างหนักพร้อมๆ ไปกับการกินสารกระตุ้นกล้ามเนื้อพวกสเตียรอยด์ MINI Countryman คือตัวอย่างของการแตกสายพันธ์ุเพื่อการตลาดอย่างแท้จริง มันไม่ได้เป็นเพียงแค่รถยนต์รุ่นเก่าที่ถูกนำมาสานตำนานด้วยรูปลักษณ์ใหม่ อีกต่อไป มันได้กลายมาเป็นรถ BMW คันเล็กไปแล้วจากคุณภาพของงานประกอบการขับขี่ วัสดุและราคา ทุกวันนี้ รถ MINI ได้แฝงเอาความร่วมสมัยและแนวทางการออกแบบใหม่ๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของคนทั่วไป การเดินตามแฟชั่นคือความทันสมัยที่เปลี่ยนแปลงให้รถ MINI ในทุกวันนี้มีรูปทรงที่แปลกตามากยิ่งขึ้น มันตัวโตขึ้น มีระบบรองรับการขับขี่มากยิ่งขึ้นพร้อมๆ ไปกับราคาที่สูงขึ้นจนขึ้นไปอยู่ในชั้นของรถเล็กระดับพรีเมี่ยม นับจากปี 2001 ที่ BMW Group เข้ามาซื้อกิจการของ MINI ต่อจากแบรน์ ROVER ที่กำลังประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก จนมาถึงทุกวันนี้บนตัวเลขยอดขาย 1.5 ล้านคันทั่วโลกคือความสำเร็จที่ยากจะทำลาย กลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ต้องการรถยนต์ที่มีรูปแบบหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทุกที สาเหตุดังกล่าวทำให้ MINI สูญเสียความเป็นตัวตนไปพอสมควรจากการทำรถที่เน้นหนักทางด้านการตลาดมากจน เกินไป ในปี 2008 รถต้นแบบ Countryman Concept ได้สร้างความตกตะลึงให้กับแฟนๆ ของ MINI ในงานแสดงรถยนต์ปารีสมอเตอร์โชว์ ด้วยตัวถังแบบ 5 ประตู พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและช่วงล่างแนว Crossover มันตัวอ้วนขึ้นและสูงขึ้นมาก แม้จะไม่ดูดีเท่ารุ่นตัวถัง 3 ประตู แต่การมาถึงของ Countryman เป็นการป่าวประกาศให้โลกรู้ว่า BMW Group พร้อมแล้วสำหรับการขยายตลาดสู่ฐานลูกค้ากลุ่มใหม่และพยายามรักษาความนิยมใน แบรนด์ MINI ไว้ นับเป็นครั้งแรกที่ BMW กล้าที่จะตัดสินใจเพิ่มความหลากหลายของตัวถัง MINI ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาว่า กำลังทำให้ MINI ในทุกวันนี้ขาดความเป็นตัวตนที่ชัดเจน


ทุกๆ ค่ายในห้วงเวลานี้พยายามทำรถของตนเองให้มีขนาดที่เล็กลง แต่กลับสวนทางอย่างสิ้นเชิงเมื่อพบกับรูปลักษณ์ของเจ้า MINI Countryman เพื่อทำให้มันมีความอเนกประสงค์ด้านการใช้งานมากยิ่งขึ้น ขนาดของตัวถังรหัส R60 จึงถูกขยายออกไปทุกทิศทุกทาง รถทดสอบ Countryman Cooper D ขับเคลื่ิอน 2 ล้อหน้าคันนี้มีความกว้าง 1,789 มิลลิเมตร ยาวถึง 4,097 มิลลิเมตรและมีความสูงถึง 1,561 มิลลิเมตร เมื่อมองดูใกล้ๆ จะพบความอวบอ้วนของตัวถังที่ถูกดีไซน์ให้อ้างอิงกับรถยนต์ในแนว Crossover ซึ่งมีมิติความสูงมากกว่ารถยนต์ทั่วๆ ไป ด้านหน้าของเจ้า Countryman มีไฟหน้าแบบใหม่ที่ไม่ซ้ำกับไฟของรุ่น 3 ประตู จากขนาดที่ใหญ่กว่า กระจังหน้าก็ยังมีมิติที่เพิ่มมากขึ้นแม้จะยังมีรูปแบบที่คล้ายคลึงกันกับ รุ่น 3 ประตูตัวเล็ก สปอยเลอร์หน้าหรือกันชน วางไฟตัดหมอกทรงกลมบริเวณมุมทั้งสองด้าน ส่วนช่องรับอากาศเพื่อระบายความร้อนให้กับหม้อน้ำและรังผึ้งของระบบปรับ อากาศนั้นก็ยังใหญ่โตตามขนาดของตัวรถไปโดยปริยาย ฝากระโปรงออกแบบให้มีมุมมองที่นูนขึ้นเล็กน้อยตรงกลาง พร้อมไปกับการคาดสติกเกอร์ตามแนวทางของ MINI ที่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ส่วนตัวไปแล้ว

มุม มอง ด้านข้างตัวถังของ MINI Countryman Cooper D จะพบเห็นความใหญ่โตได้อย่างชัดเจนทั้งจากขนาดของความสูงและแนวของกระจกบังลม เสาหน้ามีความลาดเอียงน้อยลงกลับทำให้ทัศนวิสัยมุมมองด้านหน้าปลอดโปร่งมาก ยิ่งขึ้น พลาสติก ABS ใช้ตกแต่งซุ้มล้อหน้า-หลังกับแนวชายล่างของขอบบันไดตัดกับสีขาวของตัวถัง แก้มข้างวางไฟเลี้ยวไว้คนละแนวกับรุ่นตัวถังเล็กด้วยการใช้แนวทะแยงที่ลงตัว กับไฟเลี้ยวทรงยาวแทนที่ไฟเลี้ยวทรงกลมของเจ้าตัวเล็ก ล้ออัลลอยลายแนวๆ สีขาวขอบ 17 นิ้วแบบ 5 รูน็อตยึด ห่อรัดเอาไว้ด้วยยางกึ่งลุยของ Bridgestone ไซส์ 205/55/R17 แก้มยางที่สูงขึ้นมากกว่ารุ่นเล็กยังช่วยทำให้การวิ่งลุยทางฝุ่นหรือทางขรุ ขระดีขึ้น แนวของหลังคาที่ค่อยๆ ลดระดับความลาดเอียงไปยังส่วนท้ายสอดรับกับเสาหลังที่ค่อนข้างเตี้ยได้ดี ที่แปลกตาคือเสาอากาศซึ่งติดตั้งอยู่บนหลังคาทางส่วนหลังที่สูงโด่ง บานประตูใช้มือจับแบบพลาสติกชุบโครเมี่ยมสีเงินช่วยเพิ่มเติมมุมมอง หลังคาสีดำกับรถสีขาวตัดกันอย่างลงตัวและสวยงาม ในรุ่น Countryman Cooper D ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้าซึ่งมีราคาลดต่ำลงมาจากรุ่น Countryman All4 Cooper SD ไม่มี Moon roof ติดตั้งมาให้เหมือนกับรุ่นสูงสุด สันหลังคามีชิ้นงานใช้สำหรับติดตั้งแร็คหลังคาสำหรับขนของ
ผู้ คนส่วนใหญ่คาดหวังกับขนาดที่โตขึ้นแบบรถ SUV ที่ใช้งานได้ดีและ Countryman Cooper D ตอบโจทย์นี้ได้อย่างลงตัวแม้จะไม่ใหญ่เท่ากับรถขับเคลื่อน 4 ล้อเต็มรูปแบบ บั้นท้ายของมันสร้างความแตกต่างอย่างมีเสน่ห์รวมถึงงานวิศวกรรมโครงสร้างและ ความประณีตในการประกอบ ฝาท้ายเปิดออกได้ด้วยมุมที่สูงเป็นพิเศษสำหรับการขนสัมภาระ ไฟท้ายแนวตั้งมีขนาดที่โตขึ้นตามมิติของตัวถัง ส่วนชิ้นงานสปอยเลอร์หลังหรือกันชนด้านหลังก็ยังลงตัวสอดรับกับส่วนท้าย กระจกบานหลังที่ติดอยู่กับฝาท้ายมีขนาดเล็กไปนิดและต้องเพิ่มความระวัง ขณะที่กำลังถอยหลังเนื่องจากความสูงของตัวรถ สำหรับ Countryman Cooper D มีเซ็นเซอร์ถอยหลังพร้อมสัญญาณเสียงเมื่อเข้าใกล้วัตถุกีดขวาง กระจกบังลมด้านหลังมีใบปัดน้ำฝนขนาดเล็กและไฟเบรกดวงที่ 3 แบบหลอด LED มาให้อีกด้วย

ถึง แม้ตัวจะโตแต่ภายใน ห้องโดยสารของ Countryman Cooper D ยังคงกลิ่นไอของ MINI รุ่นปกติเอาไว้อย่างเหนียวแน่นจากการจัดวาง การคัดสรรวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในและรูปแบบของปุ่มสวิตช์ต่างๆ ที่ยังคงเหมือน กับรุ่น 3 ประตู มาตรวัดใหญ่ขนาดชามก๋วยเตี๋ยวไม่มีจอมัลติฟังก์ชั่นเหมือนกับรุ่นสูงสุด มีชุดเครื่องเสียงแบบ CD-MP3 AM-FM พร้อมช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์เล่นเพลงจากภายนอก ชุดควบคุมอุณหภูมิและปุ่มสวิตช์เปิด-ปิดกระจกบังลมแบบไฟฟ้ากับระบบไฟส่อง สว่างอยู่ค่อนข้างต่ำทำให้การใช้งานไม่ค่อยสะดวกเท่าที่ควร ภายในของ Countryman Cooper D คันทดสอบเน้นสีแบบทูโทนดำสลับแดง เบาะแบบผ้าใช้หนังแท้สีเทาเข้มหุ้มขอบเพื่อความคงทน แผงประตูสีดำสลับแดง ที่ออกแบบได้ดีและโดนใจคือคอนโซลพลาสติกขึ้นรูปที่หุ้มด้วยไวนิลคุณภาพสูง สำหรับป้องกันเสียงแปลกปลอมจากภายนอก พวงมาลัยสามก้านกับสวิตช์ปรับตั้งเครื่องเสียงและปุ่มรับสายโทรศัพท์ หลังวงพวงมาลัยยังมีแป้นเปลี่ยนเกียร์หรือ Paddle Shift ทำจากพลาสติกสีดำ ช่องแอร์ทรงกลมที่เข้ากันกับหน้าปัดมาตรวัด ซุ้มเกียร์ออโต้ทำออกมาคล้ายๆ กับเกียร์ธรรมดาโดยใช้ถุงหนังแท้สีดำห่อหุ้ม คันเกียร์ แม้จะเต็มไปด้วยพลาสติกรอบๆ ห้องโดยสาร แต่รูปแบบและงานดีไซน์รวมถึงการจัดวางทำออกมาได้ดีโดนใจวัยรุ่นเหมือนเดิม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น